ราวกับว่าได้เขียนบทละครเอาไว้ล่วงหน้า เมื่อมวลชนในนามม็อบมุ้งมิ้งมโนสาเร่คณะราษฎร 2563 สร้างประเด็นร้อนฉ่านัดชุมนุมภายใต้สโลแกน “นับ 1 ถึงล้านทวงคืนอำนาจประชาชน” ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนเคลื่อนย้ายมวลชนเพื่อไปที่ศาลหลักเมืองก่อนจะเผชิญหน้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยควบคุมฝูงชนที่ตั้งแถวเป็นแนวสกัดกั้นบริเวณหน้าศาลฎีกา เพื่อไม่ให้ขบวนเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายเนื่องจากจุดหมายดังกล่าวอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวัง สุดท้ายมวลชนผู้ชุมนุมก็กลายร่างเป็น “ปีศาจร้าย” แสดงธาตุแท้ของการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ จนทำให้เกิดความวุ่นวายกลายเป็นภาพข่าวร้อนฉาวโฉ่ไปทั่วโลก พฤติกรรมเยี่ยงนี้สื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะสิงคโปร์เพื่อนบ้านเราระบุว่าเป็นการชุมนุมที่น่าเกลียด Ugly ที่สุด
ยังมีโชคดีเกิดขึ้นหลังการชุมนุมผ่านไปด้วยความวุ่นวายรุนแรง สังคมไทยได้เห็นข้อเท็จจริงอย่างน้อยสองประการ ที่ทำให้ทราบว่าอะไร อย่างไร
อย่างแรกสังคมไทยได้ประจักษ์ชัดเจนกับการไร้วุฒิภาวะความเดียงสาของแกนนำม็อบคณะราษฎร 2563 จนไม่สามารถควบคุมมวลชนที่ถูกปลุกเร้าจนทำให้เกิดความวุ่นวายความรุนแรงจนถึงขั้นถูกสื่อต่างประเทศประณามว่าเป็นม็อบที่น่าเกลียดที่สุด ที่ต่อมารุ้ง - ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับผิดโดยดุษฎีว่าเกิดความผิดพลาดทำให้ควบคุมมวลชนไม่อยู่
อย่างที่สองคือสังคมไทยได้เห็นบริบทที่ชัดเจนของมวลชนรวมทั้งอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของนักการเมืองรุ่นใหม่ ผู้นำทางความคิด เห็นนักวิชาการคำผกาที่แฝงตัวเป็นเหลือบโลนไรในร่มผ้า และเห็นเยาวชนอนาคตของชาติ ที่ฉกฉวยจังหวะความวุ่นวายความเดียงสาของแกนนำละเลงขนมเบื้องใส่สีตีไข่พลิกขาวเป็นดำพลิกดำเป็นขาว โดยมิใส่ใจข้อเท็จจริงแม้แต่น้อย กล้าที่จะสร้างภาพกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียสละเวลามาทำหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดว่าขาดความเป็นธรรมไร้มนุษยชนกระทืบหมอ ถึงขั้นติดแฮชแท็กประจานตำรวจกระทืบหมอ พร้อมนำเสนอภาพที่มีลักษณะคล้ายว่าตำรวจกลุ่มหนึ่งกำลังรุมทำร้ายแพทย์อาสาสมัคร โดยมิได้นำภาพที่มีสื่อมวลชนถ่ายคลิปผู้ชุมนุมรายนี้ขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งไม่พยายามกล่าวถึงในส่วนนี้
ความละอายเป็นอนุสัยเดิมของมนุษย์ คนที่มีความละอายจะไม่กล้าไปกระทำความชั่ว คนที่ไร้ความละอาย จิตใจจะถูกครอบงำด้วยกิเลส ตัณหา จนความดีความชั่วแยกไม่ออกชอบประพฤติผิดศีลจริยธรรมอยู่เสมอ ความละอายเป็นหนึ่งในคุณธรรมแปดข้อที่สำคัญ
ไม่เพียงแค่กลุ่มบุคลากรที่ได้กล่าวถึงเท่านั้น แต่เรายังได้เห็นพฤติกรรมของบุคคลสาธารณะบางรายที่ฉกฉวยเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างราคาให้กับตัวเองอย่างไร้ยางอายไร้สามัญสำนึกใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ใช้ “แก๊สน้ำตา” อีกต่างหาก เมื่อไร้ซึ่งความละอายเสียแล้วพึงต้องมองว่าบุคคลนั้นเป็นคนพาลคนชั่ว
เราขอเรียกร้องให้ “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” หาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษทัณฑ์ตามตัวบทกฎหมายด้วยนิติรัฐ-นิติธรรมอย่างเข้มข้นและเที่ยงตรง เพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายไม่ใช่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามสบายเพียงเพราะอาศัยคำว่าสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย ปากพล่อยใส่ร้ายเจ้าพนักงานแล้วลอยนวลเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี