เมื่อข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีหน้าที่ต้องปราบปรามการทุจริต หรือ จับโจรผู้ร้าย กลับมีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติเสียเอง
กรณีศึกษา 3 กรณี ใน 3 หน่วยงาน ดังนี้
1. อดีตรองเลขาฯ ป.ป.ช. ร่ำรวยผิดปกติ 658 ล้านบาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ รวมมูลค่า 658,680,980 บาท
เป็นทรัพย์สินในชื่อคู่สมรส ตามรายการ ดังนี้
ห้องชุดที่ตั้งอยู่ ณ ถนน Kensington High Street ลอนดอน สหราชอาณาจักร มูลค่า 4,900,500 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือ 220,330,890 บาท
เงินฝากในบัญชีธนาคาร จำนวนรวม 194,587,589 บาท
เงินลงทุน จำนวนรวม 243,762,500 บาท
ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
2. อดีตอธิบดีดีเอสไอ ร่ำรวยผิดปกติกว่า 346 ล้านบาท
ประชุม ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 เสียง ว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ร่ำรวยผิดปกติ 346,652,588 บาท โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือหนี้สินลดลงมากผิดปกติ
จากนั้น ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของอดีตอธิบดีดีเอสไอ นายธาริต และคู่สมรส จำนวน 49 รายการ รวมมูลค่ากว่า 346 ล้านบาทเศษ พร้อมดอกผลของทรัพย์สินดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน
แม้นายธาริตพยายามร้องศาลรัฐธรรมนูญ แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยชี้ขาดว่า กฎหมายที่ใช้ในการดำเนินคดีนั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวอิศรามีรายงานว่า รายการร่ำรวยผิดปกติของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ยังมีการตรวจสอบขยายผลไปถึงทรัพย์สินมูลค่ากว่า53,512,096 บาทอีกส่วนหนึ่งด้วย
3. อดีตผู้กำกับโจ้ ร่ำรวยผิดปกติ 1,358 ล้านบาท
ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่ากว่า 1,358 ล้านบาท
คดีนี้ สืบเนื่องจากกรณีพันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล ตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร เมืองนครสวรรค์ กับพวก รวม 7 คน จับกุม นายจิระพงษ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาในคดีค้ายาเสพติด มีการเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี และกระทำการอันเป็นความผิดต่อกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาถึงแก่ความตาย
ปรากฏข้อเท็จจริงว่า พันตำรวจเอกธิติสรรค์ มีบ้านหลังใหญ่พร้อมสระว่ายน้ำในเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ บริเวณหมู่บ้านปัญญารามอินทรา และครอบครองรถยนต์จำนวนมาก เป็นรถหรูจำนวนหลายคัน มีมูลค่ารวมกันประมาณ 100 ล้านบาท ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานการตรวจสอบเบื้องต้นของพนักงานไต่สวนเจ้าของสำนวน และมีมติรับเรื่องกรณีพันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ไว้ไต่สวนข้อเท็จจริง
จากการไต่สวนข้อเท็จจริง พบว่า รายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ที่ดินพร้อมบ้านพักอาศัย รถยนต์ และเงินที่ใช้ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์หลายคัน ได้มาโดยไม่สัมพันธ์กับรายได้ และเกินกว่าฐานะและรายได้ที่ได้รับจากราชการจะพึงมี จึงเป็นกรณีที่พันตำรวจเอกธิติสรรค์อุทธนผล ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือหนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวม 32 รายการ
เป็นเงินทั้งสิ้น 1,358,121,750 บาท ได้แก่
บัญชีเงินฝากธนาคาร A ประเภทสะสมทรัพย์ ชื่อบัญชีนายธิติสรรค์ อุทธนผล รวมเป็นเงิน 1,197,694,152 บาท
บัญชีเงินฝากธนาคาร A ประเภทสะสมทรัพย์ ชื่อบัญชีนายธิติสรรค์ อุทธนผล รวมเป็นเงิน 11,542,450 บาท
บัญชีเงินฝากธนาคาร B ชื่อบัญชี นายธิติสรรค์ อุทธนผล รวมเป็นเงิน 34,577,170 บาท
ที่ดิน จำนวน 4 แปลง และบ้านพักอาศัย จำนวน 2 หลัง ตำบลบางชันอำเภอคลองสามวา กรุงเทพมหานคร รวมมูลค่า 54,150,000 บาท
รถยนต์ จำนวน 15 คัน ได้แก่ยี่ห้อ PORSCHE AUDI BENZ VOLKSWAGEN FORD มูลค่ารวม 6,190,000 บาท
เงินค่าเช่าซื้อรถยนต์ จำนวน 13 คัน ได้แก่ยี่ห้อ LAMBORGHINI BMW PORSCHE FORD BENTLEY FERRARI มูลค่ารวม 53,967,978 บาท
ล่าสุด ป.ป.ช. ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็น ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน
และเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 อัยการสูงสุด ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้ คดียังอยู่ในชั้นศาล
นี่คือกรณีศึกษา อุทาหรณ์เตือนสติ สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ ที่อยู่ในกระบนการยุติธรรม ที่มีหน้าที่จับโจร ปราบโจร จับโกง แต่กลับมีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติเสียเอง
ยังไม่นับคดีอาญา ที่แต่ละคนจะต้องไปต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี