ในท่ามกลางความเดือดร้อนทุกข์เข็ญของอาณาประชาราษฎรที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมบ้านเรือน ผู้คนจมน้ำตาย ทรัพย์สินข้าวของเสียหายจำนวนมาก ทั้งที่ฝนกลางฤดูเพิ่งตกมาเพียงห่าเดียว บรรดาพวกหิวแสงทั้งหลายก็ฉกฉวยโอกาสหาเสียงกันท่ามกลางความทุกข์ยากของราษฎรเป็นที่น่าเวทนานัก
ปรากฏการณ์หิวแสงหาเสียงที่ทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันนั้นไม่ได้เกิดมรรคผลใดๆ แก่ราษฎร กลับซ้ำเติมความเดือดร้อนมากขึ้นอีก เพราะบรรดาข้าราชการในพื้นที่แทนที่จะได้ไปดูแลช่วยเหลือราษฎรก็ถูกกะเกณฑ์มาต้อนรับขับสู้ ที่แม้ใช้เวลาในการต้อนรับ 2-3 ชั่วโมง แต่การเตรียมการนั้นต้องใช้เวลา 3-5 วัน และต้องใช้จ่ายเงินในพื้นที่ซึ่งมีอยู่ไม่มากนัก ทำให้เกิดผลกระทบมากขึ้นไปอีก
ความจริงฝนและพายุปีนี้ไม่ได้มากกว่าปีก่อนๆเลย ซึ่งถ้าหากไม่ลืมก็คงจำได้ว่าเมื่อเทศกาลสงกรานต์นั้นก็มีผู้พยากรณ์เกณฑ์พิรุณศาสตร์เอาไว้แล้วว่าในปีนี้ต้นฝนน้ำจะน้อย กลางฝนน้ำจะมาก และพอประมาณในช่วงปลายฤดู โดยจะมีพายุใหญ่แทรกมาบ้าง 2-3 ลูก ซึ่งโดยรวมก็คือพายุฝนและน้ำในปีนี้จะน้อยกว่าปีก่อนๆ
ฝนที่มากับพายุเตี้ยนหมู่ซึ่งถือว่าเป็นพายุลูกแรกของเทศกาลหน้าฝนปีนี้ที่มาในกลางฤดูก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรไปกว่าปีก่อนๆ แต่เนื่องจากไม่มีการแก้ไขสภาพของพื้นที่ให้เหมาะสมแก่การรับมือกับการไหลของน้ำ ดังนั้น เพียงห่าเดียวก็เกิดสภาพน้ำท่วมดังที่เห็นกันอยู่
และถึงวันนี้ก็พูดกันแต่เรื่องสำแดงพลังทางการเมืองกัน พูดกันถึงเรื่องผู้คนไปก่นด่าประณามพูดกันถึงเรื่องการเกณฑ์เจ้าหน้าที่มาต้อนรับนักการเมือง แต่ปัญหาที่แท้จริงที่ราษฎรกำลังประสบอยู่และที่จะประสบต่อไปกลับไม่มีการพูดถึงเลย
นั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมทั้งที่ปริมาณน้ำไม่ได้มากไปกว่าอดีต ที่ประเทศไทยเป็นประเทศในที่ราบลุ่ม เป็นประเทศในเขตมรสุมที่จะมีพายุและลมฝนทุกปีในเทศกาลหน้าฝน คือตั้งแต่เทศกาลที่พระเข้าพรรษาจนถึงออกพรรษา ยกเว้นในภาคใต้ซึ่งฤดูฝนจะล่าไปจนถึงเดือนอ้าย
เพราะเป็นธรรมดาของประเทศในแถบมรสุมที่ฤดูฝนจะเริ่มต้นที่ด้านเหนือสุดก่อน แล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวมายังภาคกลางและเลื่อนตัวไปยังภาคใต้ โดยในขณะที่ฝนสิ้นไปจากภาคกลางนั้น ทางภาคเหนือและภาคอีสานก็จะเริ่มเข้าสู่เทศกาลหน้าแล้งที่พี่น้องเกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
ทำไมน้ำจึงท่วมมากขึ้นทุกปี ทั้งๆ ที่ปริมาณพายุฝนและน้ำก็ไม่ได้มากกว่าอดีต ซึ่งความจริงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ท่านพระราชทานพระราชดำริมากมาย ทรงชี้ให้เห็นสาเหตุของภัยพิบัตินี้มาเป็นเวลานาน
สาเหตุที่น้ำท่วมมากกว่าอดีตและมากขึ้นแทบทุกปีนั้นเป็นเพราะความผิดพลาดล้มเหลวในสองเรื่อง
เรื่องที่หนึ่ง คือการทอดทิ้งหน้าที่ไม่ทำการขุดลอกแม่น้ำ สายน้ำ แหล่งน้ำทั้งหลายให้กักเก็บน้ำเพื่อชะลอน้ำไว้ในฤดูฝน ทำให้แม่น้ำ สายน้ำ แหล่งน้ำทั้งหลายตื้นเขิน และโดยทั่วไปก็ตื้นมาจนถึงริมฝั่งแม่น้ำ ขอบสายน้ำ และขอบแหล่งน้ำ ทำให้สภาพแหล่งกักเก็บน้ำธรรมชาติสูญสิ้นไป
ดังนั้นเมื่อเข้าเทศกาลหน้าฝน แทนที่แม่น้ำ สายน้ำ และแหล่งน้ำจะรองรับน้ำเอาไว้ในปริมาณมหาศาลทำให้น้ำชะลอตัวไม่ไหลเร็ว ไหลแรง หรือล้นบ่าท่วมพื้นที่และไหลหลากท่วมพื้นที่ภาคกลางและตอนล่างลงมา ดังนั้น เพียงฝนตกมาห่าเดียวก็เกิดสภาพน้ำท่วมดังที่เห็นนี้
แม้มีพระราชดำริให้สร้างเขื่อนเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งให้มากขึ้น เพื่อเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ และเพื่อกักเก็บน้ำที่ชะลอไว้ในฤดูฝน ซึ่งทรงกระทำอย่างต่อเนื่องยาวนานตลอดรัชกาล แต่ปรากฏว่าบรรดาเขื่อนทั้งหลายที่ได้สร้างขึ้นนั้นกลับถูกทอดทิ้งให้ตื้นเขินโดยทั่วไป บางเขื่อนความตื้นเขินนั้นทำให้สูญสิ้นสภาพความเป็นเขื่อน กระทั่งเทียบไม่ได้กับบึงน้ำ เพราะตื้นเขินจนเก็บน้ำได้น้อยกว่าน้อยนัก
ยกตัวอย่างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ซึ่งแรกเริ่มนั้นสามารถกักเก็บน้ำได้จำนวนมหาศาล มีความลึก มีความกว้าง จึงไม่เพียงแต่กักเก็บน้ำได้มาก เป็นผลให้น้ำไม่ท่วมในภาคกลางหลายปี และราษฎรในพื้นที่โดยรอบหลายจังหวัดก็สามารถมีสัตว์น้ำเป็นอาหารได้อย่างทั่วถึง มิได้ขาดแคลนเหมือนแต่ก่อน
แต่กลับถูกทอดทิ้งให้ตื้นเขิน และล่าสุดก็ได้ยินว่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ 20% ของขีดความสามารถเดิมเท่านั้น ดังนั้นเมื่อถึงเทศกาลหน้าฝนเมื่อกักเก็บน้ำไว้ได้น้อย น้ำก็ไหลบ่าท่วมอย่างรวดเร็ว
เรื่องที่สอง เป็นความผิดพลาดล้มเหลวที่ร้ายแรงของการก่อสร้างถนนที่สร้างกันทั้งบ้านทั้งเมืองเพื่อให้รองรับกับการผลิตรถต่างประเทศขายให้แก่คนไทย
และถนนเหล่านั้นก็สร้างสูงกว่าบ้านเรือนของราษฎรโดยทั่วไป ความผิดพลาดอยู่ตรงที่ไม่มีการทำท่อระบายน้ำเพื่อให้น้ำไหลไปตามทางน้ำธรรมชาติดังแต่ก่อน
ดังนั้นเมื่อฝนตกมา ถนนจึงกลายเป็นเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้ไหลไปที่ต่ำ น้ำจึงไหลบ่าท่วมถนนและเมื่อถนนสูงกว่าบ้านเรือนจึงท่วมบ้านเรือนโดยทั่วไป ครั้นปริมาณน้ำมีมวลมากขึ้นถนนก็ขาด น้ำก็จะทะลักไปท่วมบ้านเรือนราษฎรอีกฝั่งหนึ่ง
ดังนั้นจึงเกิดสภาพมีถนนแบบนี้ที่ไหนก็จะมีภัยน้ำท่วมที่นั่นทุกปี นี่คือหายนะที่เกิดจากความผิดพลาดล้มเหลวในการก่อสร้างถนน ซึ่งถึงวันนี้ก็ไม่มีหน้าไหนแสดงความรับผิดชอบ
ใครไหนจะไปดูน้ำท่วมสักกี่หนกี่ครั้งก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในเรื่องนี้ได้ เว้นแต่จะได้แก้ปัญหาสองเรื่องดังกล่าวนี้ให้ตกไปในเวลา 1-2 ปีเท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี