ตอนก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐใหม่ๆ คอลัมน์นี้เคยเสนอบทความในเชิงวิเคราะห์ว่าพปชร.เป็นพรรคเฉพาะกิจ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับการเป็นนายกฯของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อเนื่องนายกฯจากยึดอำนาจเป็นนายกฯจากการเลือกตั้งปี 2562 และทำนายด้วยว่าพปชร. จะอยู่ได้ไม่เกินสองสมัยเลือกตั้ง
ตอนนั้นผู้ก่อตั้งพรรคคือ รัฐมนตรีสี่กุมารในรัฐบาลลุงตู่เถียงคอเป็นเอ็นว่า ตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อเป็นสถาบันการเมือง บัดนี้รัฐมนตรีสี่กุมารในรัฐบาลลุงตู่แยกตัวออกไปตั้งพรรคใหม่ชื่อ “พรรคสร้างอนาคตไทย”และมีแนวโน้มสูงว่าจะยุบพรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่ไปรวมกับพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์เกยุราพันธุ์
สี่สิบกว่าปีประสบการณ์ข่าวการเมืองประเทศไทย ได้เห็นพรรคการเมืองตั้งขึ้นมาแล้วล้มหายตายจากไปไม่น้อยกว่าสองร้อยพรรค และพรรคที่ล้มหายตายจากไปส่วนใหญ่บอกว่าสร้างพรรคให้ “เป็นสถาบันการเมืองไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ” และวันนี้พรรค พปชร.เป็นไปตามที่เคยทำนายไว้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้มีสิทธเลือกตั้งทั้งหลาย
ในวันที่ 9 มกราคม 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ พปชร.เสนอชื่อ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับ สส.พปชร.หลายคนย้ายไปสมัครเป็นสมาชิก “พรรครวมไทยสร้างชาติ”ที่หัวหน้าพรรคและเลขาฯพรรคพูดเหมือนกับหลายๆ พรรคที่ตั้งขึ้นมาแล้วล่มสลายไปภายในห้วงเวลาวาระการเลือกตั้งไม่เกินสองสมัย ว่า “ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แต่พรรคตั้งมา เป็นสถาบันการเมือง”
จึงขึ้นอยู่กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะพิจารณาว่า ที่มาของพรรครวมไทยสร้างชาติ กับพรรคพลังประชารัฐมีความเหมือน และแตกต่างกันอย่างไร ที่เหมือนกันคือ แกนนำ รทสช. และสมาชิกพรรคส่วนใหญ่ย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ กับ พปชร.ที่ต่างกันคือ พปชร.มีสมาชิกส่วนใหญ่ย้ายมาจาก สส.บ้านใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ในเครือข่ายนายทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพปชร.เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก ที่ไม่มีประสบการณ์บริหารพรรคการเมือง จึงจำเป็นต้องให้นักการเมืองขาใหญ่ ที่มีข้อครหามากมายและเคยเป็นคนในเครือข่ายนายทักษิณ ขึ้นมาเป็นมือขวาเป็นเลขาพรรคพปชร.ซึ่งอดีตเลขาฯพรรค พปชร.เคยประกาศว่า เขาคือเส้นเลือดใหญ่ของพรรค และเคยพูดในเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดชุมพร ว่า “ผมศรัทธาเชื่อมั่นในตัวหัวหน้าพรรคที่มีบารมีสูง ซึ่งสามารถใช้ให้คนทำงานบนดินและใต้ดินได้จำนวนมาก”
คำว่าการทำงานบนดินใต้ดินของอดีตเลขาฯ พปชร.ไม่ทราบว่า เป็นงานชนิดไหน มีเส้นสายเชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทาหรือไม่ หรือมีอิทธิพลในการโยกย้ายข้าราชการ และมีอิทธิพลในการแทรกแซงองค์กรอิสระหรือไม่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเก็บส่วยจากธุรกิจสีเทา บ่อนการพนัน คลับบาร์ ค้ายาเสพติดผิดกฎหมายหรือไม่
สิ่งเหล่านี้คนธรรมดาสามัญไม่มีทางรู้ได้แต่สิ่งที่ชาวบ้านสงสัยคือนักธุรกิจสีเทาชาวจีนที่มีชื่อว่า“ตู้ห่าว” บริจาคเงินสามล้านบาทให้พรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ที่เสนอชื่อพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในสภา นายตู้ห่าว บริจาคเงินเข้าพรรค พปชร. โดยการสมัครใจหรือได้รับข้อเสนอในสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้จากใคร
และสิ่งที่ชาวบ้านสงสัยมากกว่านั้น คือ ในห้วงแปดปีที่ ลุงตู่ เป็นนายกรัฐมนตรี นายตู้ห่าวมีอิทธิพลคับประเทศไทยได้อย่างไร เกือบสี่ปีที่ พปชร.เป็นแกนนำรัฐบาลขาใหญ่ใน พปชร.ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่หรือหลับตาข้างเดียวให้นายตู้ห่าวเติบใหญ่คับเมืองไทยหรือไม่... จริงอยู่นายตู้ห่าว เริ่มต้นจากการมีเส้นสายนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่เป็นหลานเขย อดีตรองยกรัฐมนตรีและรัฐมนตรียุติธรรมสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่พรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายค้านมาหลายปีแล้ว
ในเวลาเดียวกัน พปชร.เป็นแกนรัฐบาลเกือบสี่ปีที่ผ่านมาปล่อยให้นายตู้ห่าว ทำธุรกิจสีเทาร่ำรวยขึ้นมา เป็นหมื่นล้านได้อย่างไร หากไม่มีผู้ยิ่งใหญ่ในรัฐบาลไม่ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ กรณีนายตู้ห่าว เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ขึ้นมาให้ชาวบ้านสงสัย ยังข้อครหาอีกมากมาย ซึ่งมั่นใจว่าจะถูกเปิดโปงออกมาระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ
นั่นคือข้อเสียของพรรคเฉพาะกิจ เพราะนักการเมืองบางกลุ่มแห่กันมาอยู่พรรคเฉพาะกิจเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ชั่วคราว เมื่อมีเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาก็ผละจากพรรคเฉพาะกิจไปซบพรรคกล้วยด่างที่ตั้งขึ้นมารองรับผู้มีอำนาจต่อไป อย่างไรก็ตามในกรณีที่พลเอกประยุทธ์ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ผู้เขียนมั่นใจว่าลุงตู่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อครหาถ้ามีใน พปชร. แต่เชื่อว่าลุงตู่อาจระแคะระคายว่ามีข้อครหาจึงผละจาก พปชร.ไปร่วมงานกับ รทสช.
ความแตกต่างของ รทสช. กับ พปชร. คือทั้งหัวหน้าและเลขาฯพรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีข้อครหาใดๆไม่มีประวัติทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่มีข้อสงสัยว่าเคยยืมนาฬิกาใครมาใช้จนเจ้าของตายแล้วยังไม่คืน ทั้งหัวหน้าและเลขาฯ รทสช. เป็นนักการเมืองซื่อสัตย์มือสะอาดและเคยเป็น สส.สอบตกมาด้วยกัน
นอกเหนือจากนั้น หัวหน้าและเลขาฯพรรค รทสช. ไม่มีคุณสมบัติพิเศษในการบริหารพรรคการเมืองเหมือนกับอาจารย์ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยรทสช.จึงไม่มีทักษะบริหารจัดการกับ สส.สอบตก และสส.บ้านใหญ่ที่ย้ายตามลุงตู่มา ดังนั้น จึงทำนายว่าเส้นทางการเมืองของลุงตู่ในพรรคที่ย้ายเข้ามาร่วมงานใหม่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ซึ่งอาจเหมือนกับเส้นทางการเมืองสายสุดท้ายสถานีปลายทางของดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ในประเทศมาเลเซีย
ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด เคยเป็นนักการเมือง ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แต่สุดท้ายตกม้าตาย เพราะพรรคเฉพาะกิจ ดร.มหาเธร์ เคยเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคองค์การลายูรวมแห่งชาติหรือ พรรคอัมโนยาวนานถึง 22 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2524 ถึง พ.ศ. 2546 ก่อนเว้นวรรคทางการเมืองวางตัวในฐานะที่ปรึกษาการบริหารประเทศหลายปี จนกระทั่งถึงปี 2561 เมื่อนายกรัฐมนตรีนายนาจิบ ราซัค ของพรรคอัมโน มีข้อครหาคอร์รัปชั่นครั้งมโหฬารยักยอกเงินกองทุนพัฒนามาเลเซีย หรือ 1MDB หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ มีข้อครหาว่า พรรคอัมโนปกป้องนายนาจิบด้วย
ดร.มหาเธร์ ประท้วงด้วยการลาออกจากพรรคอัมโน และไปตั้งพรรคเฉพาะกิจขึ้นมาชื่อว่า“พรรคแนวร่วมแห่งความหวัง” ซึ่งเป็นพรรคที่รวบรวมนักการเมืองจากหลายกลุ่มหลายพรรคมาทำงานการเมืองร่วมมือกันโดยมีเป้าหมายโค่นล้มนายนาจิบและพรรคอัมโนลงให้ได้ ผลการเลือกตั้งในประเทศมาเลเซียเมื่อเดือน พ.ย 2561 พรรคแนวร่วมแห่งความหวัง ชนะเลือกตั้งได้ สส. 133 ที่นั่ง จากจำนวน สส. 222 คนของสภามาเลเซีย
แต่ในจำนวนสส. 133 คน มี สส.ของพรรคมหาเธร์จริงๆ เพียง 20 คน ในฐานะผู้อาวุโสและหัวหน้าพรรคเฉพาะกิจมหาเธร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครา แต่รัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีมี สส.ในพรรคตัวเองเพียง 20 คนก็อยู่ได้ไม่นาน นักการเมืองที่เคยฝักใฝ่พรรคอัมโนและนายนาจิบก็แยกตัวออกไปทำให้รัฐบาล ดร.มหาเธร์ล่มลงในปี 2563 และสภามาเลเซียฟอร์มรัฐบาลใหม่โดยได้แนวร่วมของพรรคอัมโนมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากดร.มหาเธร์อีกสองคน ก่อนยุบสภาเลือกตั้งใหม่เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2565
เมื่อมีการเลือกใหม่พรรคเฉพาะกิจก็แตกสลาย ดร.มหาเธร์เองก็ตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ชื่อว่าพรรคเปจวง ผลการเลือกตั้งวัน 19 พ.ย. 2565 พรรคเปจวง พ่ายแพ้หมดรูป ดร.มหาเธร์ผู้พัฒนาเกาะลังกาวีเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลก แต่ผลการเลือกตั้งในเขตลังกาวีเขามาอันดับสี่ นับเป็นความพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 53 ปี ชีวิตการเมืองของดร.มหาเธร์เมื่อนักข่าวสอบถามว่า ทำไมเลือกเป็นผู้แพ้แทนที่รักษาตำนานนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ไว้ ดร.มหาเธร์ตอบว่า“ผมไม่สนใจว่าตำนานจะเป็นอย่างไรไหนๆ ผมก็ต้องตาย อยู่แล้ว”
สถานีสุดท้ายบนเส้นทางการเมืองของ ดร.มหาเธร์จึงเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในประเทศไทยว่าความเลวร้ายของพรรคเฉพาะกิจ นอกจากฉุดรั้งความก้าวหน้าของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแล้ว พรรคเฉพาะกิจมันทำลายได้แม้กระทั่งตำนานนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี