วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568
บรรดากองเชียร์รัฐบาลได้ส่งเสียงเชียร์กันเจี๊ยวจ๊าวในการที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกในปี 2565 ซึ่งปกติก็จะมีการประชุมกันในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยมีประมุขหรือผู้นำประเทศทั้งหลายมาเข้าร่วมการประชุมเพื่อพิจารณาสรุปมติร่วมกันที่จะเป็นประโยชน์แก่สมาชิกและชาวโลก
บรรดาประเทศต่างๆ ที่รับเป็นเจ้าภาพนั้นเป็นการรับเป็นเจ้าภาพตามวาระที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันโดยไม่ต้องแสดงผลงานหรือความวิเศษวิโสใดๆ เพราะเมื่อถึงคิวหมุนเวียนที่ประเทศใดจะเป็นเจ้าภาพแล้ว ประเทศนั้นก็จะต้องเป็นเจ้าภาพ เว้นแต่ไม่มีความพร้อมและขอปฏิเสธก็จะเลื่อนไปให้ประเทศถัดไปเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นการได้เป็นเจ้าภาพเอเปกจึงไม่ใช่ผลงานใดๆ ของใคร และไม่ควรอ้างเป็นผลงานของใครให้เป็นที่เยาะหยันเป็นอันขาด
เป็นที่น่าสังเกตว่าการเป็นประธานเอเปกของประเทศไทยในปี 2565 ซึ่งจะมีขึ้นในราวเดือนพฤศจิกายน 2565 นั้น เป็นช่วงระยะเวลาหลังจากครบกำหนดระยะเวลา 8 ปี ที่ห้ามไม่ให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 เพียง 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการเป็นประธานเอเปกไม่น้อย
ประการแรก ถ้ามีการไม่ยอมรับผลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ก็จะเกิดปัญหาถกเถียงกันว่าพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา ยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของบรรดาประเทศสมาชิกสักเพียงไหน เพราะแม้ในประเทศก็คงโต้เถียงกันโดยทั่วไป
ข้อสำคัญคือการพ้นตำแหน่งตามมาตรา 158 แห่งรัฐธรรมนูญนั้นเป็นการพ้นเด็ดขาด ไม่สามารถรักษาการจนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ารับตำแหน่งเหมือนกับการพ้นวาระตามวาระของสภา เพราะเป็นบทบัญญัติในลักษณะห้าม นี่คือเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย
ประการที่สอง ถ้ามีการยอมรับปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 รัฐบาลใหม่ก็จะมีเวลาเตรียมการในการเป็นประธานการประชุมเอเปกเพียง 3 เดือนเท่านั้น จะอิหลักอิเหลื่ออุตลุดสักแค่ไหนก็คิดกันเอาเอง
ประการที่สาม ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก่อนครบกำหนด 8 ปี ไม่ว่าโดยรูปแบบใด รัฐบาลใหม่ก็จะมีเวลาเพียงพอในการเตรียมการเพื่อเป็นประธานในการประชุมเอเปกนั้นได้
จะเป็นประการใดประการหนึ่งในสามประการนี้ คนไทยก็ต้องติดตามดูด้วยความระทึกใจกันต่อไป
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องคำนึงด้วยว่าประเทศไทยเคยเป็นประธานและเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกครั้งที่โด่งดังทั่วโลกมาแล้ว ในสมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ใครจะรักใครจะชัง ดร.ทักษิณ ชินวัตร ประการใดก็ว่ากันไป แต่ความจริงที่ต้องยอมรับกันก็คือ ดร.ทักษิณ ชินวัตร มีความเป็นสากล มีความก้าวหน้าทันสมัยไม่แพ้ประมุขหรือผู้นำเอเปกใดๆ เลย กระทั่งหลายท่านก็คบหาสนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นพิเศษ ในขณะที่ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ก็ชำนาญการต่างประเทศ รอบรู้ในราชประเพณีต่างๆ
จึงสามารถทำกำหนดการและแผนการในการต้อนรับและในการประชุมเอเปกได้อย่างยิ่งใหญ่งดงามโด่งดังไปทั้งโลก
การประชุมเอเปกในครั้งนั้นบรรดาประมุขประเทศมหาอำนาจต่างๆ มากันครบถ้วน แม้ประเทศเล็กๆ ก็ไม่มีประเทศใดลาหรือขาดเลย นับเป็นการประชุมเอเปกครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของโลก และสามารถมีมติที่เป็นประโยชน์ต่อชาวโลกเป็นที่ประจักษ์
รัฐบาลได้ขอรับพระมหากรุณาธิคุณพระเจ้าอยู่หัวเพื่อพระราชทานจัดงานเลี้ยงรับรองและเป็นเกียรติแก่บรรดาประมุขและผู้นำประเทศต่างๆ อย่างยิ่งใหญ่ที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งเป็นการประกาศพระบรมเดชานุภาพให้ปรากฏต่อชาวโลกที่โดดเด่นอย่างยิ่ง
ในการนั้นทรงมีพระเมตตามีพระบรมราชานุญาตให้จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคจำลองเพื่อแสดงความยิ่งใหญ่และความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ และวัฒนธรรมประเพณีอันรุ่งเรืองแห่งราชอาณาจักรไทยให้ปรากฏแก่บรรดาประมุขและผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคจำลองนั้นเป็นการจัดขึ้นเป็นครั้งแรก และมีการถ่ายทอดข่าวนี้ไปยังประเทศต่างๆ เกือบร้อยประเทศ ภาพอันยิ่งใหญ่งดงามตระการตาแห่งลำน้ำเจ้าพระยาในยามขบวนพยุหยาตราทางชลมารคจำลองเคลื่อนไป และในยามที่บรรดาประมุขและผู้นำประเทศต่างๆ ตื่นตาตื่นใจตะลึงกันเกรียวกราวนั้นเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นในการประชุมเอเปกเลย
ในการจัดงานครั้งนั้นผู้คนทุกหมู่เหล่าไม่ว่าจะมีการทะเลาะเบาะแว้งกันประการใดก็ทุ่มเทใจให้แก่ความยิ่งใหญ่ของประเทศชาติและความศักดิ์สิทธิ์แห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงไม่มีใครมาเกะกะระรานให้รำคาญสายตาประมุข ผู้นำประเทศสมาชิก และชาวโลกเลย
เบื้องหลังการประสานงานในครั้งนั้นก็ต้องกล่าวว่าเป็นภารกิจลับสำคัญของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและคณะที่ได้ทำงานลับอย่างเงียบๆ แบบปิดทองหลังพระ และเป็นส่วนที่ทำให้เกิดความงดงามบังเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์
ดังนั้นเมื่อประเทศไทยมีต้นแบบในการประชุมเอเปกอย่างนี้แล้ว การจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกในปี 2565 จึงไม่ใช่เรื่องง่ายและทำอย่างลวกๆ ได้ และต้องระวังการนำเรื่องราวในอดีตมาเปรียบเทียบในเชิงเยาะเย้ยถากถางหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่การเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปกไว้ให้มาก
มิฉะนั้นก็จะอับอายขายหน้าชาวโลกชนิดที่ไม่กล้ามองหน้าชาวโลกกันทีเดียว

กำปั้นไทยไร้พ่าย! ลิ่ว 7 รุ่นต่อยซีเกมส์
เลขาวุฒิสภา แจ้ง สว. ยกเลิกประชุมวุฒิสภา 15- 16 ธ.ค.นี้ หลังยุบสภาแล้ว
ดร.จักษ์ ชม อนุทิน ตัดสินใจระดับรัฐบุรุษ ยุบสภาครั้งนี้ เผาพรรคส้มเหลือแต่ขี้เถ้า
กกต. กางแนวทาง ค่าใช้จ่าย สส. ช่วงเลือกตั้ง พรรคการเมืองหาเสียงได้ตั้งแต่วัน ยุบสภา
ปูติน ยกระดับชีวิตพลเมืองรัสเซีย อัตราความยากจนลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี