อาจกล่าวเป็นการทั่วไปได้ว่า ครอบครัวชาวไทยที่นับถือศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามนั้น มักจะเข้าถึงซึ่งคำสั่งสอน และประกอบพิธีทางศาสนาของเขาอย่างค่อนข้างเป็นประจำและสม่ำเสมอกว่าครอบครัวชาวไทยที่นับถือพุทธศาสนา ยิ่งในกลุ่มเยาวชนคนหนุ่มสาวชาวพุทธของเราส่วนใหญ่ ยิ่งดูจะเหินห่างจากวัดวาอาราม จนเข้าไม่ถึงซึ่งแก่นแท้ หรือแก่นสารของคำสั่งสอนของพุทธศาสนา เพื่อการดำรงชีวิตและขัดเกลาจิตใจให้ใสสะอาด
เหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็คงเป็นเพราะเราปล่อยปละละเลยการเล่าเรียนฝึกสอนเกี่ยวกับหลักธรรมของพุทธศาสนา รวมทั้งการบ่มเพาะการใช้หลักธรรมเป็นวิถีชีวิต หรือไม่ก็เพราะในการแสดงออกซึ่งการนับถือพุทธศาสนาในยุคสมัยนี้มักจะเป็นเรื่องของพิธีกรรม หรือนัยหนึ่งแค่เพียงแสดงตนเป็นชาวพุทธตามประเพณีวัฒนธรรมเท่านั้น ซึ่งมักจะเป็นเรื่องทางกาย โดยไม่ได้ไปถึงแก่นสารของพุทธศาสนาที่ว่าด้วยการขัดเกลาจิตใจให้สงบ ใสสะอาด ไม่ยึดติดกับอารมณ์ และคล้อยตามไปกับการเปลี่ยนแปลงของกายและสภาพแวดล้อมแต่อย่างใด อีกทั้งวิถีชีวิตของชาวไทยสมัยใหม่ต่างก็ได้รับอิทธิพลจากชาวตะวันตกในเรื่องการเสริมสร้างความมั่งมี มั่งคั่งทางวัตถุ ด้วยการแข่งขัน แก่งแย่งและชิงดีชิงเด่นกัน รวมทั้งชีวิตประจำวันก็เต็มไปด้วยการบริโภคทั้งสิ่งของ และสิ่งบันเทิงกายบันเทิงใจต่างๆ จนทำให้ไม่ได้ใส่ใจกับศาสนาสักเท่าไหร่
เมื่อชาวพุทธไทยโดยทั่วไป โดยเฉพาะเยาวชนคนหนุ่มสาวต่างเหินห่างหลักธรรม และการเข้าวัดเข้าวา สภาวะจิตใจก็ไม่แปลกที่จะเคลิ้มไปกับโลกแห่งวัตถุนิยม และการเป็นอัตตา ยึดมั่น ถือมั่นในความคิดอ่านและผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก สภาวะจิตใจก็จะเต็มไปด้วยการแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น เอาประโยชน์เข้าตน ยึดตนเป็นที่ตั้ง เป็นเรื่องของการเอาแพ้เอาชนะ การเผชิญหน้าและการล้มล้างต่อกันและกัน ขาดซึ่งการยึดตัวตนด้วยสติ และการคิดเห็นเกี่ยวกับผู้อื่นที่เป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก
แต่เราคนแก่คนเฒ่าจะมัวไปโทษเยาวชนคนหนุ่มสาวไม่ได้ เพราะเขาเติบโตอยู่ในสังคมที่มิได้มีการดำเนินการเรื่องการขัดเกลาจิตใจมาเป็นเวลาช้านาน อีกทั้งเรื่องการประพฤติตนในสังคม จึงส่งผลให้เยาวชนคนหนุ่มสาวขาดกรอบและหลักความคิด และขาดการเข้าถึงซึ่งหลักธรรมที่จะช่วยเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตและปฏิบัติตนไปโดยปริยาย
พุทธศาสนานั้นเป็นข้อแนะนำ หรือเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตที่จะเป็นผลดีต่อตัวตน และต่อผู้อื่นที่จะต้องอยู่ร่วมกัน ฉะนั้นก็คงไม่เป็นการสายเกินไปที่จะได้มีการทบทวนเกี่ยวกับสาระเนื้อหาที่สำคัญ หรือแก่นสารของพุทธศาสนา เพื่อนำมาฝึกสอนและเผยแผ่ให้กับเยาวชนคนหนุ่มสาว เพื่อให้เขาต่างมีความเข้าอกเข้าใจและใช้เป็นวิถีทางในการดำรงชีวิตได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน อีกทั้งสังคมไทยก็อยู่ในวิสัยที่จะจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับพุทธศาสนา โดยเริ่มต้นที่อริยสัจ 4 เป็นสำคัญ เพราะอริยสัจ 4 คือการได้ตระหนักรู้เกี่ยวกับความเป็นจริงของชีวิต ที่มาของประเด็นปัญหา และแนวทางการแก้ไขที่จะนำไปสู่การเป็นพลเมืองที่ดี เป็นมนุษย์ที่ดี และเป็นมนุษย์ที่จักหลุดพ้นจากสังสารวัฏจักรวงเวียนของชีวิตได้
สิ่งหนึ่งที่จะต้องเสริมสร้างความเข้าอกเข้าใจ ก็คือวัฒนธรรมประเพณีปฏิบัติทางพุทธศาสนา เช่น การตักบาตร ทำบุญทำทาน การสวดมนต์ และพิธีกรรมต่างๆ เช่น การบวชนาค หรือการทอดกฐินนั้น ไปจนถึงการหล่อพระนั้น มิใช่เรื่องเสียหายใดๆ หากแต่ต้องเข้าใจว่าเป็นเพียงเรื่องทางกาย ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการเป็นชาวพุทธที่ดีที่สมบูรณ์ เนื่องจากแก่นแท้ของพุทธศาสนา ก็คือการเข้ามาพินิจพิจารณา ทบทวนภายในจิตใจ เพื่อขจัดความอยาก ความโกรธ ความเกลียดชังต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความสงบ และหลุดพ้นจากความเป็นอัตตา การตระหนักรู้ในเรื่องความไม่แน่นอน และความไม่สมประสงค์ของชีวิต
การสนับสนุนให้คนหนุ่มสาวได้เข้าถึงซึ่งแก่นสารของพุทธศาสนา ก็จะช่วยทำให้เขาได้ตระหนักรู้ว่าพุทธศาสนามิได้จำกัดอยู่ที่ประเพณีวัฒนธรรมดังกล่าวหากแต่มีความลึกซึ้งที่จะอำนวยให้ความเป็นมนุษย์ของเขานั้นมีคุณค่าและมั่นคงยิ่งขึ้น
ก็ขอร่วมกันเชิญชวนเยาวชนคนหนุ่มสาวนอกจากจะเข้าวัดแล้ว ก็อยากให้เข้าถึงซึ่งศาสนาไปพร้อมๆ กัน
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี