วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” ในประเทศไทย ณ ปัจจุบันนี้คงไม่สามารถหลับหูหลับตาเชียร์ตะบี้ตะบันสนับสนุน “รัฐบาลไต้ก๋งเรือแป๊ะ” ของ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และนายแพทย์สาธารณสุขใหญ่ของไทยอย่างไม่มีตรรกะรองรับได้อีกต่อไป
แน่นอนตัวเลขผู้ป่วยสะสมวันนี้มีผู้ป่วยอยู่ราว 230,000 ราย โดยมีอัตราการพบผู้ป่วยติดเชื้อทั้งจากระบบเฝ้าระวัง ระบบบริการและระบบค้นหาเชิงรุกในชุมชนราววันละ 3.5 พันคนมีคนไทยผู้ร่วมชาติเสียชีวิตไปแล้วกว่า 1,700 ศพ และมีสถิติที่ค่อนข้างแน่ชัดว่าจะยังมีปริมาณผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นไปกว่านี้อีก จากเดิมที่พบผู้ป่วยติดเชื้อในกรุงเทพมหานคร ทว่าทุกวันนี้ในต่างจังหวัดก็มีอัตราการพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ขณะที่ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามามีบทบาทให้ต้องตระหนัก เมื่อพบว่า “เชื้อไวรัส” เริ่มกลายพันธุ์แปลงร่างเป็นไวรัสรหัสพันธุกรรมใหม่ แถมมีโอกาสดื้อวัคซีนที่ทั่วโลกผลิตออกมาใช้อีกต่างหาก
“ช้าแต่ได้พร้าเล่มงาม” หลังจากที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงสาธารณสุข นักวิทยาศาสตร์ ที่ร่วมกันพัฒนาวิจัยต่อยอดคิดค้นผลิตวัคซีน รวมถึงการพัฒนาวัคซีน ChulaCov19 โดยสร้างชิ้นส่วนขนาดจิ๋วจากสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา (โดยไม่มีการใช้ตัวเชื้อแต่อย่างใด) เมื่อร่างกายได้รับชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมขนาดจิ๋วนี้เข้าไป จะทำการสร้างเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนปุ่มหนามของไวรัสขึ้น (spike protein) และกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันไว้เตรียมต่อสู้กับไวรัสเมื่อไปสัมผัสเชื้อ เมื่อวัคซีนชนิด mRNA ทำหน้าที่ให้ร่างกายสร้างโปรตีนเรียบร้อยแล้ว ภายในไม่กี่วัน mRNA นี้จะถูกสลายไปโดยไม่มีการสะสมในร่างกาย ขณะเดียวกันก็มีการวิจัยพัฒนาต่อยอดรองรับการแปลงร่างกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่ทั่วโลกและสังคมไทยกำลังวิตกกังวล ทั้ง สายพันธุ์อังกฤษ, อินเดีย, แอฟริกาใต้ และบราซิล
นี่คือ “วัคซีน” ความหวังที่มีเชื้อชาติไทย 100% เป็นพร้าเล่มงามที่จะยืนบนขาของตนเอง
ไม่เพียงแค่วัคซีนเชื้อชาติ-สัญชาติไทยของจุฬาเท่านั้นก่อนหน้านี้มีงานศึกษาวิจัยของคณะวิทยาศาสตร์และคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ค้นพบสารสองชนิดที่สกัดได้จากกระชายขาวที่พบว่ามีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีนั่นคือ 1.แพนดูราทินเอ (Panduratin A) กับ 2.พิโนสโตรบิน (Pinostrobin) ซึ่งมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของสถาบัน และตอกย้ำที่จะจด สิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมมุ่งเน้นวิจัยสกัดสารในกระชายขาวมาผลิตเป็นยาให้ได้ ทว่า งานวิจัยนี้กลับเงียบหายไป
ที่สำคัญเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “หมอเณร – “นายชัยรัตน์ นนทชัย” ปราชญ์ชาวบ้านแพทย์สมุนไพรแผนไทยที่รักษาผู้ป่วยให้หายจากโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคภูมิแพ้ และโรคโควิด-19 โดยสมุนไพรและวิชาสร้างธาตุไฟ ตามภูมิปัญญาบรรพบุรุษ จนประสบความสำเร็จ มีการนำผู้ป่วยมารีวิวยืนยันการรักษาที่ขาดการใส่ใจด้วยความไม่สำเหนียกอย่างไร้สำนึกของรัฐบาลทหารแก่และกระทรวงสาธารณสุขเหล่านี้
ก่อนหน้านี้ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เคยประกาศว่า “วัคซีน ChulaCov19 เป็นความภาคภูมิใจที่คนไทยสามารถยืนบนขาตัวเองในการรับมือกับโควิด-19 และเราจะเปลี่ยนจากการพึ่งพาผู้ผลิตมาเป็นการพึ่งพาตัวเอง”เคยประกาศที่จะยืนด้วยขาของตนเอง
ถึงเวลาที่ “อัครมหาเสนาบดีและเสนาบดีในรัฐบาลเรือแป๊ะ” จะฉุกคิดได้คิดเป็นและดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับนวัตกรรมเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติสังคมไทย ไม่ควรให้ช้าจนพร้าเล่มงามไม่เกิดประโยชน์ใดๆ อีกเลย “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)”ไม่มีทางหายไปจากโลกใบนี้แน่นอน ไม่เช่นนั้น รัฐบาลจีนคงไม่ให้เหตุผลเลื่อนการเปิดประเทศออกไปอีก 1 ปีเพราะเกรงจะเกิดการระบาดระลอกใหม่ในประเทศหรอก
อย่าต้องรอให้พบคนป่วยวันละหมื่นตายวันละพันจึงสำนึกสำเหนียก

เปิดภาพ ทหารนาวิกโยธิน ขับไล่กำลังกัมพูชาออกจากดินแดนไทย ยึดคืนพื้นที่บ้านหนองรี (บ้านสามหลัง) ได้สำเร็จ
เสียงสะอื้นจากแม่จ่าเริง รอรับศพลูกชายสละชีพ เนิน 350 ให้คนทรงทำพิธีเสี่ยงทายตามความเชื่อ
เป็นตุเป็นตะ ทหารเขมรยืมมือสื่อต่างชาติโกหกโลก อ้างไทยใช้แก๊สพิษโจมตีป่วยจนต้องเข้ารพ.
เป็นตุเป็นตะ ทหารเขมรยืมมือสื่อต่างชาติโกหกโลก อ้างไทยใช้แก๊สพิษโจมตีป่วยจนต้องเข้ารพ.
เทพไท ชำแหละเป็นข้อๆ สันดานนักการเมืองยุคนี้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี