คอลัมน์นี้ขอเชิญชวนคนไทยผู้จงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติให้พร้อมใจกันออกมาตะโกนว่า “ไม่ต้อนรับทูตคนใหม่ของสหรัฐฯ” ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยผู้นำ ซึ่งมีปัญหาทางสมองให้มาทำลายความมั่นคงภายในของประเทศไทย
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นายรอนนี แจ็คสันอดีตแพทย์ประจำทำเนียบขาวที่เคยดูแลสุขภาพอนามัยตลอดถึงอาการป่วยไข้ของประธานาธิบดีสหรัฐมาตั้งแต่สมัย จอร์จ ดับเบิลยู. บุช จนถึงสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก่อนผันตัวมาเป็นวุฒิสภา โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่า
“กระบวนการการรับรู้ของไบเดน แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนมานานหลายปีแล้ว”
“เขาไม่ควรเป็นประธานาธิบดีของเรา!”
ทวิตเตอร์ของอดีตแพทย์ประจำทำเนียบขาว สร้างความสั่นสะเทือนให้แก่รัฐบาลของ นายโจ ไบเดนปธน. วัย 79 ปี จน บารัค โอบามา ออกมาโจมตีนายแจ็คสันว่า ไม่มีจรรยาบรรณ โอบามา พยายามปกป้องนายไบเดน
ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่า ไบเดน มีปัญหาทางสมองมีความคิดเชื่องช้า ออกอาการจิตตกอยู่บ่อยครั้ง ไบเดนยังหลงละเมออยู่กับความคิดเก่าๆ ที่ว่าอเมริกาเป็นเจ้าโลก ทั้งๆ ที่ยุคนี้สหรัฐเป็นได้เพียงเจ้าโลกประเภทที่คนไทยเรียกว่า “ปลัดขิก” เท่านั้น
ล่าสุด อาการทางสมองของนายไบเดน ทำให้อเมริกันชน ขายขี้หน้าเรียกเสียงฮาไปทั่วโลก เมื่อนายไบเดน ขึ้นเวทีปาฐกถาแล้วอ่านโพยแบบตรงทุกคำตามสคริปต์ จนเผลอพูดคำว่า “end of quote repeat the line” ซึ่งในสคริปต์ต้องการสื่อให้เขารู้ว่าตรงนี้จบประโยคแล้ว และให้อ่านซ้ำเฉพาะที่ขีดเส้นใต้
นายไบเดน เป็นคนหลงละเมอเพ้อพกอยู่กับความรุ่งโรจน์ในอดีต จนทำให้อเมริกาเป็นประเทศบ้าสงคราม ที่สร้างความเดือดร้อนให้คนทั่วโลกอยู่ทุกวันนี้
หากความเชื่องช้าทางสมองของผู้นำสหรัฐฯจำกัดสร้างความเดือดร้อนแต่เฉพาะในสหรัฐอเมริกาก็ยอมรับว่าเป็นชะตากรรมของประเทศนั้น แต่ที่ยอมรับไม่ได้คือที่อาการทางสมองที่จ้องจะทำลายความมั่นคงประเทศไทย
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดนแต่งตั้ง นายโรเบิร์ต เอฟ.โกเดค Robert F. Godec เป็น ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจาณารับรองจากสภาคองเกรส
ว่าที่ทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯแถลงต่อสภาคองเกรสว่าอย่างไร เพจ “บูรพาไม่แพ้” ได้ถอดความออกมาได้อย่างสะใจ จึงขออนุญาตก๊อบปี้มาให้อ่านทั้งหมดดังนี้
“ตีหัวตั้งแต่ยังไม่เข้าบ้าน ว่าที่ #ทูตสหรัฐประกาศจะให้ไทยปรับปรุงสิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและลดการซื้อพลังงานจาก #เมียนมา เพื่อกดดันให้รัฐบาลทหารคืนประชาธิปไตย
นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯ ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศวุฒิสภาสหรัฐว่า “ตั้งใจจะช่วยปรับปรุงเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และให้ไทยร่วมกดดันเมียนมาด้วย”
วุฒิสมาชิกสหรัฐ ตั้งกระทู้ถามนายโกเดค ถึงมาตรา 112 ซึ่งส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและมีผู้ถูกจับกุมคุมขังมากมาย นายโกเดค กล่าวว่า
“สหรัฐเคารพราชวงศ์ไทยในฐานะสถาบันหนึ่งและเข้าใจความจงรักภักดีของคนไทยต่อราชวงศ์ แต่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น มีความสำคัญอย่างยิ่งเขาเคยเน้นย้ำทั้งต่อสาธารณะและในเพจส่วนตัว
เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เขาเคยเน้นย้ำทั้งต่อสาธารณะและในทางส่วนตัวถึงความสำคัญที่ประชาชนแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรีโดยไม่ต้องหวาดกลัวการถูกจับกุมและจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
“ผมขอย้ำว่าคนที่ถูกจับกุมตัวจะต้องได้รับการปฏิบัติโดยเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างเต็มที่ในระหว่างการดำเนินคดี” ว่าที่ทูตสหรัฐฯ ยังระบุว่า...“จะช่วยเหลือประเทศไทยปรับปรุงสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะเรื่องการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงาน”
โดยเขาบอกว่า“ได้เห็นพัฒนาการบางอย่าง แต่ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก และเขายืนยันจะทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้มีพัฒนาการ”
ว่าที่ทูตสหรัฐฯคนใหม่ยังระบุว่า..“จะกดดันให้ไทยลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากเมียนมา ตามรายงานของหน่วยงานสิทธิมนุษยชนว่า ไทยนำเข้าพลังงานจากเมียนมาถึงร้อยละ 80
“เรากำลังหาทางให้ไทยเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลเมียนมา ทางเลือกทุกอย่างวางอยู่บนโต๊ะ รวมถึงเรื่องน้ำมันและก๊าซ รัฐบาลทหารเมียนมาได้ทำการอันเหี้ยมโหด และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหยุดยั้ง” เขาย้ำว่าเรื่องเมียนมาจะเป็น “ประเด็นสำคัญที่สุด” เรื่องหนึ่งที่จะหารือกับทางการไทย
องค์กร Human Rights Watch ระบุว่า ปตท.เป็นผู้จ่ายเงินให้กับรัฐบาลทหารเมียนมารายใหญ่ที่สุด ด้วยการซื้อก๊าซธรรมชาติจากบ่อก๊าซยานาดา และซอว์ติกา คิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 80 ของปริมาณส่งออกทั้งหมดของเมียนมา รายได้จากก๊าซธรรมชาติเป็นรายได้ต่างประเทศสำคัญของเมียนมา มีมูลค่ามากถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี
นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เคยรับผิดชอบกิจการไทยและ #เมียนมา ในช่วงประจำกรมเอเชียตะวันออก หลังจากนั้น ไปเป็นทูตประจำตูนิเซียและเคนยา
เชี่ยวชาญปัญหาแอฟริกาและยังเคยทำงานเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอิรัก
เขาได้รับการเสนอชื่อจาก “ประธานาธิบดีโจไบเดน” ให้เป็น “เอกอัครราชทูตประจำกรุงเทพฯ”คนใหม่ ขณะนี้รอการรับรองจากวุฒิสภา”
อ่านทัศนคติของ ว่าที่ทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯแล้วพูดได้เต็มปากว่า นายโกเดค ร้ายกาจ ชั่วช้ามากกว่าอดีตทูตสหรัฐฯ เช่น นางเคนนี่ คริสตี้ ที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นมิคสัญญีในปี 2553 นางคริสตี้เป็นตัวแทนวอชิงตัน ที่สนับสนุนคนเสื้อแดง ให้ตั้งสถานีวิทยุชุมชน โจมตีสถาบันและเป็นผู้สนับสนุนทั้งยุทธวิธีปัจจัยให้จัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง ตลอดถึงสมคบกับซีไอเอในการสนับสนุนเสื้อแดง ให้ทำการประท้วงรุนแรงเผาบ้านเผาเมืองในปี 2553
แต่นายโกเดค มีเพียงเป้าหมายทำลายความมั่นคงของไทยโดยมุ่งเป้าหมายไปที่กฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายปกป้องสถาบันเท่านั้น นายโกเดคยังก้าวก่ายแทรกกระบวนการยุติธรรมของไทย กดดันให้ปล่อยแกนนำสามกีบ ที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งศาลได้ตัดสินไปแล้วว่าจำเลยที่ถูกกักขังในเรือนจำ และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ระหว่างดำเนินคดี มีจุดมุ่งหมาย “ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์”
คำพูดของนายโกเดค ที่ว่า “มาตรา 112 ซึ่งส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและมีผู้ถูกจับกุมคุมขังมากมาย” นายโกเดค กล่าวว่า
“สหรัฐเคารพราชวงศ์ไทยในฐานะสถาบันหนึ่งและเข้าใจความจงรักภักดีของคนไทยต่อราชวงศ์ แต่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมีความสำคัญอย่างยิ่ง..”
นายโกเดคถือว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติและศูนย์กลางของความมั่นคงของประเทศชาติ เป็นเพียงสถาบันหนึ่ง ที่ฝ่ายทำลายสถาบัน สามารถวิจารณ์ในที่สาธารณะได้ ด้วยกิริยาวาจาที่หยาบคาย กักขฬะ ชั่วช้า เลวทราม ย่ำยีดวงใจคนไทยผู้จงรักภักดี เป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามทัศนคติของนายโกเดค
นายโกเดค มีเป้าหมายทำลายความมั่นคงของไทยยังไม่พอ ยังจะบังคับขู่เข็ญให้ไทยเลิกค้าพลังงานกับเมียนมาห้ามไทยซื้อก๊าซจากหลุมยานาดา และซอว์ติกาโดยที่สหรัฐไม่สำเหนียกว่าปตท.เป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ที่รัฐบาลไม่สามารถสั่งให้หันซ้ายหันขวาได้
สิ่งที่สหรัฐฯและว่าที่ทูตสหรัฐฯประจำกรุงเทพฯต้องทำ คือ ให้ประเทศไทยและสหภาพเมียนมาเกิดหายนะ เหมือนกับที่สหรัฐฯ ทำให้ยูเครนพังพินาศวอดวายและเศรษฐกิจยุโรปแทบล่มสลายเพราะสหรัฐฯแซงก์ชั่นห้ามซื้อขายพลังงานจากรัสเซีย
วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 รัฐบาลเมียนมาขับทูตอังกฤษออกจากประเทศ ฐานไม่ยอมมอบสารตราตั้งให้รัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งถืออำนาจรัฏฐาธิปัตย์และพยายามทำลายความมั่นคงภายในประเทศเมียนมาโดยสมคบกับสหรัฐฯและกลุ่มประเทศตะวันตก จัดตั้งรัฐบาลเงาหรือเอ็นยูจีและกองกำลังพิทักษ์ประชาชนหรือ พีดีเอฟ ขึ้นมาขัดขวางการบริหารงานของรัฐบาลทหารเมียนมา
จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเห็นตัวอย่างสหภาพเมียนมาแล้ว คนไทยควรปฏิบัติอย่างไรกับ ว่าที่ทูตคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพฯ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี