วันก่อนผมมีโอกาสได้พูดคุยกับ “ราเชน ตระกูลเวียง” หัวหน้าพรรคทางเลือกใหม่ ที่ได้พบกันเพราะคุณราเชน เป็นนักเคลื่อนไหวคนสำคัญ เป็นจิตอาสา เจอกันที่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยหลายครั้ง ตอนนี้มาตั้งพรรคการเมือง และเล่าให้ผมฟัง ว่า
พรรคทางเลือกใหม่ ตั้งขึ้นมาด้วยอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ปกป้องสิทธิประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ การตั้งพรรคครั้งแรก ตั้งแล้วล้มเลย สาเหตุที่ล้มเพราะประชุมครั้งแรก มีผู้ประชุมประมาณ 40 คน ประชุมเสร็จ ได้หัวหน้าพรรค เลขาพรรค เหรัญญิก โฆษก นายทะเบียนและตำแหน่งต่างๆ ครบแล้ว ก็มีสมาชิกคนหนึ่งยกมือถามว่า หัวหน้ามีเงินเท่าไหร่ ในการจัดตั้งพรรคทางเลือกใหม่ ผมตอบว่ามี2 แสน ภรรยาให้มา คนที่ถามผมบอกว่า“หัวหน้าครับ ผมเคารพมติที่ประชุม แต่วันนี้ผมมีนัดผมขออนุญาตไปก่อนนะครับ ที่ประชุมว่าไงเอาตามนั้นเลยครับ” คนอื่นก็เอาตามบ้างจนเหลือเพียง4-5 คนล้มไหมละครับ???
เมื่อมันเป็นอย่างนี้ ผมก็สงสัยว่าการเมืองมันเป็นเรื่องของคนมีเงินเท่านั้นหรือ ไม่มีเงินอย่าทะลึ่งมาทำการเมือง ก็คิดว่าจะวางมือ แต่คิดได้ว่า เราเป็นจิตอาสาจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อประเทศชาติประชาชนมันอยู่ในหัวใจ ถ้าเราเลิกเราไม่ทำ พี่น้องประชาชนไม่มีทางไปไม่มีทางรอด เพราะนักการเมืองส่วนใหญ่ที่พูดก็เป็นแค่วาทกรรม
ก็เลยไปศึกษาประวัติศาสตร์คนที่ประสบความสำเร็จทางการเมือง ไปดูคุณทักษิณ ชินวัตร ที่เข้าสู่แวดวงการเมืองครั้งแรก ทำให้พรรคการเมืองเก่าแก่ไม่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ ผมจึงศึกษาถอดรหัสคุณทักษิณ ว่าเขาประสบความสำเร็จได้อย่างไร พบว่าเขาใช้นโยบายทางการเมืองมาทำการตลาด พอชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลเขาก็ทำทันที คือ กองทุนเงินล้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท วันที่คุณทักษิณชนะ ท่านไปกดปุ่มธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ สะพานควาย โดยโอนไปให้หมู่บ้านทั่วประเทศกว่า 7 หมื่นหมู่บ้านและความที่เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทางการตลาด เขาก็ตั้งกล้องภาคเหนือภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน ถ่ายทอดสดการโอนเงิน ภาพเหล่านี้มันติดตาประชาชน และเขาทำได้จริง
นโยบายนี้ผมยอมรับว่าดีจริง เพราะถูกนำมาใช้ทุกรัฐบาลตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้ ยังถูกใช้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อผมถอดรหัสคุณทักษิณได้ดังนั้นผมก็มาคิดว่า ผมต้องมีนโยบายที่เหนือกว่าคุณทักษิณ และต้องดีกว่ามากๆ ถึงจะชนะได้ จึงคิดนโยบาย “เงินทุนเจ้าบ้านเพื่อเศรษฐกิจไทยทุกครัวเรือน” ซึ่งทุกคนที่เป็นเจ้าบ้านตาม ทร.14 จะได้สิทธิ์กู้เงิน คือสิทธิ์เงินกู้ โดยที่ไม่ต้องค้ำประกัน ไม่ทวงไม่ถามว่าเอาไปทำอะไรและเมื่อไหร่จะคืน ให้ตั้งแต่เหนือจดใต้ ตะวันออกยันตะวันตกทุกตรอกทุกซอกทุกซอย ทุกถนนหนทาง ไม่ว่าจะอยู่บนดอย หรือแบบเงาะป่าซาไก เพียงคุณเป็นเจ้าบ้านก็คุณได้สิทธิ์นั้นทันที พ่อค้า แม่ค้าอาชีพอิสระ หาบเร่แผงลอย กรรมกรแบกหามหาเช้ากินค่ำ แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ สามล้อ ตุ๊กตุ๊กซาเล้ง เก็บขยะ ถ้าคุณเป็นเจ้าบ้าน คุณได้สิทธิ์เทียบเท่ามหาเศรษฐี 500 ลำดับของประเทศไทย
บนเงื่อนไข 3 ข้อ 1.เปลี่ยนเจ้าบ้านทุกกรณีต้องคืนทั้งต้นและดอก 2.สร้างวินัยการเงินการคลังพร้อมกันทั้งแผ่นดินวันนี้นโยบายเรากำหนดให้กู้ 36,000 บาทต่อรายเจ้าบ้าน กู้แล้วชำระคืนวันละ 100 บาท เดือนละ 3,000 บาทปีละ 12 ครั้ง ถือว่าป็นผู้ที่มีวินัยการเงินการคลังดี ฟรีดอกเบี้ย เพิ่มวงเงิน 3.กรณีเสียชีวิต ทุกกรณีหายกันไม่เป็นหนี้มรดกตกไปถึงลูกหลาน เจ้าบ้านคนใหม่ขึ้นมา ก็เบิกใหม่ได้โดยอัตโนมัติ
“สนับสนุนนโยบายเงินทุนเจ้าบ้านขอครอบครัวละ 1 เสียง หรือ 1 เสียงเจ้าบ้านสนับสนุนพรรคทางเลือกใหม่เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดินจะได้มีโอกาสเป็นเจ้าของรัฐบาลกับเขาสักครั้งหนึ่ง ที่ผ่านมาบอกว่าเป็นรัฐบาลของประชาชน แต่ข้อเท็จจริงมีคนบางกลุ่มบางพวกเป็นเจ้าของรัฐบาล จริงหรือไม่จริง ทางเลือกใหม่คือทางรอด ทางเลือกเดียวของคนไทย เพราะเรากล้าคิดกล้านำทำจริง”
❝
ผมมาเพื่อรักษาสิทธิ์
และประโยชน์ของชาวบ้าน ขอโอกาสให้ประชาชนคนไทย
เข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบง่ายๆ
ตามนโยบายเงินทุนเจ้าบ้าน
❞
ถามว่าแล้วธนาคารจะให้เงินไหม?
คำตอบ : ไม่ให้ ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าบ้านแต่ถ้าเป็นเจ้าบ้านต้องให้เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล
ถามว่าโอกาสชนะ โอกาสมีรัฐมนตรีในนามพรรคทางเลือกใหม่ไหม? ทางคุณราเชนบอกว่า ได้วางแผนไว้ขอคะแนนครอบครัวละ 1 เสียงเจ้าบ้านทั้งประเทศไทย ถ้าหากว่า ผมทำแลนด์สไลด์ได้ ผมมี 10 ล้านคะแนน ผมชิงนายกฯเลย เป้าหมายผมวาง สส. ไว้ 35 ที่นั่ง คือ 25 ท่าน ชูมือรับรองเสนอชื่อเป็นนายกฯ 35 คือเอาไว้บริหารราชการแผ่นดินติดขัดตรงไหนก็เสนอออกกฎหมายได้
และแผนต่อมา การที่จะได้ร่วมรัฐบาลผมเสนอทันทีแบบนี้นะ เราเสนอว่าเงินทุนเจ้าบ้านต้องทำทันทีถึงจะเข้าร่วม ซึ่งประชาชนเตรียมเฮได้เลยด้วยเงื่อนไขเดียว ขอเก้าอี้รัฐมนตรี กระทรวงใดก็ได้แต่ขอเป็น 1 ใน 5 กระทรวงที่ต้องรับผิดชอบต่อนโยบายเงินทุนชาวบ้าน
อาจจะมีคนมองว่านโยบายใครๆ ก็พูดได้แต่เข้าไปแล้วไม่ทำ ถูกต้องครับเพราะประเทศไทยยังไม่มี “นิตินโยบาย” บังคับกับพรรคการเมืองที่นำเสนอนโยบายแล้วไม่ทำ แล้วถามว่าพรรคทางเลือกใหม่ทำอย่างไร คือพรรคทางเลือกใหม่ มี “สัจนโยบาย” ทำทันทีให้เป็นสัจนโยบายไว้ การร่วมรัฐบาล นโยบายต้องทำที ถ้าไม่ทำก็ไม่ร่วม เงื่อนไขเดียวและเราเข้าได้ทุกฝ่าย
ผมไม่ได้มาเพื่อทะเลาะกับใคร ผมมาเพื่อรักษาสิทธิ์และสิทธิประโยชน์ของประเทศชาติ และสิทธิประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ขอโอกาสให้ประชาชนคนไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบง่ายๆ
วกมาที่เรื่อง บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คุณราเชน บอกว่า พรรคอื่นกลัวบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ผมไม่กลัว เพราะบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เป็นโอกาสของพรรคทางเลือกใหม่มากที่สุดบัตรใบเดียวเหนื่อย ถ้าส่งไม่ครบ400 เขต แต่นโยบายพรรคทางเลือกใหม่เป็นแมสโปรดักส์ ว่าหิวเมื่อไหร่ก็แวะมาให้เงินทุนเจ้าบ้าน จะเลือก สส.พรรคใดเขตใด ก็ได้ แต่คะแนนพรรคขอเลือกพรรคทางเลือกใหม่ 1 คะแนน1 เสียงเจ้าบ้าน
ผมขายนโยบายความคิดและความเป็นไปได้ พรรคอื่นชูนโยบายปราบยาเสพติด ปราบคอร์รัปชั่น แต่ขณะนี้ประชาชนไม่มีอันจะกิน จึงต้องแก้ปัญหาจุดนี้ พรรคทางเลือกใหม่เราไม่ได้มองว่าเป็นพรรคเล็ก แต่พร้อมชนกับพรรคใหญ่
ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ผมยืนยันพร้อมเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีในนามหัวหน้าพรรคซึ่งตามกฎหมายเสนอแคนดิเดตนายกฯได้ 3 ท่าน ในนามพรรคทางเลือกใหม่แน่นอน ส่วนใครจะได้เสนอชิงนายกฯ เป็นอำนาจของกรรมการบริหารพรรค เพราะพรรคการเมืองตามกฎหมาย ถ้าตั้งพรรคการเมืองมาเพื่อชู นาย ก. นาย ข.สีเขียว สีขาว เพื่ออะไรครับ อย่าไปหลอกชาวบ้านเลย ชูหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรีดีที่สุด (เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด)
ครับก็เป็นความเห็นของ “ราเชน ตระกูลเวียง” หัวหน้าพรรคทางเลือกใหม่ ว่าด้วยนโยบาย “เงินทุนเจ้าบ้าน” เป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เชื่อมโยงกัน กระนั้นก็ตามพรรคทางเลือกใหม่ ยังมีนโยบายด้านอื่นๆ อีกมากมายวันหลังจะมาบอกกล่าวกัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี