คุณจะเชื่อหรือไม่ว่า วิกฤติโควิด-19 ตั้งแต่เมื่อปีกลายมาจนถึงบัดนี้ มีนักการเมืองจำนวนไม่น้อย และนักธุรกิจจำนวนมิใช่น้อยเช่นกันร่ำรวยอู่ฟู่ขึ้นมาทันตาเห็น เพราะอาศัยวิกฤติดังกล่าวเป็นเครื่องมือตบทรัพย์ ซึ่งทรัพย์ที่คนกลุ่มดังกล่าวตบไปเข้ากระเป๋าตนเอง ก็คือเงินทองของคนไทย และเงินทองของประเทศชาติ
ตั้งแต่ปีกลาย เราทุกคนทราบดีว่ามีคนบางกลุ่มรวยล้นฟ้าแบบมหัศจรรย์ เพราะวิกฤติหน้ากากอนามัยขาดตลาด รวมถึงวิกฤติเจลแอลกอฮอล์ขาดแคลนไปทั่วประเทศ แต่ทว่าเรื่องสำคัญนี้ สุดท้ายก็ถูกทำให้เงียบหายไป โดยสังคมไทยไม่สามารถลากคอคนที่มีส่วนกักตุนสินค้าดังกล่าวทั้งสองชนิดไปลงโทษได้ แต่เท่าที่เห็นๆ ก็คือ คนบางกลุ่มรวยขึ้นทันตาเห็น เปลี่ยนรถยนต์หรูเป็นว่าเล่น แถมยังมีเงินที่ไม่ทราบว่าได้มาจากไหน ไปซื้อคฤหาสน์หลังงามได้อีกหลายหลัง
มาปีนี้ ก็มีคำถามซ้ำเดิมว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในบ้านเรา จะเกิดปัญหาซ้ำรอยกับหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ เหมือนปีที่แล้วหรือไม่ จะไม่ใครหน้าไหนได้เงินแบบมหัศจรรย์จากวัคซีนป้องกันโควิด-19 อีกหรือไม่ ประเทศไทยจะสูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์อันเนื่องมาจากวัคซีนดังกล่าวอีกหรือไม่ ที่ว่าสูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์คือ จะมีการจ่ายเงินแพงเกินกว่าความเป็นจริงเพื่อวัคซีนป้องกันโควิด-19 เหมือนกับการที่บ้านเมืองของเราต้องจ่ายเงินแพงเกินจริง เพื่อซื้อสินค้าต่างๆ ตามที่รัฐบาลได้สั่งซื้อหรือไม่
เรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังเป็นประเด็นที่ต้องถกกันอีกนาน แต่ก็ไม่ต้องหวังว่า เมื่อถกไปแล้วจะเกิดความกระจ่างขึ้นมา เพราะเรื่องใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐ เป็นเรื่องที่แทบจะไม่เคยปรากฏความจริงต่อสาธารณชนเลย
มาล่าสุด คนที่มีสติปัญญาและไม่หลงเชื่อคารมของนักการเมืองกำลังจับตาเฝ้าระวัง เรื่องการโหมตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยอ้างว่าสำหรับรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้ที่อยู่ในข่ายต้องเฝ้าระวังว่าอาจจะสัมผัสเชื้อโควิด-19
หลายคนที่ติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิดกำลังตั้งคำถามพร้อมๆ กันว่า ทุกวันนี้เมืองไทยไม่มีโรงพยาบาลสนามเพียงพอสำหรับการนี้แล้ว กระนั้นหรือ ทุกวันนี้คนไทยที่สงสัยว่าอาจจะสัมผัสเชื้อโควิด-19 ไม่มีโรงพยาบาลสนามสำหรับเข้าไปกักตัวเพื่อดูอาการ จริงหรือ ซึ่งเท่าที่มีข้อมูลทางการแพทย์ก็คือ ทุกวันนี้ความต้องการเตียงในโรงพยาบาลสนาม ไม่ได้มีความต้องการมากมายและหนาแน่นเหมือนเมื่อช่วงหลังสงกรานต์ที่เพิ่งผ่านไป และมีข้อมูลด้วยว่าโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยังสามารถรองรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงกับการสัมผัสเชื้อโควิด-19ได้ พูดง่ายๆ คือทุกวันนี้โรงพยาบาลสนามยังว่าง
เมื่อโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ยังว่าง แล้วเหตุใดรัฐบาลจึงต้องทำโรงพยาบาลสนามที่ศูนย์แสดงสินค้าของเมืองทองธานี ถามว่าจำเป็นจริงหรือ หรือว่าต้องสร้างสถานการณ์ว่ามันจำเป็น เพื่อให้เป็นข้ออ้างในการใช้เงินเพื่อการนี้ให้จงได้
ถามอีกครั้งว่า จำเป็นต้องทำโรงพยาบาลสนามเมืองทองธานี จริงๆ หรือ แล้วต้องลงทุนมหาศาลเป็นเงินเท่าไร เมื่อลงทุนไปแล้วจะรับคนไข้โควิด-19 ได้จริงๆ หรือ ระบบการจัดการโรงพยาบาลสนามเมืองทองธานี จะออกมาในรูปแบบอย่างไร จะเปิดแอร์หรือจะไม่เปิดแอร์ในโรงพยาบาล จะต้องเสียเงินเพื่อปรับปรุงห้องแสดงสินค้าขนาดยักษ์อีกกี่มากน้อย แล้วหลังจากนั้นจะต้องเสียค่ารื้อถอนอีกอีกมากน้อย ส่วนที่บอกว่าเจ้าของที่ไม่คิดค่าเช่านั้น คำถามคือ จริงหรือ ขอถามย้ำว่า จริงหรือ คิดว่าคนไทยทั้งประเทศโง่มากนักหรือ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี