ประกาศจากโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ระบุว่าขณะนี้โรงพยาบาลประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรการแพทย์สำหรับดูแลผู้ป่วย และระบุด้วยว่าขณะนี้การให้บริการใกล้ถึงขั้นเกินขีดความสามารถการดูแลประชาชนได้แล้ว จึงต้องประกาศงดและลดการให้บริการด้านการแพทย์ คืองดการผ่าตัดที่นัดล่วงหน้า (ยกเว้นกรณีเร่งด่วนฉุกเฉิน) งดการบริการห้องฉุกเฉิน (ยกเว้นกรณีฉุกเฉินเท่านั้น) และลดการตรวจผู้ป่วยนอก
ประกาศนี้ทำให้สังคมไทยเห็นชัดว่า ปัจจุบันนี้บุคลากรทางการแพทย์ของเรากำลังใกล้ถึงจุดวิกฤติของการทำงานเพื่อดูแลรักษาประชาชน
ถามว่า อะไรคือต้นเหตุสำคัญที่นำไปสู่วิกฤตินี้ แล้วถามต่อไปว่า หากบุคลากรทางการแพทย์ส่วนใหญ่ของประเทศนี้ไม่สามารถให้บริการกับประชาชนได้อีกต่อไป
สังคมไทยจะเกิดภัยพิบัติขั้นรุนแรงเพียงใด
ส่วนประกาศของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เรื่อง ขอปิดบริการห้องฉุกเฉินชั่วคราวก็เป็นเรื่องที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้นเหตุเกิดมาจาก มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการเข้าไปขอรับบริการโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ซึ่งเรื่องนี้น่าเจาะลึกว่าผู้ติดเชื้อรายนั้นรู้ตัวมาก่อนหรือไม่ว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หากไม่รู้มาก่อน ก็คงไม่สามารถตำหนิเขาได้ แต่หากรู้ตัวมาก่อนว่าติดเชื้อแล้วยังเข้าไปขอรับการรักษาโดยไม่แจ้งความจริง เรื่องนี้น่าจะเข้าข่ายจงใจกระทำผิดกฎหมายในประเด็นการแพร่กระจายเชื้อโรคร้ายแรงต่อสังคม
อย่างไรก็ตาม หากเราย้อนกลับไปดูข่าวที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของหมอ และพยาบาล รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อต่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 มาตลอดระยะเวลาประมาณ 1 ปี จะพบว่ามีข่าวเป็นประจำว่า หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานหนักมาก เพื่อต่อสู้กับโรคร้ายชนิดนี้ และในระยะหลังก็ปรากฏข่าวว่าหมอและพยาบาลจำนวนหนึ่งต้องเสียชีวิตเพราะเชื้อโควิด-19 เช่น เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพโรงพยาบาลตำบล (รพ.สต.) สวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน สมุทรสาคร ชื่อนายพิเชษฐ์ สหกิจซึ่งชาวบ้านเรียก หมอหนึ่ง เสียชีวิตเพราะเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม (ขอเน้นว่านี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเล็กๆ เพียงตัวอย่างเดียวเท่านั้นที่เกิดขึ้นในสังคมไทย)
นอกจากนี้ยังมีข่าว ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบนติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเรื่องนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจหาเชื้อว่าติดเชื้อจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริงก็จะทำให้ผู้ที่ใกล้ชิดกับบุคคลรายนี้ ซึ่งทำงานอยู่บนที่ว่าการอำเภอ รวมถึงคนใกล้ชิดอื่นๆ กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงการติดเชื้อไปโดยปริยาย
สำหรับกรณีที่เกิดกับหมอหนึ่งนั้น มีชาวบ้านในกระทุ่มแบนกล่าวว่า หมอหนึ่งคือตัวอย่างของกลุ่มผู้เสี่ยงภัยกับโควิด-19 เป็นเสมือนด่านหน้าของการรักษาผู้ติดเชื้อในตำบล คนกลุ่มนี้ต้องรับมือกับคนป่วยที่มีเชื้อซึ่งเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลตำบล ในความเป็นจริงนั้น หลายคนรวมถึงผู้มีอำนาจรัฐอาจหลงลืมไปว่า คนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในทุกระดับ โดยเฉพาะในระดับชุมชน ซึ่งต้องเผชิญหน้ากับเชื้อโรคตัวนี้เป็นประจำ และเผชิญหน้ามาเป็นระยะเวลาหลายเดือน จนพวกเขาอ่อนกำลัง หมดแรงและพลาดท่าให้กับเชื้อมรณะตัวนี้การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในระลอกหลังๆ นี้รุนแรงและหนักหน่วงมาก บุคลากรทางการแพทย์จำนวนไม่น้อยไม่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโควิด-19 ที่ได้มาตรฐานสากล บางแห่งขาดแคลนชุด PPEบางแห่งไม่มีหน้ากากชนิด N95 ใช้ป้องกันตัวเอง บางรายมีแค่เพียงเสื้อพลาสติกกันฝนสวมในขณะทำหน้าที่ต่อสู้กับโรคร้าย
การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในสังคมไทยระลอกแล้วระลอกเล่า จนนำไปสู่การติดเชื้อของคนเป็นหลักหมื่นต่อวันในขณะนี้ รวมถึงการตายเพราะโรคนี้ของคนไทยเป็นหลักร้อยต่อวัน เป็นการฟ้องและประจานต่อสังคมไทยว่านโยบายการจัดการกับเชื้อมรณะตัวนี้โดยรัฐบาลล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
หากถามว่า การกล่าวเช่นนี้เป็นการกล่าวหาว่าร้ายรัฐบาลเกินจริงหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าไม่ เพราะความจริงจากตัวเลขคนติดเชื้อ และคนตายเพราะเชื้อตัวนี้ เป็นเครื่องบ่งบอกได้ดีว่ารัฐบาลประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในการจัดการกับปัญหานี้อย่างชัดเจนที่สุด
รัฐบาลจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนได้ไม่ทันการณ์ ส่วนที่หามาได้บางส่วน ก็ไม่สามารถฉีดให้กับบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนก่อนเป็นอันดับแรก เช่น บุคลากรทางการแพทย์ คนป่วยและกลุ่มคนที่เป็นโรคประจำตัวที่อยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพราะเชื้อโควิด-19 รวมถึงคนแก่
ส่วนปัญหาคนบางกลุ่มไม่ยอมปฏิบัติตนเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากการติดเชื้อโควิด-19 เช่น กลุ่มที่ยังฝ่าฝืนรวมตัวจัดงานต่างๆ ที่มีผู้คนไปร่วมงานมากมาย หรือคนที่จงใจทำให้ตนเองติดเชื้อโควิด-19 เพราะต้องการเงินประกัน ปัญหาเหล่านี้คือสิ่งที่รัฐบาลต้องหามาตรการเด็ดขาดเพื่อยับยั้งให้ได้ เพราะหากรัฐบาลไม่สามารถจัดการได้ ก็หมายถึงความล้มเหลวไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลนั่นเอง
เพราะเมื่อเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างหนักทุกครั้งในสังคมไทย ก็หมายความว่าบุคลากรการแพทย์ของไทยต้องรับศึกหนักกับวิกฤตินี้ แล้วเมื่อบุคลากรทางการแพทย์ต้องเผชิญหน้ากับศึกหนักมาเป็นระยะเวลานาน ก็หมายความว่ากำลังการทำงานของคนกลุ่มนี้จะอ่อนลงไป จนถึงวันหมดกำลัง แล้วหากบุคลากร ทางการแพทย์ของไทยหมดกำลังในการทำหน้าที่เสียแล้ว ก็หมายความว่าระบบสาธารณสุขของไทยล่มสลายอย่างแน่นอน แล้ววันนั้นก็หมายถึงภัยพิบัติขั้นรุนแรงจะบังเกิดกับสังคมไทยโดยไม่มีทางเลี่ยงอีกต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี