วันจันทร์ ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันศุกร์ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 02.00 น.
ร.9 ไม่เกี่ยวข้องกับการสวรรคตของ ร.8

ดูทั้งหมด

  •  

ขบวนการสามนิ้ว โจมตีในหลวง ร.9 อาศัยเฟคนิวส์ ที่อ้างว่า “เบิกเนตร”

แต่ชอบอ้างมั่วๆ จับแพะชนแกะ ผูกโยงแต่เรื่องเป็นนิยาย ปะติดปะต่อแหกตากันเอง สนองตอบต่ออคติและความเกลียดชัง แม้กระทั่งเอาข่าวลือมามั่วสรุปว่าเป็นข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์


ล่าสุด ดร.ไชยันต์ ไชยพร แห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่ศึกษาค้นคว้าข้อเท็จจริงมาหักล้าง จับเท็จพวกบิดเบือนจาบจ้วงมาหลายกรณีแล้ว ล่าสุด ได้โพสต์ถึงอีกหนึ่งกรณีที่มีการนำไปจาบจ้วงรุนแรงก่อนหน้านี้ โดยนำเสนอบทความที่น่าสนใจ ยืนยันว่า ร.9 ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสวรรคตของ ร.8 ระบุว่า

....

“วันที่ ๑๓ ตุลาคมฯ คุณ “ช้างเผือก” ส่งบทความนี้ มาให้ผม และเขียนว่า “วันนี้ผมว่าคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเผยแพร่บทความนี้ครับ”

หลักฐานที่สนับสนุนว่าพระอนุชาไม่เกี่ยวข้องกับการสวรรคตรัชกาลที่ 8

 

 

พระอนุชาเสด็จตามหลังพระราชชนนีกับนายชิต สิงหเสนี มาติดๆ โดยเสด็จมาจากฝั่งตะวันตกของพระที่นั่งภายหลังเกิดเสียงปืนดังขึ้น

นายชิต สิงหเสนี จำเลยที่ 2 และนายบุศย์ ปัทมศริน จำเลยที่ 3 ที่ได้ให้การตรงกันมาตลอดตั้งแต่เกิดเหตุเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลจนกระทั่งจำเลยทั้งสามถูกประหารชีวิต โดยทั้งคู่ให้การว่า ในขณะที่เกิดเสียงปืนดังขึ้นมาจากในห้องพระบรรทมนั้น ไม่มีผู้ใดอยู่ในห้องพระบรรทมนอกจากพระองค์เอง

นอกจากนี้ทั้งคู่ยังให้การสอดคล้องกันว่า หลังจากพระอนุชาเสวยพระกระยาหารเช้าและเสด็จมาที่หน้าห้องพระบรรทมนั้น ก็เพียงแต่ถามพระอาการของสมเด็จพระเชษฐาเท่านั้น เสร็จแล้วก็เสด็จกลับไปที่ห้องบรรทมของพระองค์ที่อยู่ฝั่งตะวันตกของพระที่นั่งบรมพิมาน เป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาทีจึงเกิดเสียงปืนดังขึ้นมาจากห้องพระบรรทมของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

นอกจากนี้ ยังมีพยานบุคคลหลายปากให้การสอดคล้องในทำนองเดียวกัน ดังนี้

นายฉลาด เทียมงามสัจ เห็นพระอนุชาเสด็จมาจากทางห้องสมเด็จพระบรมราชชนนีและผ่านมาทางมุกหน้าพระที่นั่งไปยังห้องบรรทมของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

นายฉลาด เทียมงามสัจ ให้การครั้งแรกในศาลกลางเมือง สอดคล้องเช่นกันกับการให้การต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2492 มีความตอนหนึ่งว่า

“เมื่อเสียงปืนดังประมาณ 3 นาที ข้าพเจ้าได้ยินเสียงฝีเท้าคนวิ่ง เสียงนั้นมาจากทางเฉลียงหลัง แล้วข้าพเจ้าจึงมองลอดช่องประตูห้องออกไป เห็นนายชิตวิ่งผ่านไปทางห้องบันไดใหญ่ด้านหลัง บ่ายโฉมหน้าไปทางห้องพระบรรทมของในหลวงรัชกาลที่ ๙ แล้วเลี้ยวไปทางเฉลียงนั้น ข้าพเจ้าไม่เห็นมีใครเดินหรือวิ่งตามหลังนายชิตไปเลย ข้าพเจ้าเห็นเช่นนั้นก็ยังไม่นึกอะไร คงเช็ดจานต่อไป ประมาณ ๑ นาที ข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนวิ่งมาทางเฉลียงด้านหลัง ข้าพเจ้ามองไปเห็นสมเด็จพระราชชนนีวิ่งผ่านห้องเสวยพระกายาหารเช้าไป มีนายชิตจำเลยวิ่งตามหลังไปติดๆ สมเด็จพระราชชนนีกับนายชิตจำเลยวิ่งผ่านหน้าห้องเสวยเข้าไปทางห้องทรงพระสบาย ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จผ่านเมื่อตอนที่เสวยพระกระยาหารเสร็จแล้วในตอนเช้านั้นเอง ครั้นต่อมาประมาณไม่ถึงนาที เมื่อสมเด็จพระราชชนนีกับนายชิตจำเลยได้ผ่านลับตาไปแล้ว ข้าพเจ้าก็เห็นในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินมาอย่างเร็วๆ ผ่านไปทางเดียวกับที่สมเด็จเสด็จผ่านไปนั้นเอง”

สอดคล้องกับคำให้การของนายฉลาด เทียมงามสัจที่ให้การต่อศาลกลางเมืองไว้เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2489 มีความตอนหนึ่งว่า

“เมื่อในหลวงองค์ปัจจุบันเสด็จไปทางห้องพระบรรทมประมาณ ๑๐ นาทีก็มีเสียงปืนดังขึ้น...ขณะนั้นพยานยืนอยู่ที่หน้าพระที่นั่งชั้นบนข้างโต๊ะเสวย ...ต่อมาประมาณ๒ นาที ได้ยินเสียงคนวิ่ง แล้วแลเห็นนายชิตวิ่งออกมาจากห้องบรรทมของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระบรมโกศ นายชิตวิ่งไปทางห้องสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน คือวิ่งไปทางเฉลียงหลัง พยานเห็นนายชิตวิ่งไปคนเดียวไม่เห็นมีใครวิ่งตามนายชิตไป...

...ต่อจากที่นายชิตวิ่งไปสักครู่หนึ่งประมาณอย่างช้า ๒ นาที ก็เห็นสมเด็จพระราชชนนีทรงวิ่งมาทางที่พยานยืนอยู่ เท่าที่พยานจำได้ ก็เห็นสมเด็จพระราชชนนีเสด็จมา แล้วมีคุณจรูญตามมา และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน”

คำให้การของนายฉลาด เทียมงามสัจนั้นสอดคล้องกับคำให้การของนางสาวจรูญตะละภัฏ ที่ให้การไว้ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2491 มีใจความว่าในขณะที่นางสาวจรูญ ตะละภัฏ กำลังจะเข้าห้องบรรทมของสมเด็จพระราชชนนีเพื่อทำพระแท่นนั้น ก็ได้ยินเสียงปืนดังมาจากห้องบรรทมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อานันทมหิดล

นางสาวจรูญเข้าใจว่ามีคนเล่นปืน จึงเดินไปทางเฉลียงหน้าเพื่อดูว่าใครยิงปืน แต่มองไม่เห็นใครและจะต้องทำงานซึ่งค้างอยู่ จึงเดินกลับไปเพื่อจะทำพระแท่น ขณะนั้นเองก็เห็นนายชิต สิงหเสนีวิ่งตามหลังเข้าไปในกราบทูลสมเด็จพระราชชนนีว่า “พระเจ้าอยู่หัวทรงยิงพระองค์”

หลังจากนั้น สมเด็จพระราชชนนีทรงวิ่งไปตามเฉลียงด้านหน้า ขณะที่นางสาวจรูญจะวิ่งตามไปนั้นเห็นในหลวงองค์ปัจจุบัน (รัชกาลที่เก้า) ออกช่องประตูตรงห้องบันไดเล็กมาพบกับนางสาวจรูญที่เฉลียงด้านหน้า

และทรงรับสั่งถามว่า “เกิดอะไรกัน”

นางสาวจรูญจึงกราบทูลว่า “พระเจ้าอยู่หัวทรงยิงพระองค์”

หลังจากนั้น พระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน(ร.9) ก็ทรงวิ่งไปตามเฉลียงด้านหน้าพร้อมกับนางสาวจรูญ ตะละภัฏ

สอดคล้องกับคำให้การในศาลอาญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชที่รับสั่งเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2493 มีความตอนหนึ่งว่า

“ระหว่างนั้นซึ่งเป็นเวลาประมาณ 9.25 น. ได้ยินเสียงคนร้อง ได้ยินในขณะที่อยู่ในห้องเครื่องเล่น เสียงคนร้องเป็นเสียงใครจำไม่ได้ ได้ยินเสียงร้องแล้ว ฉันได้ออกจากห้องเครื่องเล่นไปทางเฉลียงด้านหน้า โดยผ่านไปทางห้องบันได ได้พบนางสาวจรูญที่หน้าห้องข้าหลวง ถามนางสาวจรูญว่า มีอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้น ได้รับตอบว่า “ในหลวงยิงพระองค์” ฉันได้ยินดังนั้นก็ตรงไปยังห้องบรรทมในหลวงรัชกาลที่ ๘”

จากคำให้การในศาลกลางเมือง ไม่มีพยานบุคคลสังเกตเห็นคราบเลือด หรือเศษเนื้อเยื่อสมองเปรอะเปื้อนที่ส่วนใดของพระวรกายของพระอนุชา

เมื่อกระสุนปืนผ่านเข้าศีรษะจะเกิดเลือดกระเซ็นจากบาดแผลทั้งในทิศทางที่กระสุนวิ่งไป (forward spatter) และทิศทางย้อนกลับ (back spatter) หากมีผู้อื่นยิงที่ศีรษะในระยะประชิดติดผิวหนังย่อมที่จะต้องมีรอยเลือดกระเซ็นติดบริเวณร่างกายผู้ยิงจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีนี้เป็นการยิงในระยะประชิดติดผิวหนัง

ดังนั้น หากมีใครก็ตามที่ยืนและยิงในระยะประชิดย่อมที่จะต้องเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและเศษเนื้อเยื่อสมอง ซึ่งบุคคลทั่วไปย่อมสามารถสังเกตได้ชัดเจน แต่ปรากฏว่าไม่มีพยานบุคคลใดๆ เลยที่สังเกตเห็นว่าพระอนุชามีคราบเลือดและเศษเนื้อเยื่อสมองเปรอะเปื้อนตามลำตัว

พระอนุชาทรงสนับสนุนให้มีการชันสูตรพระบรมศพอย่างละเอียด

พระอนุชาทรงให้ถ่ายรูปประกอบการชันสูตรพระบรมศพไว้มากๆ โดยปรากฏข้อมูลจากหนังสือ “เมื่อข้าพเจ้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีสวรรคต” ที่เขียนโดยนายแพทย์สุด แสงวิเชียร แพทย์ผู้ทำการชันสูตรพระบรมศพ ระบุไว้ตอนหนึ่งว่า

“ท่านคณบดีจึงขอให้เตรียมเครื่องมือสำหรับการชันสูตรไปด้วยและกล่าวว่าได้ทราบจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า ต้องการให้ถ่ายรูปไปมากๆ และให้ละเอียดถี่ถ้วนเพื่อเป็นหลักฐานจนถึงส่งไปพิสูจน์ได้
ณ ต่างประเทศ”

นอกจากนี้ พระอนุชายังมีพระราชดำรัสให้แพทย์ต่างชาติเข้าร่วมชันสูตร โดยปรากฏหลักฐานจากหนังสือ “เมื่อข้าพเจ้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีสวรรคต” เป็นจดหมายที่พระยาลัดพลีฯ ประธานคณะกรรมการสอบสวนพฤติการณ์การสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เขียนเชิญพันเอกไดเบอร์ก แพทย์ชาวอเมริกันเพื่อร่วมเป็นกรรมการชันสูตรพระบรมศพโดยระบุว่าเป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงอนุญาตให้เอ็กซเรย์พระบรมศพ เพื่อให้ได้ผลการตรวจพระบรมศพที่ดีที่สุด โดยปรากฏข้อมูลในศาลกลางเมืองที่หลวงพิณพากย์พิทยาเพท คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลให้การไว้ตอนหนึ่งว่า

“คุณหลวงนิตย์ฯ มาหารือกับพยานเรื่องเอ็กซเรย์...เมื่อปรึกษากันเรื่องเอ็กซเรย์แล้วจึงตกลงกันว่าสมควรจะเอ็กซเรย์พระเศียร คุณหลวงนิตย์ฯ จึงไปเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันเพื่อขออนุญาต สักครู่ก็กลับลงบอกว่าทรงอนุญาต”

และมีความอีกตอนหนึ่งว่า

“เพราะวันก่อนได้ทราบจากเลขานุการคณะกรรมการสอบสวนฯ ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งให้หาเครื่องเอ็กซเรย์ไปหลายๆ เครื่อง เพื่อจะทำการตรวจให้ได้ผลดีที่สุดในเรื่องนี้

พระอนุชาทรงไม่ขัดข้องหรือขัดขวางการสอบสวนด้วยประการใดๆ

ข้อมูลจากหนังสือ “บันทึกการสอบสวนกรณีสวรรคตรัชกาลที่ ๘” ระบุว่า ระหว่างที่คณะกรรมการสอบสวนพฤติการณ์สวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลหรือศาลกลางเมือง ทำการสอบสวนสมเด็จพระราชชนนีนั้น พันตำรวจโทประเสริฐ ลิ่มอักษร ได้กราบทูลถามว่า “ข้าพระพุทธเจ้าก็ไม่อยากจะทูลถามแต่เป็นความจำเป็น พระราชอาญาไม่พ้นเกล้าฯ”

พระอนุชาก็รับสั่งขึ้นมาว่า “ให้ถามต่อไปอีก”

และไม่ปรากฏข้อมูลว่าพระองค์ทรงขัดขวางการสอบสวนด้วยประการใดๆ”

....

ขอบคุณอาจารย์ไชยันต์ที่นำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์

ใครสนใจการจับเท็จพวกบิดเบือนจาบจ้วง เชิญไปติดตามอ่านในเฟซบุ๊ค Chaiyan Chaiyaporn

 

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:05 น. อิรัก 2 แดง! ช้างศึกพ่ายหวิวชวดแชมป์คิงส์คัพ
22:01 น. เอาไงล่ะทีนี้! GPS นำทางกระบะ ติดบนสะพานคนเดิน-จยย.
21:53 น. (คลิป) เปิดคลิปต้นเรื่อง!! ‘คำผกา’บูลลี่‘หมิว สิริลภัส’
21:21 น. เปิดใจครั้งแรก! 'เพลง ชนม์ทิดา'เผยเหตุเก็บร่าง'เอ๋ ชนม์สวัสดิ์'ไว้ที่บ้านนานกว่า 2 ปี
21:16 น. 'แพรรี่'ฟาดบ้าง!! ซัดคนล้อสุภาพจิต-เพศสภาพคนอื่น ที่จริงแล้วเป็นเพราะ!!
ดูทั้งหมด
เปิดวาร์ป! 'จ๋า ธนนนท์'สาวเก่งเจ้าของธุรกิจคาเฟ่ ผู้คว้าหัวใจ'อนุทิน' แม้อายุห่าง20ปี
‘ตูมตาม’ช็อก!จากคุณหมอในห้องผ่าตัด สู่นักโทษในห้องขัง
เละคาบ้าน! โซเชียลแห่เมนต์'ชัยเกษม นิติสิริ' หลังบอกหากได้เป็นนายกฯ จะยุบสภาทันที
(คลิป) อวสานชินวัตร! 'ซินแสเข่ง' ทักแรง 'อุ๊งอิ๊ง-ทักษิณ' และ... มีดวงหนีตปท.
(คลิป) บ้าอำนาจ! กรูไม่ได้...คนอื่นก็ไม่ได้ด้วย
ดูทั้งหมด
ภูมิใจไทย‘แลนด์สไลด์’ถ้า‘อนุทิน’กล้าทำ
มาทำความเข้าใจพุทธศาสนาแบบพุทธอย่างง่ายๆ
หักดิบพรรคสีแดง
ทักษิณอัสดง เพื่อไทยฝ่ายค้าน
แย่งชิงบ้านเมือง เพื่อใคร
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อิรัก 2 แดง! ช้างศึกพ่ายหวิวชวดแชมป์คิงส์คัพ

(คลิป) เปิดคลิปต้นเรื่อง!! ‘คำผกา’บูลลี่‘หมิว สิริลภัส’

เปิดใจครั้งแรก! 'เพลง ชนม์ทิดา'เผยเหตุเก็บร่าง'เอ๋ ชนม์สวัสดิ์'ไว้ที่บ้านนานกว่า 2 ปี

'แพรรี่'ฟาดบ้าง!! ซัดคนล้อสุภาพจิต-เพศสภาพคนอื่น ที่จริงแล้วเป็นเพราะ!!

แม่ใจสลาย! เชื่อลูกชายถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่ปอยเปต

'หมิว'เคลื่อนไหว! ปมถูกบูลลี่ รับเป็นซึมเศร้าจริง ถาม'คำผกา'ที่บ้านไม่สอนเรื่องมารยาทหรือ !?

  • Breaking News
  • อิรัก 2 แดง! ช้างศึกพ่ายหวิวชวดแชมป์คิงส์คัพ อิรัก 2 แดง! ช้างศึกพ่ายหวิวชวดแชมป์คิงส์คัพ
  • เอาไงล่ะทีนี้! GPS นำทางกระบะ ติดบนสะพานคนเดิน-จยย. เอาไงล่ะทีนี้! GPS นำทางกระบะ ติดบนสะพานคนเดิน-จยย.
  • (คลิป) เปิดคลิปต้นเรื่อง!! ‘คำผกา’บูลลี่‘หมิว สิริลภัส’ (คลิป) เปิดคลิปต้นเรื่อง!! ‘คำผกา’บูลลี่‘หมิว สิริลภัส’
  • เปิดใจครั้งแรก! \'เพลง ชนม์ทิดา\'เผยเหตุเก็บร่าง\'เอ๋ ชนม์สวัสดิ์\'ไว้ที่บ้านนานกว่า 2 ปี เปิดใจครั้งแรก! 'เพลง ชนม์ทิดา'เผยเหตุเก็บร่าง'เอ๋ ชนม์สวัสดิ์'ไว้ที่บ้านนานกว่า 2 ปี
  • \'แพรรี่\'ฟาดบ้าง!! ซัดคนล้อสุภาพจิต-เพศสภาพคนอื่น ที่จริงแล้วเป็นเพราะ!! 'แพรรี่'ฟาดบ้าง!! ซัดคนล้อสุภาพจิต-เพศสภาพคนอื่น ที่จริงแล้วเป็นเพราะ!!
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทักษิณอัสดง  เพื่อไทยฝ่ายค้าน

ทักษิณอัสดง เพื่อไทยฝ่ายค้าน

8 ก.ย. 2568

นักการเมืองแย่งอำนาจกัน  อย่าบังอาจกดดันเบื้องสูง

นักการเมืองแย่งอำนาจกัน อย่าบังอาจกดดันเบื้องสูง

5 ก.ย. 2568

ชิงเหลี่ยมการเมือง  ส้ม แดง น้ำเงิน

ชิงเหลี่ยมการเมือง ส้ม แดง น้ำเงิน

4 ก.ย. 2568

ดาบสอง ยุบพรรค  ดาบสาม อาญา

ดาบสอง ยุบพรรค ดาบสาม อาญา

3 ก.ย. 2568

พรรคแดง... สส.ผึ้งแตกรัง หรือเห็บกระโดด?  พรรคส้ม... คิดแต่ผลประโยชน์การเมืองของตนเอง

พรรคแดง... สส.ผึ้งแตกรัง หรือเห็บกระโดด? พรรคส้ม... คิดแต่ผลประโยชน์การเมืองของตนเอง

2 ก.ย. 2568

ทำในเรื่องที่ไม่มีอำนาจ  ระวังจะติดคุกตอนแก่

ทำในเรื่องที่ไม่มีอำนาจ ระวังจะติดคุกตอนแก่

1 ก.ย. 2568

วันชี้ขาดคดี  ชี้อนาคตประเทศ

วันชี้ขาดคดี ชี้อนาคตประเทศ

29 ส.ค. 2568

ถ้าอุ๊งอิ๊งค์จะรอด  คงต้องพึ่งอภินิหารกฎหมาย

ถ้าอุ๊งอิ๊งค์จะรอด คงต้องพึ่งอภินิหารกฎหมาย

28 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved