วันเสาร์ ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568
.jpg)

อิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ําปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ฝนตกลงในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่องและตกหนักในบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอีกพื้นที่หนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำและลมมรสุมดังกล่าว แม้จะมีพื้นที่น้ำท่วมบ้างแต่ความรุนแรงน้อยกว่าที่ผ่าน และเข้าสู่ภาวะปกติได้ในเวลาอันรวดเร็ว
“พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนจรดจังหวัดชุมพรมีปริมาณน้ำในลำห้วยต่างๆ เป็นจำนวนมากที่ไหลลงทะเล ให้กรมชลประทานพิจารณาวางแผนสร้างแหล่งเก็บกักน้ำต่างๆ ตามความเหมาะสมไว้ให้ประโยชน์ให้กับราษฎรและเพิ่มช่องระบายน้ำผ่านถนนและคลองระบายน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยด่วนต่อไป...” พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2547
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า กรมชลประทานได้น้อมนำแนวพระราชดำริดังกล่าวมาดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอบางสะพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2562 ตามแผนนั้นกำหนดแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2568อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้โครงการยังไม่แล้วเสร็จ แต่ฝนตกหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็สามารถช่วยให้อำเภอบางสะพานรอดพ้นจากวิกฤตน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอบางสะพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นการแก้ปัญหาน้ำครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำและถึงปลายน้ำตามสภาพภูมิประเทศของ อำเภอบางสะพาน ที่มีความแตกต่างกันในแต่ละส่วน โดยพื้นที่ต้นน้ำจะมีความลาดชันสูง ในขณะที่พื้นที่ปลายน้ำ เป็นที่ราบสลับที่ดอน ดังนั้นเมื่อเกิดภาวะฝนตกหนักและต่อเนื่องหลายวัน น้ำจะหลากเข้าท่วมพื้นที่ตอนล่างซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนอำเภอบางสะพานอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินให้ชาวบางสะพานอย่างมากเป็นเวลามากกว่าสิบปี
โครงการคลองผันน้ำคลองบางสะพาน อำเภอบางสะพานเป็นงานภายใต้โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอบางสะพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2563 มีความยาวประมาณ 531 เมตร ลึก 6 เมตร กว้าง 32 เมตร สามารถระบายสูงสุดที่ 520 ลบ.ม./วินาที
“ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำคลองบางสะพาน คลองผันน้ำได้ทำหน้าที่ในการรับและระบายน้ำหลากให้ไหลลงสู่ทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนตัวเมืองบางสะพานได้อย่างมีประสิทธิผล ทั้งยังช่วยลดพื้นที่น้ำท่วมในเขตอำเภอบางสะพานได้ถึง 4,894 ไร่ ชาวบ้านได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น 1,640 ครัวเรือน ที่สำคัญยังช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญเพียงเส้นเดียวที่จะเดินทางลงสู่ภาคใต้อีกด้วย เป็นการยกระดับชีวิตของราษฎรในพื้นที่ให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” อธิบดีกรมชลประทานกล่าว
ทั้งนี้โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอบางสะพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบด้วยงานสำคัญๆ หลายโครงการ โดยในพื้นที่ต้นน้ำ กรมชลประทานได้ดำเนินการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำเดิมที่มีอยู่ 3 แห่ง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบ้านโป่งสามสิบ อ่างเก็บน้ำบ้านคลองลอย และอ่างเก็บน้ำวังน้ำเขียว มีความจุรวมกันประมาณ 1.32 ล้านลบ.ม. รวมทั้งยังได้ปรับปรุงฝายทดน้ำห้วยลึกอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีก 1 แห่ง เพื่อให้สามารถใช้งานได้เต็มศักยภาพเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางแห่งใหม่อีก2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำบ้านไทรทอง พร้อมระบบส่งน้ำมีความจุ 13.29 ล้านลบ.ม. ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566 และอ่างเก็บน้ำคลองลอยตอนล่างพร้อมระบบส่งน้ำ จะเปิดโครงการในปี 2566มีความจุ 17.46 ล้านลบ.ม. คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 เมื่ออ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง ดังกล่าวแล้วเสร็จ จะสามารถตัดยอดน้ำในพื้นที่ต้นน้ำและมีเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนถึง30.82 ล้านลบ.ม.
สำหรับพื้นที่กลางน้ำ กรมชลประทานจะได้ทำการขุดขยายคลอง 4 สายประกอบด้วย คลองบางสะพาน ซึ่งเป็นคลองขนาดใหญ่สุดที่ไหลผ่านเมืองบางสะพาน ส่วนอีก3 สาย เป็นคลองสาขา คือ คลองแม่รำพึง คลองเขาม้าร้องและคลองปัตตามัง ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งดำเนินการขุดคลองผันน้ำอีก 3 สาย เพื่อตัดยอดน้ำที่ไหลบ่าผ่านตัวเมือง ประกอบด้วย คลองผันน้ำคลองบางสะพาน แล้วเสร็จเมื่อปี 2563 ส่วนอีก 2 สายคือ คลองผันน้ำแม่รำพึง-อ่าวบ่อทองหลาง และคลองผันน้ำคลองเขาม้าร้อง-อ่าวบางสะพาน จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป พร้อมทั้งจะดำเนินการสร้างอาคารบังคับน้ำตามลำคลองเป็นระยะๆ จำนวน 9 แห่ง เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ
“ในส่วนพื้นที่กลางน้ำนี้หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถตัดยอดน้ำที่ไหลบ่าผ่านตัวเมือง และผลักออกสู่ทะเลในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ อ.บางสะพาน ได้ในอัตราประมาณ 1,000 ลบ.ม.ต่อวินาที มากกว่าอัตรารับน้ำของคลองเดิมกว่าเท่าตัว นอกจากนี้ ยังจะสามารถเก็บกักน้ำในคลองได้ปริมาณน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้น มีพื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์กว่า 10,000 ไร่ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งคลองมีรายได้ที่ดีขึ้น และสร้างความมั่นคงให้กับชุนชน” นายประพิศกล่าว
ส่วนพื้นที่ปลายน้ำ กรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำ (ปตร.) ปลายคลองบางสะพานที่ตำบลแม่รำพึง ทำหน้าที่บริหารจัดการน้ำทั้งการกักเก็บน้ำไม่ให้ไหลลงทะเลไปจนหมด เพื่อประชาชนสองฝั่งคลองจะมีน้ำอุปโภค-บริโภค และการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในหน้าน้ำหลากทั้งยังช่วยป้องกันการรุกล้ำของน้ำเค็มไม่ให้เข้ามาในคลองบางสะพานด้วย
เมื่อโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอบางสะพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2568 ไม่ใช่เพียงแค่จะช่วยให้อำเภอบางสะพาน จะรอดพ้นจากวิกฤตน้ำท่วมที่เกิดขึ้นซ้ำซากในอดีตเท่านั้น แต่ยังจะทำให้อำเภอบางสะพาน เป็นพื้นที่ที่มีน้ำต้นทุนที่อุดมสมบูรณ์ สามารถขยายพื้นที่ชลประทานได้อีกกว่า 15,450 ไร่ ซึ่งจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืน

สลด! ลิงกังกัด ชายวัย 63 เสียชีวิตคาบ้าน พบมือยังถือเหล็กยาว มีบาดแผลบริเวณขาซ้าย
ดราม่าสนั่นเครื่องเล่น Skyflyers เสียงกรี๊ดดังโหยหวนยันดึก ชาวชุมชนรอบเอเชียทีคสุดจะทน
เปิดวินาทีไทยแสดงหลักฐาน ทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด กลางที่ประชุมอนุสัญญาออตตาวา
วันนี้ในอดีต! รำลึก 27 ปี ในหลวง ร.9 เสด็จฯ เปิดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 มิตรภาพไร้พรหมแดน
เตรียมออกหมายเรียก เวย์ ไทเทเนียม รับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกงทรัพย์ สัปดาห์หน้า

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี