วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
.jpg)
อดีตนายกฯ ที่หนีคดีโกง ประกาศให้เก็บศพตนเองไว้ ไม่ให้เผา
อ้างว่า ชีวิตและการต่อสู้ของตนเองจะได้เป็นอมตะ
ความคิดของนักการเมืองโกงหนีคดีเช่นนี้ ตื้นเขินจนน่าใจหาย น่าเวทนา
มันสะท้อนว่า เขามองชีวิตและความตายอย่างไร? และตอกย้ำว่า ไม่ได้สำนึก ปลดปลงอนิจจังใดๆ กับชีวิตที่ได้ก่อกรรมที่ผ่านมาเลยแม้แต่น้อย
1. ความเชื่อตามศาสนาคริสต์
ชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เชื่อว่า ความตายเป็นสภาวะที่ร่างกายและวิญญาณแยกออกจากกัน เมื่อมนุษย์เสียชีวิตลง ร่างกายที่เป็นสสารจะสลายกลายเป็นธุลีดิน ส่วนวิญญาณที่แยกออกจากร่างกายจะถูกนำไปพิพากษาตามบุญและบาปของตนที่ได้เคยกระทำไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ หากทำความดีมากๆ ก็จะไปยังสวรรค์ แต่หากทำความชั่วก็จะไปยังสถานไฟชำระหรือ “นรก” เพื่อชำระโทษ
ชาวคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ เชื่อว่า การมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เป็นเพียงแค่เรื่องชั่วคราวเท่านั้น เมื่อมนุษย์เสียชีวิตลงก็จะได้กลับไปอยู่กับพระเจ้าอย่างถาวร พระเจ้าได้ทรงเตรียมสถานที่ไว้ให้สำหรับเฉพาะผู้ที่มีความเชื่อ มีความรักและศรัทธาในพระองค์
2. ความเชื่อตามศาสนาอิสลาม
เมื่อคนตายแล้ว ชาวมุสลิมจะฝังศพเพื่อให้ร่างสลายไปตามธรรมชาติ และจะต้องฝังศพภายใน 24 ชั่วโมง หรือฝังให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยฝังที่ “กุโบร์” ถือเป็นสถานที่แรกที่ดวงวิญญาณจะพำนักรอคอยก่อนเข้าสู่การตัดสินในวันแห่งการพิพากษา
การฝังศพ จะฝังในท่านอนตะแคง ให้ส่วนศีรษะและใบหน้าของศพหันไปทางทิศตะวันตก อันเป็นที่ตั้งของวิหารกะบะฮ์ที่ตั้งอยู่ในนครเมกกะ
จะไม่มีการฝังสิ่งของมีค่าต่างๆ ลงไปในหลุมศพกับผู้ตาย เพราะชาวมุสลิมเชื่อว่า สิ่งที่จะติดตัวผู้ล่วงลับไปมีเพียงสามอย่างเท่านั้น ได้แก่ ความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้าและศาสนกิจที่ตนสั่งสมไว้,วิทยาทานหรือกุศลทาน และการมีบุตรที่ดีเพื่อทำหน้าที่ขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าให้แก่ตนหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว
3. ความเชื่อตามศาสนาพุทธ
อดีตนายกฯ หนีคดี แสดงออกว่าตนเองนับถือศาสนาพุทธ พึงทราบว่า
ความเชื่อของชาวพุทธโดยทั่วไปนั้น เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เมื่อเสียชีวิตลง จะมีอีกโลกหนึ่งหรืออีกภพภูมิที่เราต้องเดินทางต่อไป ดังนั้น ครอบครัวและญาติจึงจัดพิธีงานศพทำบุญอุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่ผู้ตาย
เพื่อที่ว่าผู้ล่วงลับจะได้เดินทางไปสู่สุคติภูมิหรือภพภูมิที่ดีแทนการเกิดในทุคติภูมิหรือเป็นสัตว์เดรัจฉาน
แต่ละขั้นตอนในการจัดการศพ ล้วนมีหลักธรรมสอดแทรก อาทิ
การอาบน้ำศพ-รดน้ำศพ
เพราะต้องการให้ร่างกายของผู้ตายสะอาดและบริสุทธิ์ ปริศนาธรรมที่แฝงอยู่ในขั้นตอนการอาบน้ำศพ-รดน้ำศพ คือ “เมื่อคนเราเสียชีวิตลงไปแล้ว การนำของหอมหรือน้ำอบน้ำมนต์ใดๆ มารด ก็ไม่อาจทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ ดังนั้น ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ควรใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทและหมั่นทำบุญทำความดีอยู่เสมอ”
การนำเงินใส่ปากศพ
เงินที่ใส่ปากศพ ปริศนาธรรม คือ สอนให้รู้จักใช้เงินอย่างเป็นประโยชน์ แบ่งกิน-แบ่งใช้ ทำบุญให้ทาน
การมัดตราสัง
“การมัดตราสัง” ใช้ด้ายสายสิญจน์ทำเป็นบ่วงมัดศพ 3 เปลาะ ที่คอ มือ และเท้า
ปริศนาธรรมของการมัดตราสัง คือ บ่วงมัดศพทั้ง 3 เปลาะนี้เปรียบได้กับกิเลสตัณหาทั้ง 3 ประการที่คอยผูกรั้งคนเราให้ตกอยู่ในสังสารวัฏ ดังคำภาษิตไทยโบราณที่ว่า “ตัณหารักลูกเปรียบเหมือนบ่วงผูกรัดคอ ตัณหารักเมียเปรียบดั่งเชือกผูกศอก ตัณหารักข้าวของหรือทรัพย์สินเปรียบเสมือนห่วงรัดเท้า”
การตั้งวางศพ
ต้องหันศีรษะของศพไปทางทิศตะวันตกเสมอ คติธรรมที่แฝงอยู่ คือ “ความตาย” นั้นเป็นการเสื่อมสิ้นไป เช่นเดียวกับพระอาทิตย์ที่ตกทางทิศตะวันตกเสมอ
การจัดงานบำเพ็ญกุศล
การจัดงานบำเพ็ญกุศลนี้ เป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย แต่คติธรรมที่แฝงอยู่ คือ เตือนสติให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตระหนักถึงความไม่เที่ยงแท้ของสังขาร พร้อมกับเร่งขวนขวายทำความดีสะสมบุญกุศลเพื่อไปสู่สุคติในยามจากโลกนี้ไป
มิใช่ให้มายึดติดกับการต่อสู้อะไรเลย
การจัดงานฌาปนกิจศพ
งานฌาปนกิจศพ ปริศนาธรรม คือ เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่ครอบครัว ญาติสนิท จะได้มาร่วมส่งผู้ตาย เผาร่างแล้วก็เหลือเถ้ากระดูกเก็บไว้ระลึกถึง ไว้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ชีวิตก็เท่านี้เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นอนิจจัง
ไม่ใช่จะมาเก็บร่างไว้เป็นอมตะอะไรเลย
ทั้งหมด จะเห็นว่า คติธรรมที่แฝงอยู่กับการจัดการศพล้วนแต่สอนให้ลดละ ปล่อยวาง
หาใช่ยึดติด ยึดมั่น ถือมั่น แถมยังไม่ยอมรับความจริงแห่งการกระทำของตน อย่างที่คนโกงหนีคดีพยายามจะสื่อแสดงออกมานั้นเลยแม้แต่น้อย
สารส้ม

'ปลอดประสพ'น้อมรำลึก 'สมเด็จพระพันปีหลวง' กับการประมงไทย(ตอนที่ 1)
'สงขลา' กำจัด 'ปลาหมอคางดำ' ควบคุมระบาดสัตว์น้ำต่างถิ่น
'พิชิต'ฉะเดือด!!! กัมพูชาวางระเบิดใหม่ ช่องอานม้า ซัด'อนุทิน'ละเลย ทำสันติภาพสวนทาง
พท.สวน'อนุทิน' ปมกล่าวหารัฐบาลที่แล้ว ใช้อำนาจกีดกัน สวน รบ.ปัจจุบัน ย้ายเดือนเดียว เฉียด 100 ตำแหน่ง
ชาวบ้านฮือฮา! พบแสงไฟปริศนาลอยบนท้องฟ้า ในคืนลอยกระทง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี