ในช่วง 20-80 ปีที่ผ่านมา ภูมิภาคโลกที่เป็นข่าวมากที่สุดทุกวี่ทุกวันอย่างไม่ว่างเว้น ก็คือตะวันออกกลางโดยเรื่องราวก็มากมายสลับซับซ้อนกัน ไม่ว่าเรื่องความเชื่อถือระหว่างศาสนาและภายในศาสนา เรื่องชาติพันธุ์ เรื่องอุดมการณ์ทางการเมือง ผลประโยชน์ทางด้านทรัพยากรทางธรรมชาติคือก๊าซ และน้ำมัน ไปจนถึงเรื่องค้างคามาจากเรื่องของประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะจากยุคอาณานิคมตะวันตก และสงครามเย็น
ความสับสนยุ่งเหยิงก็เต็มไปด้วยการใช้ความรุนแรง ทั้งสงครามในรูปแบบสงครามจรยุทธ์ และสงครามแบบการก่อการร้าย ซึ่งนอกจากทะเลาะเบาะแว้งกันเองแล้ว ก็ยังถูกยุยงและแทรกแซงจากภายนอกด้วย
ผลกระทบที่ตามมา คือชีวิตของผู้คน การสูญเสียโอกาสในชีวิต การอพยพลี้ภัยภายในดินแดน และจากดินแดนสู่ภูมิภาคอื่นๆ และเมื่อไปเป็นคนแปลกหน้าในต่างถิ่น เรื่องการต่อต้าน การรังเกียจเดียดฉันท์ และความไม่ไว้วางใจกันก็เกิดขึ้นก่อให้เกิดลัทธิคลั่งชาติ คลั่งชาติพันธุ์นิยม และการไม่เอื้ออาทรต่อกันและกัน
แต่มนุษย์นั้น เมื่อมีปัญหาขัดแย้ง ก็ต้องเพียรพยายามหาทางแก้ไข และจะเริ่มต้นได้ก็ต้องตระหนักและยอมรับกันก่อนว่า การใช้วิธีการรุนแรงใดๆ หรือการใช้กำลังประหัตประหารกัน ไม่ใช่ทางออก เพราะทำให้เรื่องไม่สิ้นสุด หากจะต้องหันหน้าเข้าหากัน เจรจาต่อรอง ออมชอม แบ่งรับแบ่งสู้ได้บ้าง เสียบ้าง เพื่อจักได้สันติภาพ และนำมาซึ่งสันติสุข
เมื่อทุกฝ่ายทุกคนมีที่ยืนด้วยความรู้สึกมั่นคงว่า แฟร์ และยุติธรรม ซึ่งก็หมายความว่าจะต้องมีการริเริ่มให้มีการพบปะเจรจาหารือกันในระดับภูมิภาค ซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่เคยมีกันมาก็มักจะเป็นแค่เฉพาะกลุ่ม หรือเฉพาะเรื่องไม่เคยมีการหารือกันในภาพรวมว่า ภูมิภาคตะวันออกกลางจะอยู่ร่วมกันอย่างไร
ก็มีคำถามว่า แล้วใครเล่าที่จะริเริ่มให้มีการหารือ และจัดการหารือ?
ก็ต้องพิจารณาดูว่า ในภูมิภาคตะวันออกกลางนั้นมี “ผู้เล่น” (Actors หรือ Players) หลักเป็นใครบ้าง
ก็พอจะประมาณได้ว่า มีตุรกี อิหร่าน อิสราเอลชนเคิร์ด (Kurds) และกลุ่มอาหรับทั้งหมด
ทั้งตุรกี อิหร่าน อิสราเอล และเคิร์ดนั้น ต่างก็รวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ต่างเป็นชาติพันธุ์เฉพาะ ชนเติร์ก มีตุรกีเป็นประเทศที่มีความเป็นตัวของตัวเอง และเป็นรัฐชาติมายาวนาน อิหร่าน เปอร์เซีย ก็เช่นเดียวกัน ส่วนยิว อิสราเอลนั้นก็มีการศึกษาสูง มีความชำนิชำนาญการในหลายๆ ด้านสาขาเศรษฐกิจการเงิน และวิทยาศาสตร์ และการบริหารจัดการ ส่วนพวกเคิร์ด แม้มิได้เคยเป็นประเทศ (กระจัดกระจายอยู่ในอิรัก ซีเรีย และตุรกี) ก็มีการรวมตัวบริหารจัดการที่เป็นเรื่องเป็นราว
ก็มีแต่พวกอาหรับ ซึ่งเคยเป็นเจ้าภูมิภาคและนำพาศาสนาอิสลามไปในโลกกว้าง ที่ไม่ค่อยจะรวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน แม้จะมีซาอุดีอาระเบียเป็นพี่เบิ้ม แต่ความเป็นผู้นำก็ไม่จัดเจน โครงสร้างและเนื้อหาการเป็นรัฐชาติ ก็ไม่ชัดเจน จัดได้ว่าเป็นรัฐที่ยังอ่อนด้อยอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกลุ่มอาหรับก็ต้องรวมตัวเพื่อพูดเป็นเสียงเดียวกันให้ได้ เพื่อไปเจรจาต่อกรกับตุรกี อิหร่าน อิสราเอล และเคิร์ด
แล้วใครจะอยู่ในฐานะที่จะริเริ่มการประชุมพบปะเจรจาในระดับภูมิภาคได้?
ณ วันนี้ ตุรกีก็น่าจะได้รับความน่าเชื่อถือมากที่สุด อันสืบเนื่องมาจากเสถียรภาพการเมืองภายใน จำนวนประชากร กำลังทัพ และเป็นอิสลามนิกายสุหนี่ และไม่มีสภาพการเป็นคู่อริกับอิหร่าน (นิกายชีอะห์) หรืออิสราเอล อีกทั้งตุรกีก็ญาติดีกับรัสเซีย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงต่อความเป็นไปในตะวันออกกลาง ทั้งทางออกสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และทั้งเรื่องการต่อสู้กับพวกอิสลามการเมือง (Islamist หรือPolitical Islam) และตุรกีก็ยังเป็นสมาชิกองค์การนาโต ร่วมกับสหรัฐอเมริกา และยุโรป
นอกจากนั้น สปอนเซอร์ใหญ่ในการประชุมนี้ก็น่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา และรัสเซีย (ซึ่งต่างก็เป็นสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่รับผิดชอบเรื่องความมั่นคงและสันติภาพของโลกอยู่แล้ว) หรือแม้กระทั่งเลขาธิการสหประชาชาติ ก็สามารถจะริเริ่มได้ เพราะเป็นหน้าที่ที่จะช่วยดูแลโลกอยู่แล้ว
หากจัดประชุมกันขึ้นได้ ประเด็นหลักๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญก็น่าจะไม่พ้นเรื่องดังนี้
- ตะวันออกกลางเป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์
- การลดอาวุธ โดยเฉพาะบรรดาจรวดขีปนาวุธ
- การให้ทุกกลุ่มในแต่ละประเทศมีที่ยืนทางการเมือง
- การยุติการแทรกแซงกันในประเทศหนึ่งใด
- การจัดตั้งกองกำลังสันติภาพ เพื่อหย่าศึกสงครามกลางเมือง
- การพบปะ (คู่ขนานกับฝ่ายการเมือง) ของผู้นำทางศาสนา เพื่อให้มีการยอมรับและเคารพกันเป็นต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่สันติภาพในตะวันออกกลางจะเกิดขึ้นได้ ก็อยู่ที่วิสัยทัศน์ของบรรดาผู้นำต่างๆ โดยเฉพาะการตระหนักว่า การประหัตประหารกันและการเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว เรื่องก็จะไม่จบ แต่ถ้าเริ่มคุยกันเรื่องก็ควรจะจบได้ ตะวันออกกลาง ดินแดนศาสนาจะได้มีศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี