วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันศุกร์ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 02.00 น.
ร.9 ไม่เกี่ยวข้องกับการสวรรคตของ ร.8

ดูทั้งหมด

  •  

ขบวนการสามนิ้ว โจมตีในหลวง ร.9 อาศัยเฟคนิวส์ ที่อ้างว่า “เบิกเนตร”

แต่ชอบอ้างมั่วๆ จับแพะชนแกะ ผูกโยงแต่เรื่องเป็นนิยาย ปะติดปะต่อแหกตากันเอง สนองตอบต่ออคติและความเกลียดชัง แม้กระทั่งเอาข่าวลือมามั่วสรุปว่าเป็นข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์


ล่าสุด ดร.ไชยันต์ ไชยพร แห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่ศึกษาค้นคว้าข้อเท็จจริงมาหักล้าง จับเท็จพวกบิดเบือนจาบจ้วงมาหลายกรณีแล้ว ล่าสุด ได้โพสต์ถึงอีกหนึ่งกรณีที่มีการนำไปจาบจ้วงรุนแรงก่อนหน้านี้ โดยนำเสนอบทความที่น่าสนใจ ยืนยันว่า ร.9 ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสวรรคตของ ร.8 ระบุว่า

....

“วันที่ ๑๓ ตุลาคมฯ คุณ “ช้างเผือก” ส่งบทความนี้ มาให้ผม และเขียนว่า “วันนี้ผมว่าคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเผยแพร่บทความนี้ครับ”

หลักฐานที่สนับสนุนว่าพระอนุชาไม่เกี่ยวข้องกับการสวรรคตรัชกาลที่ 8

 

 

พระอนุชาเสด็จตามหลังพระราชชนนีกับนายชิต สิงหเสนี มาติดๆ โดยเสด็จมาจากฝั่งตะวันตกของพระที่นั่งภายหลังเกิดเสียงปืนดังขึ้น

นายชิต สิงหเสนี จำเลยที่ 2 และนายบุศย์ ปัทมศริน จำเลยที่ 3 ที่ได้ให้การตรงกันมาตลอดตั้งแต่เกิดเหตุเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลจนกระทั่งจำเลยทั้งสามถูกประหารชีวิต โดยทั้งคู่ให้การว่า ในขณะที่เกิดเสียงปืนดังขึ้นมาจากในห้องพระบรรทมนั้น ไม่มีผู้ใดอยู่ในห้องพระบรรทมนอกจากพระองค์เอง

นอกจากนี้ทั้งคู่ยังให้การสอดคล้องกันว่า หลังจากพระอนุชาเสวยพระกระยาหารเช้าและเสด็จมาที่หน้าห้องพระบรรทมนั้น ก็เพียงแต่ถามพระอาการของสมเด็จพระเชษฐาเท่านั้น เสร็จแล้วก็เสด็จกลับไปที่ห้องบรรทมของพระองค์ที่อยู่ฝั่งตะวันตกของพระที่นั่งบรมพิมาน เป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาทีจึงเกิดเสียงปืนดังขึ้นมาจากห้องพระบรรทมของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

นอกจากนี้ ยังมีพยานบุคคลหลายปากให้การสอดคล้องในทำนองเดียวกัน ดังนี้

นายฉลาด เทียมงามสัจ เห็นพระอนุชาเสด็จมาจากทางห้องสมเด็จพระบรมราชชนนีและผ่านมาทางมุกหน้าพระที่นั่งไปยังห้องบรรทมของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

นายฉลาด เทียมงามสัจ ให้การครั้งแรกในศาลกลางเมือง สอดคล้องเช่นกันกับการให้การต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2492 มีความตอนหนึ่งว่า

“เมื่อเสียงปืนดังประมาณ 3 นาที ข้าพเจ้าได้ยินเสียงฝีเท้าคนวิ่ง เสียงนั้นมาจากทางเฉลียงหลัง แล้วข้าพเจ้าจึงมองลอดช่องประตูห้องออกไป เห็นนายชิตวิ่งผ่านไปทางห้องบันไดใหญ่ด้านหลัง บ่ายโฉมหน้าไปทางห้องพระบรรทมของในหลวงรัชกาลที่ ๙ แล้วเลี้ยวไปทางเฉลียงนั้น ข้าพเจ้าไม่เห็นมีใครเดินหรือวิ่งตามหลังนายชิตไปเลย ข้าพเจ้าเห็นเช่นนั้นก็ยังไม่นึกอะไร คงเช็ดจานต่อไป ประมาณ ๑ นาที ข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนวิ่งมาทางเฉลียงด้านหลัง ข้าพเจ้ามองไปเห็นสมเด็จพระราชชนนีวิ่งผ่านห้องเสวยพระกายาหารเช้าไป มีนายชิตจำเลยวิ่งตามหลังไปติดๆ สมเด็จพระราชชนนีกับนายชิตจำเลยวิ่งผ่านหน้าห้องเสวยเข้าไปทางห้องทรงพระสบาย ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จผ่านเมื่อตอนที่เสวยพระกระยาหารเสร็จแล้วในตอนเช้านั้นเอง ครั้นต่อมาประมาณไม่ถึงนาที เมื่อสมเด็จพระราชชนนีกับนายชิตจำเลยได้ผ่านลับตาไปแล้ว ข้าพเจ้าก็เห็นในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินมาอย่างเร็วๆ ผ่านไปทางเดียวกับที่สมเด็จเสด็จผ่านไปนั้นเอง”

สอดคล้องกับคำให้การของนายฉลาด เทียมงามสัจที่ให้การต่อศาลกลางเมืองไว้เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2489 มีความตอนหนึ่งว่า

“เมื่อในหลวงองค์ปัจจุบันเสด็จไปทางห้องพระบรรทมประมาณ ๑๐ นาทีก็มีเสียงปืนดังขึ้น...ขณะนั้นพยานยืนอยู่ที่หน้าพระที่นั่งชั้นบนข้างโต๊ะเสวย ...ต่อมาประมาณ๒ นาที ได้ยินเสียงคนวิ่ง แล้วแลเห็นนายชิตวิ่งออกมาจากห้องบรรทมของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระบรมโกศ นายชิตวิ่งไปทางห้องสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน คือวิ่งไปทางเฉลียงหลัง พยานเห็นนายชิตวิ่งไปคนเดียวไม่เห็นมีใครวิ่งตามนายชิตไป...

...ต่อจากที่นายชิตวิ่งไปสักครู่หนึ่งประมาณอย่างช้า ๒ นาที ก็เห็นสมเด็จพระราชชนนีทรงวิ่งมาทางที่พยานยืนอยู่ เท่าที่พยานจำได้ ก็เห็นสมเด็จพระราชชนนีเสด็จมา แล้วมีคุณจรูญตามมา และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน”

คำให้การของนายฉลาด เทียมงามสัจนั้นสอดคล้องกับคำให้การของนางสาวจรูญตะละภัฏ ที่ให้การไว้ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2491 มีใจความว่าในขณะที่นางสาวจรูญ ตะละภัฏ กำลังจะเข้าห้องบรรทมของสมเด็จพระราชชนนีเพื่อทำพระแท่นนั้น ก็ได้ยินเสียงปืนดังมาจากห้องบรรทมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อานันทมหิดล

นางสาวจรูญเข้าใจว่ามีคนเล่นปืน จึงเดินไปทางเฉลียงหน้าเพื่อดูว่าใครยิงปืน แต่มองไม่เห็นใครและจะต้องทำงานซึ่งค้างอยู่ จึงเดินกลับไปเพื่อจะทำพระแท่น ขณะนั้นเองก็เห็นนายชิต สิงหเสนีวิ่งตามหลังเข้าไปในกราบทูลสมเด็จพระราชชนนีว่า “พระเจ้าอยู่หัวทรงยิงพระองค์”

หลังจากนั้น สมเด็จพระราชชนนีทรงวิ่งไปตามเฉลียงด้านหน้า ขณะที่นางสาวจรูญจะวิ่งตามไปนั้นเห็นในหลวงองค์ปัจจุบัน (รัชกาลที่เก้า) ออกช่องประตูตรงห้องบันไดเล็กมาพบกับนางสาวจรูญที่เฉลียงด้านหน้า

และทรงรับสั่งถามว่า “เกิดอะไรกัน”

นางสาวจรูญจึงกราบทูลว่า “พระเจ้าอยู่หัวทรงยิงพระองค์”

หลังจากนั้น พระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน(ร.9) ก็ทรงวิ่งไปตามเฉลียงด้านหน้าพร้อมกับนางสาวจรูญ ตะละภัฏ

สอดคล้องกับคำให้การในศาลอาญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชที่รับสั่งเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2493 มีความตอนหนึ่งว่า

“ระหว่างนั้นซึ่งเป็นเวลาประมาณ 9.25 น. ได้ยินเสียงคนร้อง ได้ยินในขณะที่อยู่ในห้องเครื่องเล่น เสียงคนร้องเป็นเสียงใครจำไม่ได้ ได้ยินเสียงร้องแล้ว ฉันได้ออกจากห้องเครื่องเล่นไปทางเฉลียงด้านหน้า โดยผ่านไปทางห้องบันได ได้พบนางสาวจรูญที่หน้าห้องข้าหลวง ถามนางสาวจรูญว่า มีอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้น ได้รับตอบว่า “ในหลวงยิงพระองค์” ฉันได้ยินดังนั้นก็ตรงไปยังห้องบรรทมในหลวงรัชกาลที่ ๘”

จากคำให้การในศาลกลางเมือง ไม่มีพยานบุคคลสังเกตเห็นคราบเลือด หรือเศษเนื้อเยื่อสมองเปรอะเปื้อนที่ส่วนใดของพระวรกายของพระอนุชา

เมื่อกระสุนปืนผ่านเข้าศีรษะจะเกิดเลือดกระเซ็นจากบาดแผลทั้งในทิศทางที่กระสุนวิ่งไป (forward spatter) และทิศทางย้อนกลับ (back spatter) หากมีผู้อื่นยิงที่ศีรษะในระยะประชิดติดผิวหนังย่อมที่จะต้องมีรอยเลือดกระเซ็นติดบริเวณร่างกายผู้ยิงจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีนี้เป็นการยิงในระยะประชิดติดผิวหนัง

ดังนั้น หากมีใครก็ตามที่ยืนและยิงในระยะประชิดย่อมที่จะต้องเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและเศษเนื้อเยื่อสมอง ซึ่งบุคคลทั่วไปย่อมสามารถสังเกตได้ชัดเจน แต่ปรากฏว่าไม่มีพยานบุคคลใดๆ เลยที่สังเกตเห็นว่าพระอนุชามีคราบเลือดและเศษเนื้อเยื่อสมองเปรอะเปื้อนตามลำตัว

พระอนุชาทรงสนับสนุนให้มีการชันสูตรพระบรมศพอย่างละเอียด

พระอนุชาทรงให้ถ่ายรูปประกอบการชันสูตรพระบรมศพไว้มากๆ โดยปรากฏข้อมูลจากหนังสือ “เมื่อข้าพเจ้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีสวรรคต” ที่เขียนโดยนายแพทย์สุด แสงวิเชียร แพทย์ผู้ทำการชันสูตรพระบรมศพ ระบุไว้ตอนหนึ่งว่า

“ท่านคณบดีจึงขอให้เตรียมเครื่องมือสำหรับการชันสูตรไปด้วยและกล่าวว่าได้ทราบจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า ต้องการให้ถ่ายรูปไปมากๆ และให้ละเอียดถี่ถ้วนเพื่อเป็นหลักฐานจนถึงส่งไปพิสูจน์ได้
ณ ต่างประเทศ”

นอกจากนี้ พระอนุชายังมีพระราชดำรัสให้แพทย์ต่างชาติเข้าร่วมชันสูตร โดยปรากฏหลักฐานจากหนังสือ “เมื่อข้าพเจ้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีสวรรคต” เป็นจดหมายที่พระยาลัดพลีฯ ประธานคณะกรรมการสอบสวนพฤติการณ์การสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เขียนเชิญพันเอกไดเบอร์ก แพทย์ชาวอเมริกันเพื่อร่วมเป็นกรรมการชันสูตรพระบรมศพโดยระบุว่าเป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงอนุญาตให้เอ็กซเรย์พระบรมศพ เพื่อให้ได้ผลการตรวจพระบรมศพที่ดีที่สุด โดยปรากฏข้อมูลในศาลกลางเมืองที่หลวงพิณพากย์พิทยาเพท คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลให้การไว้ตอนหนึ่งว่า

“คุณหลวงนิตย์ฯ มาหารือกับพยานเรื่องเอ็กซเรย์...เมื่อปรึกษากันเรื่องเอ็กซเรย์แล้วจึงตกลงกันว่าสมควรจะเอ็กซเรย์พระเศียร คุณหลวงนิตย์ฯ จึงไปเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันเพื่อขออนุญาต สักครู่ก็กลับลงบอกว่าทรงอนุญาต”

และมีความอีกตอนหนึ่งว่า

“เพราะวันก่อนได้ทราบจากเลขานุการคณะกรรมการสอบสวนฯ ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งให้หาเครื่องเอ็กซเรย์ไปหลายๆ เครื่อง เพื่อจะทำการตรวจให้ได้ผลดีที่สุดในเรื่องนี้

พระอนุชาทรงไม่ขัดข้องหรือขัดขวางการสอบสวนด้วยประการใดๆ

ข้อมูลจากหนังสือ “บันทึกการสอบสวนกรณีสวรรคตรัชกาลที่ ๘” ระบุว่า ระหว่างที่คณะกรรมการสอบสวนพฤติการณ์สวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลหรือศาลกลางเมือง ทำการสอบสวนสมเด็จพระราชชนนีนั้น พันตำรวจโทประเสริฐ ลิ่มอักษร ได้กราบทูลถามว่า “ข้าพระพุทธเจ้าก็ไม่อยากจะทูลถามแต่เป็นความจำเป็น พระราชอาญาไม่พ้นเกล้าฯ”

พระอนุชาก็รับสั่งขึ้นมาว่า “ให้ถามต่อไปอีก”

และไม่ปรากฏข้อมูลว่าพระองค์ทรงขัดขวางการสอบสวนด้วยประการใดๆ”

....

ขอบคุณอาจารย์ไชยันต์ที่นำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์

ใครสนใจการจับเท็จพวกบิดเบือนจาบจ้วง เชิญไปติดตามอ่านในเฟซบุ๊ค Chaiyan Chaiyaporn

 

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:53 น. 'พปชร.'ขอบคุณมวลชนชุมนุมท่ามกลางฝน ชี้เสียงปชช.สะท้อนความไม่ไว้ใจนายกฯ
12:51 น. จับแก๊งแว้นซิ่งจยย.ก่อความเดือดร้อนรำคาญ
12:34 น. ‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้
12:33 น. วิ่งเกาะกูดมินิมาราธอนกระตุ้นท่องเที่ยว
12:20 น. ผู้ว่าฯหญิงปัตตานีลงพื้นที่ เหตุคนร้ายลอบวางเพลิง 'อบต.แป้น'
ดูทั้งหมด
นักวิชาการลงชื่อ‘ถวายฎีกา’ ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติบ้านเมือง
วอน'ญี่ปุ่น'ช่วยหย่าศึก! 'ฮุน เซน'ขอร้องให้ช่วยพูดกับไทย จี้ให้ศาลโลกช่วยตัดสินปมพื้นที่พิพาท
สจ.ปทุมฯลวง'สจ.สาว' อ้างพาส่งที่พัก เลี้ยวเข้าโรงแรม หวังย่ำยี
‘อ.ไชยันต์’บอกใบ้! อะไรทำสัมพันธ์‘ทักษิณ-ฮุนเซน’ต้องหักสะบั้น
'ลุงเตีย'ลำบากใจ!ร่วม'ฮุนเซน'ตรวจชายแดนท่ามกลางสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาตึงเครียด
ดูทั้งหมด
Grand Shanghai Chinese (แกรนด์ เซี่ยงไฮ้ ไชนีส)
ปฏิบัติการ ‘แก้ผ้าตัวเอง’ ของ ‘ฮุนเซน’
แผ่นดินสูงขึ้นเมื่อไร้นักการเมืองเลว
บุคคลแนวหน้า : 29 มิถุนายน 2568
ทายาท (อสูร) การเมืองไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ช้างพลาย'บุกปราสาทตาเมือนธม ส่งกำลังใจทหาร มอบตะขอช้างให้แม่ทัพด้วย

'พปชร.'ขอบคุณมวลชนชุมนุมท่ามกลางฝน ชี้เสียงปชช.สะท้อนความไม่ไว้ใจนายกฯ

‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้

ผู้ว่าฯหญิงปัตตานีลงพื้นที่ เหตุคนร้ายลอบวางเพลิง 'อบต.แป้น'

‘จิรายุ’ฉะแกนนำม็อบสาวรีย์ฯเรียกหารถถัง ฉุดปท.กลับไปด้อยพัฒนา

จุดยืนคุณคืออะไร!? 'ก่อแก้ว'เหน็บ'จตุพร'ปี49 ชวนต้านรัฐประหาร ปี68 ยืนร่วมเวที'สนธิ'

  • Breaking News
  • \'พปชร.\'ขอบคุณมวลชนชุมนุมท่ามกลางฝน ชี้เสียงปชช.สะท้อนความไม่ไว้ใจนายกฯ 'พปชร.'ขอบคุณมวลชนชุมนุมท่ามกลางฝน ชี้เสียงปชช.สะท้อนความไม่ไว้ใจนายกฯ
  • จับแก๊งแว้นซิ่งจยย.ก่อความเดือดร้อนรำคาญ จับแก๊งแว้นซิ่งจยย.ก่อความเดือดร้อนรำคาญ
  • ‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้ ‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้
  • วิ่งเกาะกูดมินิมาราธอนกระตุ้นท่องเที่ยว วิ่งเกาะกูดมินิมาราธอนกระตุ้นท่องเที่ยว
  • ผู้ว่าฯหญิงปัตตานีลงพื้นที่ เหตุคนร้ายลอบวางเพลิง \'อบต.แป้น\' ผู้ว่าฯหญิงปัตตานีลงพื้นที่ เหตุคนร้ายลอบวางเพลิง 'อบต.แป้น'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ถ้าอุ๊งอิ๊งค์ไม่อยู่  ประเทศชาติก็ไม่เสียหาย

ถ้าอุ๊งอิ๊งค์ไม่อยู่ ประเทศชาติก็ไม่เสียหาย

27 มิ.ย. 2568

ดันก.ม.นิรโทษกรรมแบบใด?

ดันก.ม.นิรโทษกรรมแบบใด?

26 มิ.ย. 2568

ยังพูดความจริงไม่หมด

ยังพูดความจริงไม่หมด

25 มิ.ย. 2568

ผู้นำเขมรเล่นกับน้ำมัน  เตะหมูเข้าปากหมา

ผู้นำเขมรเล่นกับน้ำมัน เตะหมูเข้าปากหมา

24 มิ.ย. 2568

ไทยต้องประกาศสงครามกับขบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชา

ไทยต้องประกาศสงครามกับขบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชา

23 มิ.ย. 2568

คลิปหลุด หรือตัวนายกฯหลานฮุนเซน  ใครคือภัยความมั่นคงของชาติ ?

คลิปหลุด หรือตัวนายกฯหลานฮุนเซน ใครคือภัยความมั่นคงของชาติ ?

20 มิ.ย. 2568

นายกฯ ออ. = อัปยศ อดสู

นายกฯ ออ. = อัปยศ อดสู

19 มิ.ย. 2568

รัฐบาลไทยต้องไม่เป็นลิ่วล้อของฮุนเซน

รัฐบาลไทยต้องไม่เป็นลิ่วล้อของฮุนเซน

18 มิ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved