เมื่อวันก่อน “นายทักษิณ ชินวัตร” ได้เข้าร่วมการสนทนาในวงเสวนาของกลุ่มแคร์คิดเคลื่อนไทย ที่สมาชิกส่วนใหญ่ก็ติ่ง กระบือที่ “โทนี่ วู้ดซัม” สนตะพาย อาทิ นายดวงฤทธิ์บุนนาค สถาปนิกและนักออกแบบ, นายพริษฐ์ รักตพงศ์ไพศาล บุตรชายของเฮียเพ้ง นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล,นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย, น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือคำ ผกา, นางวีรพร นิติประภา, หมอเลี๊ยบ - นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เนื่องจากมีความเคลื่อนไหวของสัมภเวสีกลุ่มนี้อยู่เป็นเนืองนิจครั้งนี้มาภายใต้หัวข้อเรื่อง “อดีต ปัจจุบัน อนาคต ของการเมืองไทย”
ในวงสนทนานี้ “ทักษิณ” บอกว่า ควายทั้งนั้นปล่อยข่าวเชื่อข่าวแบบนี้ เราเป็นคนน่ะ จะให้ควายจูงเดินไม่ได้ ถ้าท่านสงสัยมาถามผมตรงๆ ไม่มีโกหก ผมทำนายว่ามีนาคมปีหน้าเลือกตั้งใหม่ หรืออาจจะเร็วกว่านั้น ถ้าอยากอยู่ครบเทอม ต้องแจกกล้วยทีละเครือ หมดสวนแน่
วันที่ 19 กันยายน 2564 จะครบรอบ 15 ปีของการทำรัฐประหารยึดอำนาจ “พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร(ยศในขณะนั้น)” โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่มีพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะ ยุติการเมืองไทยระบอบทักษิณ เผด็จการรัฐสภาและการทุจริตคอร์รัปชั่นมโหฬารของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
“ทักษิณ” เคยสำรากถึงเหตุการณ์วันรัฐประหารไว้ว่าตอนเช้าวันนั้นซึ่งก็หัวค่ำบ้านเราได้นั่งทานข้าวอยู่กับบุตรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ (ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น) โดยอ้างว่าเขาสนใจลงทุนในประเทศไทย จากนั้นก็เกิดการรัฐประหาร “ทักษิณ” อ้างว่าในเวลานั้นได้เตรียมการไว้บ้างแล้ว อาทิลงนามในคำสั่งประกาศใช้กฎหมายบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้สั่งการให้ พลตำรวจเอกชิดชัย วรรณสถิตย์ และนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช2 รองนายกรัฐมนตรีไปเอาออกมาเพราะได้ลงนามไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะมีการเข้าเฝ้าฯเสียก่อน ทำให้ไม่สามารถควบคุมอะไรได้
“ทักษิณ” ยังย้อนเรื่องราวในครั้งนั้นว่า ตั้งใจจะขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยในวันรุ่งขึ้น แต่คณะรัฐประหาร กลัวผมกลับประเทศไทย จึงไม่ให้ขึ้นเครื่องกลับ ถ้าผมกลับมาได้เสร็จผมแน่ ผมโดนลอบสังหารลอบยิงมาตั้งหลายครั้งยังไม่ตายเลย ผมไม่กลัวตาย ผมเป็นลูกผู้ชายพอ จบเป็นจบ
ย้อนศึกษาข้อมูลบันทึกไว้ในจดหมายเหตุของหลวงสาครคชเขตที่กล่าวถึงหัวหน้าอั้งยี่คณะงี่เฮ็ง บ้านบางกะจะ จันทบุรี ที่ชื่อ นายง่วนเส็ง แซ่คู นายอากรบ่อนเบี้ย ซึ่งบ่อนเบี้ยก็คือ บ่อนพนันการเล่นกำตัด กำถั่วหรือกำถั่วโปและไพ่งา ซึ่งเป็นพ่อนายชุนเชียงที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นนายบุญเลิศ ชินวัตร พ่อของนายทักษิณชินวัตร เมื่อเกิดการปราบปรามกลุ่มอั้งยี่ คนเหล่านี้จึงขยับขยายย้านถิ่นฐานไปอยู่เชียงใหม่
สัมภเวสีทักษิณจะเป็นลูกผู้ชายจริงอย่างสำรอกไว้หรือไม่พฤติกรรมมันบ่งบอก กับการทำร้ายประเทศไทยมาตลอด 15-20 ปีที่อยู่บนเส้นทางการเมือง สังคมไทย-คนไทยคงไม่ลืมกำพืดของนักการเมืองรายนี้เป็นอย่างดี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี