วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนให้คิด
เขียนให้คิด

เขียนให้คิด

เฉลิมชัย ยอดมาลัย
วันอาทิตย์ ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 02.00 น.
สังคมไทยเต็มไปด้วยการผูกขาด ทำไมเราปล่อยให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นได้

ดูทั้งหมด

  •  

ทุกวันนี้ คนไทยจำนวนไม่น้อยรู้ตัวดีว่าตกอยู่ในสภาวะการผูกขาดในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องการค้า การบริการต่างๆ เราทุกคนเห็นชัดว่ามีนายทุนเพียงไม่กี่ตระกูลในประเทศนี้ สามารถยึดกุมผูกขาดการให้บริการในเรื่องที่สำคัญต่อชีวิตประจำวันของผู้คนทั้งประเทศแต่ทว่าเรากลับไม่เห็นว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาการผูกขาดอย่างจริงจัง แต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือดูเสมือนว่ารัฐบาลยินดีสนับสนุนให้เกิดการผูกขาดโดยเอกชนเพียงไม่กี่รายด้วยซ้ำไป  

สองถึงสามทศวรรษที่ผ่านมา สังคมไทยตกอยู่ใต้สภาวการณ์การผูกขาด และการกระจุกตัวของการให้บริการสำคัญๆ อยู่ในกำมือของนายทุนระดับชาติ และข้ามชาติเพียงสองสามตระกูลเท่านั้น แล้วยิ่งนับวันสถานการณ์การผูกขาดในสังคมไทยจะยิ่งเลวร้ายมากขึ้นและมากขึ้นเป็นลำดับ ดังที่เราทุกคนได้พบแล้วว่ารัฐบาลยินยอมให้เอกชนรายใหญ่บางรายเข้าไปควบคุมผูกขาดโครงการขนาดใหญ่ที่ส่งผลโดยตรงต่อชีวิตประจำวันของประชาชนได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ โดยเฉพาะการปล่อยให้เอกชนยักษ์ใหญ่เข้าไปผูกขาดกิจการสำคัญๆ ได้โดยไม่ผ่านการแข่งขันในเชิงการตลาดอย่างแท้จริง 


แล้วยิ่งเรามีรัฐบาลที่มีลักษณะเป็นคณาธิปไตยที่มาจากการรัฐประหาร รวมถึงเป็นรัฐบาลเผด็จการรัฐสภาที่ชอบอ้างว่าชนะการเลือกตั้ง (ทุจริต) แล้วสามารถเข้าไปยึดกุมอำนาจรัฐไว้ในกำมือได้อย่างเหนียวแน่น เราก็จะยิ่งพบว่าอำนาจการผูกขาดในระบบเศรษฐกิจในประเทศของเราก็ยิ่งกระจุกตัวอยู่ในกำมือของนายทุนระดับ
ชาติที่มีความแนบแน่นกับผู้มีอำนาจรัฐแบบผูกขาดมากยิ่งๆ ขึ้นไป จนกล่าวได้ว่า เมื่ออำนาจรัฐกระจุกตัวก็นำไปสู่การกระจุกตัวของอำนาจการผูกขาดในเชิงเศรษฐกิจโดยปริยาย 

มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่ายิ่งรัฐบาลได้อำนาจมาโดยไม่ชอบธรรม ก็จะยิ่งเกิดการกระจุกตัวของกลุ่มผู้กุมอำนาจเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมจะต้องพยายามหาพวกด้วยการเอาอกเอาใจข้าราชการจำพวกเลวทราม และเจ้าสัวเลวทราม เพื่อให้รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมสามารถชูคออยู่บนฐานอำนาจไม่ชอบธรรมได้ยาวนานที่สุด หรือมิฉะนั้นก็เพื่อให้เกิดการซื้อขายเสียงด้วยกลอุบายที่สุดแยบยล แต่ทว่าน่ารังเกียจแบบสุดๆ เพื่อให้กลับเข้าไปเป็นรัฐบาลที่ปราศจากความชอบธรรมให้ได้อีกครั้ง 

เวลาพูดถึงเรื่องการผูกขาดในเชิงเศรษฐกิจ และเชิงธุรกิจแล้ว ประชาชนจำนวนไม่น้อยก็รู้อยู่เต็มอก แต่ก็ไม่รู้จะต่อสู้หรือคัดค้านความเลวทรามดังกล่าวได้อย่างไร จนในที่สุดก็ต้องยอมเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนความเลวร้ายนั้นๆ ไปอย่างหน้าชื่นอกตรม โดยอ้างว่าไม่มีทางเลือก ไม่ซื้อบริการจากนายทุนผูกขาด ก็ไม่รู้จะไปเลือกใช้บริการได้จากที่ไหน เพราะหันไปด้านซ้ายก็เจอนายทุนรายนี้ หันไปทางขวาก็เจอนายทุนอีกรายหนึ่ง สรุปคือหันไปทางซ้ายหรือขวาก็ไม่มีทางเลือกใดๆ อีกแล้ว  

เมื่อถามต่อไปว่า แล้วรู้หรือไม่ว่านายทุนทั้งสองรายนั้นเอาเปรียบประชาชนมาโดยตลอด ก็ได้รับคำตอบว่า รู้ยิ่งกว่ารู้ แต่ไม่มีปัญญาต่อกรด้วย ก็ต้องปล่อยไปตามยถากรรม สู้ไปก็แพ้ เหนื่อยเปล่า ป่วยการต่อสู้  

เมื่อประชาชนจำนวนไม่น้อยคิดและเชื่อแบบนี้ ก็จึงทำให้เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งขึ้นกับการที่รัฐบาลที่ไร้ความชอบธรรมจะร่วมมือกับนายทุนเพียงไม่กี่ตระกูลกอบโกยและโกงกินประเทศชาติได้โดยปราศจากผู้ขัดขวาง 

เราทุกคนพบว่าบริษัทยักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่บริษัทในประเทศไทยสามารถครอบครองรายได้ส่วนใหญ่จากการค้าการขายภายในประเทศไว้ในกำมือ หรือพูดให้ชัดโดยมีตัวเลขอ้างอิงก็คือ ในปี 2559 พบว่ามีบริษัทที่ทำรายได้สูงสุด 5 เปอร์เซ็นต์ในไทย สามารถครอบครองส่วนแบ่งรายได้ทั้งหมดสูงถึง 85 เปอร์เซ็นต์จากรายได้ของภาคธุรกิจทั้งหมดในประเทศไทย โดยพบว่าส่วนแบ่งรายได้ที่บริษัทยักษ์ใหญ่สามารถครอบครองได้นั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2547 แล้ว โดยในปี 2547 สามารถครอบครองส่วนแบ่งที่ระดับ 70 เปอร์เซ็นต์ (ดูเพิ่มเติมได้จากงานวิจัยของ Banternghansa, Paweenawat และ Samphantharak (2019) เรื่อง “Understanding Corporate Thailand I: Finance” (forthcoming) สามารถค้นหางานนี้ได้จากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์) 

สิ่งหนึ่งที่งานวิจัยชิ้นดังกล่าวข้างต้นระบุคือมีการกระจุกตัวของอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ เช่น ปิโตรเลียม และโทรคมนาคม ซึ่งอุตสาหกรรมทั้งสองนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดเป็นอย่างดีแล้วในสังคมไทย เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องตั้งคำถามเรื่องการผูกขาดในอุตสาหกรรมทั้งสองชนิดนี้อีกต่อไป 

มีคำถามที่น่าสนใจตามมาคือ แล้วรัฐบาลไทยปล่อยให้เกิดการผูกขาดได้อย่างไร รัฐบาลไม่นำพาต่อความเสียหายใหญ่หลวงที่เกิดกับสาธารณชนในอนาคตหรือ อันที่จริงก็พอจะเห็นข่าวอยู่บ้างว่ารัฐบาลก็สำเหนียกในเรื่องนี้พอประมาณ แต่ก็ดูเสมือนว่าแค่สำเหนียกเท่านั้น เพราะในเชิงการป้องกันและป้องปรามโดยแท้จริงนั้น ยังไม่เคยบังเกิดเป็นรูปธรรมสักครั้งในประเทศไทย  

ความสำเหนียกที่ว่านั้นก็คือ เราได้พบเห็นว่ารัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ที่มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ได้ตราพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ขึ้นมาแทนพระราชบัญญัติที่มีชื่อเดียวกัน แต่ตราขึ้นเมื่อ 2542 แต่ก็เป็นที่สังเกตว่า แม้จะมีพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้ามาตั้งแต่ปี 2542 แต่ก็ไม่เคยปรากฏว่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างจริงจังแต่ประการใด สรุปว่าก็แค่มี แต่ไม่เคยใช้อย่างจริงจังแม้แต่ครั้งเดียว  

แม้จะมีพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า ฉบับใหม่ออกมาก็ตาม แต่ก็ไม่ต่างไปจากเดิมคือ หลายคนวิพากษ์ว่าเป็นแค่เสือกระดาษเท่านั้น เพราะไม่สามารถนำไปบังคับหรือควบคุมใครได้เลยแม้แต่รายเดียว แม้กระทั่งเรื่องราวใหญ่โตล่าสุดที่เกิดการควบรวมกิจการระหว่างทรูกับดีแทคก็ตาม แต่ที่มากกว่านั้นก็คือไม่เคยเห็นพระราชบัญญัติดังกล่าวเอาผิดกับรัฐวิสาหกิจของไทยได้ เพราะมีการเขียนล็อกไว้ว่า รัฐวิสาหกิจที่ตั้งขึ้นเพื่อความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของรัฐ ประโยชน์สาธารณะ ผลประโยชน์ส่วนรวม หรือจัดให้มีสาธารณูปโภค  

สรุปก็คือ มีพระราชบัญญัตินี้ไว้ ก็ได้แค่มีเหมือนเดิม แต่ไม่เคยบังคับใช้ได้จริงแม้แต่กรณีเดียว เพราะฉะนั้นก็จึงมีคำถามว่า แล้วจะมีพระราชบัญญัติที่ว่านั้นไปเพื่อเหตุผลอะไรมิทราบ  

มีคำถามมากมายว่า ทำไมรัฐบาลยินยอมให้ผู้ประกอบการเพียงรายเดียวเข้าไปบริหารจัดการร้านค้าปลอดภาษีอากรในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเรื่องนี้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ไม่เคยตอบให้กระจ่าง แถมยังดูเสมือนเลี่ยงการตอบคำถามมาโดยตลอด  

นอกจากนี้ยังมีคำถามอีกว่าทำไมรัฐบาล คสช.อนุมัติให้แก้สัญญาเช่าศูนย์การประชุมสิริกิติ์จากเดิม 25 ปี เป็น 50 ปี ให้กับเอกชนรายหนึ่งที่ทุกคนรู้ดีว่าเป็นเจ้าของเบียร์ช้าง โดยไม่เปิดประมูลใหม่ 

และยังมีเรื่องที่กรุงเทพมหานครให้บริษัทกรุงเทพธนาคมได้รับสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการย้ายสายโทรคมนาคม สายเคเบิลต่างๆ ที่พาดผ่านจนรกกรุงเทพลงใต้ดิน แต่ขนาดมีการผูกขาดเช่นนี้แล้ว ก็ยังไม่สามารถนำสายต่างๆ ที่รกไปทั่วกรุงเทพฯลงใต้ดินได้หมดสิ้น 

สิ่งที่กล่าวในข้างต้นนั้นคือข้อเท็จจริงที่ทุกคนรับรู้ และรัฐบาลเองก็รับรู้ ส่วนนายทุนที่ได้รับประโยชน์ไปเพียงผู้เดียวก็รับรู้เป็นอย่างดี แต่แม้จะมีคนรู้เช่นเห็นชาติชัดเจนถึงเพียงนี้ บ้านเมืองของเราก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นการผูกขาดได้  

ยิ่งล่าสุดก็เจอกับการรวมกิจการระหว่างทรูกับดีแทคอีก คำถามคือคนไทยจะต้องทนทรมานและเสียประโยชน์ กับการถูกบังคับให้ต้องทนใช้บริการจากกลุ่มเอกชนที่ผูกขาดการให้บริการต่างๆ ในชีวิตประจำวันไปอีกนานเพียงใด  

หน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนจะมีปัญญาทำหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนได้หรือไม่ 

การผูกขาดการทำธุรกิจใดๆ ก็ตาม ถือได้ว่าเป็นการแสวงหากำไรที่ไม่เป็นธรรมต่อทั้งผู้บริโภคและคู่แข่งทางการค้า ดังนั้น ผู้ใดก็ตามที่สามารถผูกขาดการทำธุรกิจได้ก็จึงมีอำนาจในการสร้างกำไรมหาศาลได้โดยไม่เป็นธรรม เพราะสามารถขึ้นราคาค่าบริการได้ตามอำเภอใจ และไม่จำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพการให้บริการใดๆ อีกต่อไป เนื่องจากไม่มีคู่แข่งทางการค้าอีกแล้ว ดังนั้น เขาจึงสามารถขูดรีด ขูดเลือดขูดเนื้อผู้ใช้บริการได้ตามที่เขาจะต้องการ หากรัฐบาลไม่มีปัญญาจัดการแก้ปัญหาการผูกขาดในเชิงธุรกิจได้ ก็เท่ากับรัฐบาลเป็นตัวการให้เกิดการขูดเลือด ขูดเนื้อประชาชน 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:23 น. ‘นฤมล’ลั่นมีเงินทุนก้อนแรก 1 แสนล้าน ตั้ง‘สหกรณ์ สกสค.’คาด 3 เดือนครูลงทะเบียนได้
12:45 น. 'เสื้อแดงโคราช' แห่ต้อนรับ 'ทักษิณ' เป็นประธานเททองหล่อรูปเหมือน 'หลวงพ่อคูณ'
12:45 น. ‘ปาเกียว’พร้อม! ตะบันรุ่นใหญ่สุดรอบ 12 ปี
12:34 น. คุกคืนที่2!‘สีกากอล์ฟ’เครียดบ้าง ทำใจได้ อาจเจอ‘สีกาเก็น’ในแดนระหว่างพิจารณาคดี
12:25 น. หนุ่มดวงถึงฆาต! ขี่จยย.จะไปทำงาน-หลบหลุมน้ำ 'เฉี่ยวรถกระบะเสียชีวิต'
ดูทั้งหมด
ชุดทหารพรานก็ไม่รอด!! เขมรแต่งเครื่องแบบคล้ายชุดทหารพรานไทย สวนสนามต้อนรับ'ฮุน มาเนต'
ช็อก! คลินิกความงาม หลอกขายคอร์ส เปิดหรูในห้างดัง พบเงินบัญชีม้าเกือบ 50 ล้าน
(คลิป) 'รัชดา ธนาดิเรก'คายเรื่องลับ ยุคลุงตู่!! เล่าหมดเปลือก ปมดราม่า
‘ไพศาล’ปูดตั้ง‘วิษณุ’หัวหน้าทีมแก้ต่างคดี‘คลิปเสียง’ เปรียบรัฐบาลใช้ช่างทำรองเท้าไปทำฟัน
'ผอ.พศ.'แจงแล้ว! ปม'บิ๊กเต่า'สวดไม่จริงใจแก้ปัญหา ยันทำตามหน้าที่ ไม่ใช้ความรู้สึกตัดสิน
ดูทั้งหมด
นายกฯ ตัวจริง คือนักโทษพักคดี
บุคคลแนวหน้า : 19 กรกฎาคม 2568
ป่าช้าแตก
พม่าจัดเลือกตั้งปลายปีนี้ไทยควรสนับสนุนด้วยความยินดี
โกงไปจนวันสิ้นอำนาจรัฐ หรือหมดลมหายใจ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'เสื้อแดงโคราช' แห่ต้อนรับ 'ทักษิณ' เป็นประธานเททองหล่อรูปเหมือน 'หลวงพ่อคูณ'

‘ปาเกียว’พร้อม! ตะบันรุ่นใหญ่สุดรอบ 12 ปี

‘รองแม่ทัพภาค2’แฉเขมรทำมาตลอด วาง‘ทุ่นระเบิดใหม่’แต่โกหกว่า‘ของเก่า’ เปิด 3 พื้นที่ต้องระวัง

'อ.ลักษณ์' โพสต์กราบนมัสการ 'เจ้าคุณธงชัย' เชิดชูไม่สะสมเงินทอง

'ทีมเก็บกู้ทุ่นระเบิด'กู้มาได้อีก 3 ลูก ยืนยันล้าน%วางใหม่ รอแถลงบ่าย 3 โมงวันนี้

ยิ่งไต่สวนยิ่งชัด!‘ราชทัณฑ์’ขังนักโทษโดยชอบได้อย่างไร เมื่อไม่มีหลักฐาน‘วงจรปิด’ชั้น14

  • Breaking News
  • ‘นฤมล’ลั่นมีเงินทุนก้อนแรก 1 แสนล้าน ตั้ง‘สหกรณ์ สกสค.’คาด 3 เดือนครูลงทะเบียนได้ ‘นฤมล’ลั่นมีเงินทุนก้อนแรก 1 แสนล้าน ตั้ง‘สหกรณ์ สกสค.’คาด 3 เดือนครูลงทะเบียนได้
  • \'เสื้อแดงโคราช\' แห่ต้อนรับ \'ทักษิณ\' เป็นประธานเททองหล่อรูปเหมือน \'หลวงพ่อคูณ\' 'เสื้อแดงโคราช' แห่ต้อนรับ 'ทักษิณ' เป็นประธานเททองหล่อรูปเหมือน 'หลวงพ่อคูณ'
  • ‘ปาเกียว’พร้อม! ตะบันรุ่นใหญ่สุดรอบ 12 ปี ‘ปาเกียว’พร้อม! ตะบันรุ่นใหญ่สุดรอบ 12 ปี
  • คุกคืนที่2!‘สีกากอล์ฟ’เครียดบ้าง ทำใจได้ อาจเจอ‘สีกาเก็น’ในแดนระหว่างพิจารณาคดี คุกคืนที่2!‘สีกากอล์ฟ’เครียดบ้าง ทำใจได้ อาจเจอ‘สีกาเก็น’ในแดนระหว่างพิจารณาคดี
  • หนุ่มดวงถึงฆาต! ขี่จยย.จะไปทำงาน-หลบหลุมน้ำ \'เฉี่ยวรถกระบะเสียชีวิต\' หนุ่มดวงถึงฆาต! ขี่จยย.จะไปทำงาน-หลบหลุมน้ำ 'เฉี่ยวรถกระบะเสียชีวิต'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ผู้ว่าฯแบงก์ชาติต้องมีกระดูกสันหลัง

ผู้ว่าฯแบงก์ชาติต้องมีกระดูกสันหลัง

13 ก.ค. 2568

ต้องเลือกตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือ

ต้องเลือกตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือ

5 ก.ค. 2568

ทายาท (อสูร) การเมืองไทย

ทายาท (อสูร) การเมืองไทย

29 มิ.ย. 2568

อยู่เพื่อทำลายประเทศไทย

อยู่เพื่อทำลายประเทศไทย

22 มิ.ย. 2568

แพทองธาร : ความเจริญ-ความวิบัติของประเทศไทย

แพทองธาร : ความเจริญ-ความวิบัติของประเทศไทย

15 มิ.ย. 2568

อย่ารักชาติแบบศาสตราจารย์ไร้สาระบางจำพวก

อย่ารักชาติแบบศาสตราจารย์ไร้สาระบางจำพวก

8 มิ.ย. 2568

งบประมาณฯ ผลาญชาติ???

งบประมาณฯ ผลาญชาติ???

1 มิ.ย. 2568

แพทองธารไปอังกฤษ ไปพบยิ่งลักษณ์???

แพทองธารไปอังกฤษ ไปพบยิ่งลักษณ์???

25 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved