วันอาทิตย์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ยังคงอยู่ที่งานเสวนา (ออนไลน์) Reimagine Workplace Health Policy : มองมุมใหม่...ยกเครื่องนโยบายสุขภาพคนทำงาน จัดโดย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นหัวข้อ What’s Next for the Better Policy: นโยบายสุขภาพแรงงานไทยเดินต่อไปอย่างไรดี ส่วนสัปดาห์นี้จะเป็นหัวข้อ Better Health Better Productivity: เดินเครื่ององค์กรด้วยสุขภาพพนักงาน ซึ่งงานนี้จัดขึ้นเพื่อให้ทั้งแรงงาน ผู้ประกอบการรวมถึงภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เห็นความสำคัญในประเด็นการลดความเสี่ยงป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในกลุ่มวัยแรงงาน
ศ.(เกียรติคุณ) พญ.วรรณี นิธิยานันท์ ประธานเครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และนายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การสร้างเสริมสุขภาพทุกช่วงวัยและผู้ที่เป็นโรค NCDs แล้ว เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ซึ่งจะทำให้โรคหยุดอยู่กับที่ ไม่เกิดอาการรุนแรงขึ้น จึงต้องเน้นส่งเสริมที่คนวัยทำงาน เนื่องจากข้อมูลสำรวจสุขภาพประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปพบว่า คนวัยทำงานครึ่งหนึ่งมีปัญหาอ้วน ซึ่งดัชนีมวลกายอยู่ 25 กิโลกรัมต่อตารางเมตรขึ้นไป
โดยสาเหตุเกิดจากกิจกรรมทานไม่เพียงพอรับประทานอาหารมากเกินไป และรับประทานอาหารไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ปัจจัยอื่นที่อยู่ใกล้ตัวที่ทำให้เกิดโรคคือ “เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน” ซึ่งคนปกติค่าน้ำตาลในเลือดจะอยู่ที่ 77-99 มก./ดล. เท่านั้น แต่ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ที่ 100-125 มก./ดล. จะอยู่ในภาวะ “ว่าที่เบาหวาน” แต่ถ้าค่าน้ำตาลอยู่ที่ 126 จะกลายเป็นโรคเบาหวานทันที
“เรายังพบอีกว่า คนในอายุ 15 ปีขึ้นไป มีระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL-C) ต่ำ แต่ระดับคอเลสเตอรอลรวมที่สูง ซึ่งจะทำให้เป็นโรคที่ทำให้หลอดเลือดอุดตัน เช่น โรคหัวใจ โรคสมอง เป็นต้น ซึ่งคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ หรือบางคนรู้ตัวว่ามีความผิดปกติ แต่ไม่สนใจที่จะรักษา โดยปัญหาอยู่ที่ถึงแม้จะมีการตรวจสุขภาพประจำปีในหลายสถานประกอบการแต่ไม่ได้รับการสนใจ ถึงแม้จะตรวจพบว่ามีความผิดปกติก็ตาม” ศ.(เกียรติคุณ) พญ.วรรณี กล่าว
ศ.ดร.นพ.พรชัย สิทธิศรัณย์กุล อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แนวโน้มสำคัญของไทย คือ “การเข้าสู่สังคมสูงวัย” เนื่องจากประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เพิ่มขึ้นทุกปีและมีเด็กเกิดใหม่น้อยลง ซึ่งหมายความว่าจะมีแรงงานสูงวัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสังคมสูงวัยเกิดขึ้นแล้วในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประชากรรวมในประเทศลดลง แต่ประชากรสูงวัยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น จึงทำให้ผู้สูงอายุในญี่ปุ่นกลับไปทำงาน
จากสถานการณ์ดังกล่าวจึงเห็นได้ว่าโครงสร้างประชากรได้เปลี่ยนแปลงไป และคนวัยทำงานจะน้อยลงไปด้วย แต่ด้านเทคโนโลยีและศาสตร์การถนอมอาหารดีจากอดีตเป็นอย่างมาก เมื่ออยากรับประทานอะไรในโลกก็ได้รับประทาน โดยการสั่งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่สิ่งที่เป็นได้ว่าเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากจากในอดีต คือ “ร้านกาแฟ” ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และมากกว่าร้านหนังสือและร้านเครื่องเขียน
“เมื่ออายุและโรคภัยเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ถ้าหากมีสุขภาพดีก่อนอายุ 60 ปีโอกาสมีสุขภาพดีหลังอายุ 60 ปี ย่อมสูงกว่าผู้มีสุขภาพไม่ดีก่อนอายุ 60 ปี และเป็นเช่นเดียวกันในทุกกลุ่มอายุ ถ้าอยากมีสุขภาพดีในอนาคต จะต้องสร้างเสริมสุขภาพในวันนี้ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ประหยัดกว่าการรักษาพยาบาลอย่างแน่นอน” ศ.ดร.นพ.พรชัย กล่าว
บวรนันท์ ทองกัลยา นายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา มุมมองในการบริหารคนมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ซึ่งมีการสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารระดับสูงหลายบริษัท พบว่าสิ่งที่ให้ความสำคัญหลังโควิด-19 คือ 1.Product Quality (คุณภาพการผลิต) ของคน 2.การทำงานแบบ Hybrid (ผสมผสาน) และ 3.การดูแลสุขอนามัยของคนทำงาน
นอกจากนี้ มีผลสำรวจมุมมองของคนทำงานในสหรัฐอเมริกา ว่าอยากร่วมงานกับองค์กรแบบไหนพบว่าร้อยละ 60 คนทำงานในอเมริกาเลือกให้ความสำคัญกับ 1.สุขภาพของคนทำงานเป็นหลัก 2.อยากร่วมงานกับองค์กรที่ให้เวลาในการพักผ่อน 3.ให้ความสำคัญกับจำนวนเพื่อนร่วมงาน โดยจะต้องเหมาะสมกับปริมาณงาน และ 4.ต้องการเรื่องการประกันสุขภาพที่ดี
“เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าจะแปลงปัญหาและความต้องการของคน มาเป็นรูปแบบการจัดการเพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีของคนวัยทำงานได้อย่างไร ซึ่งการทำให้คนมีสุขภาพกายและใจที่ดี จะแสดงให้เห็นว่าองค์กรใส่ใจกับพนักงาน ทำให้พนักงานมีกำลังใจในการทำงาน การลางานและการลาหยุดก็จะน้อยลง ในขณะเดียวกันทำให้มีความผูกพันกับองค์กรสูงขึ้นอีกด้วย” บวรนันท์ กล่าว
ณัฐ ลิ้มทอง ผู้ชำนาญการทรัพยากรมนุษย์ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจข้อมูลคนในองค์กร ซึ่งบริษัททำร่วมกับกรมสุขภาพจิตเขตพื้นที่ 4 ในเรื่องของความสุขของคนในองค์กร พบ “สุขภาพ” เป็นเรื่องสำคัญมาก และทำให้พนักงานหลายคนไม่มีความสุข ซึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดโรค NCDs คืออาหาร จึงเกิดกิจกรรมในองค์กรที่ชื่อว่า “กินอุ่น นอนอิ่ม” ขึ้นมา มีการจัดวัตถุดิบอาหารให้กับร้านค้า เพื่อปรุงให้กับพนักงานองค์กร และเชิญเชฟมาสอนปรุงอาหารให้กับแม่ครัวในองค์กร เพื่อให้ปรุงอาหารได้ถูกโภชนาการแต่ยังคงรสชาติเหมือนเดิม ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายในด้านอาหารให้กับพนักงาน และยังมีการประกวดอาหารในองค์กรอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมี 1.โครงการ Smart HR BETAGRO เป็นการใช้แอปพลิเคชั่นในการดูแลพนักงานตั้งแต่เริ่มเข้ามาเป็นพนักงาน จะมีการเก็บข้อมูลโดยเฉพาะถ้าเป็นคนป่วย จะมีการเก็บข้อมูลต่อเนื่อง เช่น เบาหวาน น้ำตาลในเลือด และความดัน เป็นต้น แล้วส่งข้อมูลให้กับแพทย์เพื่อจะได้วิเคราะห์โรคและเตรียมยา ซึ่งจะรับยาโดยไม่ต้องผ่านโรงพยาบาล ซึ่งเป็นการลดการสัมผัสด้วย
2.โครงการสร้างสุขภาพดีจากแม่สู่ลูก จากข้อมูลพบว่าอัตราการเกิดของพนักงานตั้งครรภ์ในพื้นที่ จ.ลพบุรี มีค่อนข้างน้อย แต่อัตราการเกิดแล้วเสียชีวิตตอนเกิดมีค่อนข้างสูง จึงได้ส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีจนถึงทารกในครรภ์ด้วย จึงได้มีการแจกไข่เพื่อเพิ่มโปรตีนให้กับแม่และทารกในครรภ์ และ 3.โครงการ Happy Retirementเป็นการดูแลก่อนเกษียณอายุ ทั้งด้านสุขภาพกายสุขภาพใจ และสุขภาพการเงินอีกด้วย

สลด! ลิงกังกัด ชายวัย 63 เสียชีวิตคาบ้าน พบมือยังถือเหล็กยาว มีบาดแผลบริเวณขาซ้าย
ดราม่าสนั่นเครื่องเล่น Skyflyers เสียงกรี๊ดดังโหยหวนยันดึก ชาวชุมชนรอบเอเชียทีคสุดจะทน
เปิดวินาทีไทยแสดงหลักฐาน ทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด กลางที่ประชุมอนุสัญญาออตตาวา
วันนี้ในอดีต! รำลึก 27 ปี ในหลวง ร.9 เสด็จฯ เปิดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 มิตรภาพไร้พรหมแดน
เตรียมออกหมายเรียก เวย์ ไทเทเนียม รับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกงทรัพย์ สัปดาห์หน้า

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี