มีคนจำนวนไม่น้อยถามว่า หากในวันนี้ไม่ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยแล้ว จะให้ใครทำหน้าที่นี้แทน
คำตอบคือ รับรองว่ามีคนบริหารประเทศไทยแทนนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันที่ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างแน่นอน และขอย้ำว่าไม่ต้องกังวลใจว่าประเทศไทยจะไม่มีผู้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่ตอบแบบนี้ไม่ใช่เพราะเชื่อในคำที่ว่า แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา หรืออยุธยาไม่สิ้นคนดี แต่เชื่อมาโดยตลอดว่าเมืองไทยมีคนที่สามารถรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เสมอ เพียงแต่ว่าประเทศจะได้คนดีหรือเลวไปกินตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
สำหรับกลุ่มคนที่ไม่ชื่นชอบ ชื่นชมนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ใช้คำพูดที่ค่อนข้างตรงแต่แรงว่า ถ้าอยากรู้ว่าจะมีใครขึ้นมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแทนประยุทธ์ ก็ขอให้ประยุทธ์ลาออก
จากตำแหน่ง แล้วจะรู้เองว่าใครคนไหนจะขึ้นมาทำหน้าที่แทน
หลายคนบอกว่า ทุกวันนี้ไม่ได้รักใคร่ประยุทธ์เหมือนเมื่อ 7 ปีก่อน แต่ก็ยังมองไม่เห็นว่าจะให้ใครทำหน้าที่แทนประยุทธ์ แล้วหลายคนก็บอกตรงกันว่า การที่เมืองไทยยังมีนายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็น่าจะดีกว่าเมืองไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่ออนุทิน ชาญวีรกูล หรือสมพงษ์ อมรวิวัฒน์
ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่ความคิดและมุมมองทางการเมืองของคนแต่ละคนที่มีต่อบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย คนที่รักใคร ก็จะเชียร์ให้คนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็จะบอกให้คนที่ตนเองไม่รัก ไม่ปลื้มเลิกเป็นนายกรัฐมนตรีเสียทีเถอะ
แต่ที่น่าสนใจคือ มีคนจำนวนไม่น้อยบอกตรงกันว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีของไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ และไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อีกต่อไป เพราะในเมื่อประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ ดังนั้นใครต่อใครในประเทศนี้ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้
กลับไปพูดถึงเรื่องที่คนไทยจำนวนไม่น้อยไม่ปลื้มนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ ก่อนอื่นเราต้องดูให้ลึกว่า เหตุใดคนไทยจึงไม่ปลื้มประยุทธ์เหมือนเมื่อ 7 ปีก่อน แต่ต้องย้ำว่าเฉพาะคนเคยปลื้มประยุทธ์เท่านั้นนะครับ เพราะคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยปลื้มประยุทธ์มาก่อน ก็ไม่มีวันปลื้มประยุทธ์ได้อย่างแน่นอน ยกเว้นนักการเมืองจำพวกจิ้งจกที่เปลี่ยนสีได้ตลอดเวลาเมื่อได้ค่าตอบแทนตามที่เขาเหล่านั้นพึ่งพอใจ ดังนั้น สาธารณชนจึงเห็นว่านักการเมืองจำพวกที่เคยด่าทอและประณามประยุทธ์มาตลอด ก็กลับเปลี่ยนใจเข้าร่วมพรรคการเมืองที่เป็นฐานเสียงให้ประยุทธ์ได้อย่างหน้าตาเฉย ราวกับว่านักการเมืองไร้ค่าเหล่านั้นไม่เคยก่นด่าประณามหยามหมิ่นประยุทธ์มาก่อน แต่ทว่าวิญญูชนก็ไม่เคยให้คุณค่าและความสำคัญใดๆ กับนักการเมืองที่หลายคนเรียกว่านักการเมืองชั้นต่ำจำพวกนั้น
มีคำถามว่า เหตุใดกลุ่มคนที่เคยปลื้มประยุทธ์จึงไม่ปลื้มอีกต่อไป คำตอบที่ได้ค่อนข้างมากก็คือ เพราะประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีบริหารงานด้านแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ล้มเหลว บางคนบอกว่าบริหารงานนี้ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง บางคนก็ตอบว่าเพราะประยุทธ์แต่งตั้งคนที่ปราศจากความขาวสะอาดให้รับตำแหน่งรัฐมนตรี โดยเฉพาะกรณีรัฐมนตรีขายแป้ง และรัฐมนตรียืมนาฬิกาเพื่อน และรัฐมนตรีที่หลายคนเชื่อว่าเป็นตัวการทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อันเนื่องมาจากสถานบันเทิงชนิดพิสดารในย่านทองหล่อ และอีกสารพัดคำตอบที่ชี้ให้เห็นความบกพร่องของรัฐบาล
ส่วนคำถามตรงข้ามคือ เหตุใดจึงยังมีคนจำนวนไม่น้อยยังนิยมชมชอบและเชียร์ให้ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปคำตอบคือ เพราะประยุทธ์เป็นคนดี ไม่โกงกินบ้านเมือง บริหารบ้านเมืองในสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีกว่าประเทศสหรัฐฯ และในยุโรปตะวันตก รวมถึงดีกว่าญี่ปุ่น และมาเลเซีย โดยให้เหตุผลว่าคนไทยป่วยและตายเพราะเชื้อโควิด-19 น้อยกว่าสหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรปตะวันตก รวมถึงอินเดีย
แต่มีคำถามหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ คำถามโต้กลับจากคนที่ปลื้มประยุทธ์มากๆ ว่า หากไม่เอาประยุทธ์ หมายความว่าไม่ให้ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีแทน
ก็ขอถามคำถามนี้กับคุณผู้อ่านคอลัมน์นี้ และขอถามคำถามนี้กับคนไทยทั้งประเทศ ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนขอยืนยันว่าคนไทยผู้มีสติปัญญาต่างปฏิเสธความคิดของกลุ่มคนที่ขยันก่นด่าประยุทธ์ด้วยความอคติ ด้วยความเคียดแค้นชิงชังเป็นการส่วนตัว โดยเฉพาะพวกที่ลอยหน้าลอยตาบอกว่า เราไม่จำเป็นต้องมีรัฐบาลก็ได้ เพราะคนที่พูดเช่นนั้นเป็นพวกพล่ามเพ้อ พูดเอามัน โดยหาสาระมิได้
แต่ผู้เขียนมั่นใจว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยต่างรู้ดีว่า ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์เพียงคนเดียว เพราะแผ่นดินนี้ยังมีผู้ที่มีคุณงามความดี และมีฝีไม้ลายมือสามารถบริหารประเทศได้ เพียงแต่ว่าสาธารณชนจะสามารถช่วยกันทำให้คนดีคนนั้นได้มีโอกาสรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่
มีผู้ตั้งประเด็นว่าคนไทยสมควรเปลี่ยนม้ากลางศึกหรือไม่พูดชัดๆ คือ ประเทศไทยควรเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีในยามที่บ้านเมืองกำลังเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 หรือไม่ คำตอบในเรื่องนี้มีสองประเด็นคือ หากเรายังไม่มีคนที่มีฝีไม้ลายมือดีกว่านายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ก็จำเป็นต้องทนยอมให้นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันทำหน้าที่ต่อไป ยกเว้นว่านายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันบริหารประเทศแล้วยิ่งทำให้เกิดสถานการณ์เลวร้ายจนเกินจะทนได้อีกต่อไป เราก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนผู้นี้ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้จงได้
ส่วนอีกประเด็นคือ หากเรามั่นใจว่ามีคนดีมีฝีมือในการบริหารประเทศได้ดีกว่านายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ก็ต้องทำให้คนผู้นั้นขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้จงได้ เพื่อความผาสุกเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ เพราะการให้โอกาสคนดีมีฝีมือมากกว่านายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้บริหารประเทศ คือการทำให้ประเทศรอดพ้นจากหายนภัยทั้งปวงโดยเร็ว
ข้างต้นนั้นคือคำตอบสำหรับผู้ที่ถามว่า สมควรเปลี่ยนม้ากลางศึกหรือไม่
ส่วนคำถามสำคัญที่หลายคนถามคือ แล้วสาธารณชนจะให้ใครทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแทนประยุทธ์ในยามนี้แล้วเราจะมั่นใจได้หรือว่า คนใหม่จะดีงามกว่าประยุทธ์ แล้วถ้าหากคนใหม่มาแล้ว ทำให้สถานการณ์ของประเทศเลวร้ายกว่าประยุทธ์ ใครจะรับผิดชอบ
คำถามนี้น่าสนใจมาก แต่ถึงกระนั้นผู้เขียนก็ยังมั่นใจว่าผู้อ่านแต่ละคนน่าจะมีคำตอบในเรื่องนี้แล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าหากผู้มาใหม่ทำให้สถานการณ์ของประเทศเลวร้ายกว่าเดิม ใครจะรับผิดชอบ ก็ต้องตอบตรงๆ ว่า คนไทยทุกคนต้องช่วยกันรับผิดชอบวันยังค่ำ โดยไม่มีทางปฏิเสธได้เลยแม้แต่น้อย
มีบางคนบอกว่า “อยู่กับเสือ ดีกว่าไปหาเหา” ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าคิด เพราะถ้าหากเราสามารถปรับตัวเขากับเสือได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็คงจะดีกว่าการที่เราต้องไปปรับตัวใหม่เพื่อให้เข้ากับเหาที่เรายังไม่คุ้นเคย แต่ก็ต้องพิจารณาให้ดีว่า ระหว่างเสือกับเหาอะไรเป็นอันตรายต่อชีวิตของเรามากกว่ากัน เพราะคนที่มีสติปัญญาย่อมไม่ปล่อยให้ตนเองต้องเผชิญกับภัยอันตรายที่ร้ายแรงถึงแก่ชีวิตโดยไม่หาทางหนีทีไล่ให้เหมาะสม ยกเว้นคนที่ตัดสินใจว่ายินดีตาย โดยไม่คิดต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอีกต่อไป ก็จะไม่ดิ้นรนขวนขวายใดๆ อีก หรือยกเว้นพวกที่อยู่กับเสือ แล้วได้ส่วนแบ่งจากเสือตามที่ตนเองพึงพอใจ ก็ย่อมไม่คิดจะตีจากเสือ หรือไม่อยากให้เสือหายไปไหน เพราะแม้จะอยู่กับสิ่งอันตราย แต่ก็ยังสามารถแสวงหาผลประโยชน์จากสิ่งอันตรายได้ตลอดเวลา
สรุปท้ายสัปดาห์นี้ จึงขอย้ำว่า ผู้เขียนเชื่อว่าคนไทยมั่นใจว่า มีคนมากมายสามารถรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อย่างแน่นอน หากประยุทธ์จะยืนยันไม่รับตำแหน่งนี้ต่อ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าหากประยุทธ์ไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป แล้วประเทศไทยจะถึงกาลอวสาน และต้องขอย้ำว่า ผู้เขียนเชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยไม่ได้ขับไล่ประยุทธ์ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แม้จะมีคนไทยจำนวนอีกไม่น้อยพยายามขับไล่ก็ตาม แต่สิ่งที่ชวนคุณคุย และชวนคุณคิดในวันนี้คือ คุณไม่ต้องกังวลใจไปเลย หากประยุทธ์ไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังมีคนไทยอีกมากที่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งไม่ใช่อานันท์ ปันยารชุน อาทิตย์ อุไรรัตน์ และนักการเมืองที่ลอยหน้ากันสลอนในขณะนี้ ผู้เขียนเชื่อว่าคุณผู้อ่านมีคนอยู่ในใจแล้ว ลองเปิดออกมาดูไหมว่าจะตรงกับชื่อที่คนอื่นๆ คิดไว้หรือไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี