การทำโพลล์และการนำเสนอโพลล์ มีบทบาทในการเมืองไทย
เพราะโพลล์จะถูกนำเสนอซ้ำๆ แพร่ขยายโดย “สื่อ” และสื่อบางส่วนก็จะเลือกเอาโพลล์ที่เข้าทางวาระแอบแฝงของตนไปขยายต่อ เพื่อหวังผลในการปั่นกระแส ชี้นำสังคมต่อไป
ในช่วงใกล้เลือกตั้ง โพลล์ที่ถูกจับตามองมาก ก็คือ “โพลล์เลือกตั้ง”ที่ถามว่า อยากให้ใครเป็นนายก? จะเลือกพรรคไหนเป็น สส.เขต? พรรคไหนบัญชีรายชื่อ?
1. โพลล์ อาจเพี้ยนได้อย่างไร?
กลุ่มตัวอย่าง หรือการสุ่มตัวอย่างประชากร ถือว่ามีความสำคัญมากว่าผลสำรวจจะสะท้อนความรู้สึกนึกคิดภาพรวมความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน?
กลุ่มตัวอย่างไม่ใช่เอาตามสะดวกคนทำ หรือไปถือป้ายยืนตามม็อบ หรือโทรศัพท์สุ่มเอาแบบมั่วๆ ถ้าสายไหนติดต่อไม่ได้ ก็โมเมเทกลุ่มตัวอย่างสายอื่นเสียบแทน ฯลฯ
กลุ่มตัวอย่างจะต้องสะท้อนความเป็นจริง ว่าในเขตเลือกตั้งนั้นๆมีประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งกี่คน เป็นสัดส่วนชายหญิง สัดส่วนรายได้ อาชีพ ฯลฯ
โพลล์ที่ใช้กลุ่มตัวอย่างแค่ 2 พันคน ก็อาจแม่นยำได้ หากกลุ่มตัวอย่างนั้น สะท้อนความเป็นจริง
ตรงกันข้าม โพลล์ที่มีกลุ่มคนร่วมแสดงความเห็นเป็นล้าน ก็อาจมั่วได้ ถ้าไม่มีการสุ่มตัวอย่างที่เป็นหลักวิชาการ
แต่จุดที่เพี้ยนกันมากในการทำโพลล์เลือกตั้ง คือ การสุ่มตัวอย่างมา2 พันคนจากฐานประชากรทั่วประเทศ แล้วนำมาสำรวจความเห็นทั้งการเลือกตั้งสส. บัญชีรายชื่อ และ สส.เขต !!!!
ผลสำรวจต่อ สส.บัญชีรายชื่อ อาจจะสะท้อนภาพรวมได้
แต่ผลสำรวจต่อ สส.เขต (โดยกลุ่มตัวอย่างจากทั่วประเทศ ไม่ได้สุ่มตัวอย่างในแต่ละเขต) นี่ยากจะเชื่อถือ
ใกล้เคียงคำว่า มั่ว
เพราะกลุ่มตัวอย่าง 2 พันคนนั้น เลือกมาจากฐานทั่วประเทศ
แต่ สส.เขต มีทั้งหมด 400 เขต
กระจายไป 77 จังหวัด
โอกาสที่คน 2 พันคนสุ่มจากทั่วประเทศ จะสะท้อนความจริงของประชากรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ซึ่งแต่ละเขตเลือกตั้งมีบริบทและฐานเสียงของบ้านใหญ่ ไม่เหมือนกัน มีเอกลักษณ์ของแต่ละเขต
อย่างมาก กลุ่มตัวอย่าง 2 พันคน ถ้ากระจายจริงๆ ก็เฉลี่ยไปเขตละ 5 คน ซึ่งไม่มีทางสะท้อนประชากรในเขตนั้นๆ ได้แน่นอน
โอกาส ใกล้เคียงแทงไฮโล!
การเอากลุ่มตัวอย่าง 2 พันคนจากทั่วประเทศ มาสรุปผลเลือกตั้งรายเขตโดยไม่ได้แยกสำรวจเป็นรายเขตเลือกตั้ง จึงเป็นเรื่องที่ผิดเพี้ยนในทางวิชาการ
ถ้าโพลล์สำนักไหนทำเช่นนี้ซ้ำๆ ส่อเจตนาจงใจบิดเบือน
2. ปัจจุบัน ไม่เฉพาะสถาบันการศึกษาและองค์กรต่างๆ เท่านั้นที่จัดทำโพลล์ แม้แต่เอกชน ตลอดจนพรรคการเมือง ก็นิยม“ว่าจ้างทำโพลล์”
ต้องระวังโพลล์รับจ้าง
3. การทำโพลล์ที่ถูกต้อง จะต้องอยู่บนพื้นฐานระเบียบวิธีวิจัย การตั้งโจทย์ การสุ่มตัวอย่าง การประมวลผล
ซึ่งถ้ามีเจตนาไม่สุจริต ไม่มีจรรยาบรรณ หรือรับจ้างทำโพลล์เพื่อสร้างกระแส สร้างภาพ โดยที่สังคมไม่รู้เท่าทัน ก็จะสร้างผลกระทบได้ไม่น้อย
4. ปัจจุบัน พรรคการเมืองใช้โพลล์เป็นเครื่องมืออย่างไร?
ใครมีคะแนนนิยมในโพลล์มาเป็นอันดับหนึ่ง ก็ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเทกระสุน ทุ่มทรัพยากร
แต่ถ้าโดนทิ้งห่าง แรงหนุนก็จะลดถอยลงไป
นอกจากนี้ การนำผลโพลล์เลือกตั้งมาปั่น ก็ยังช่วยปั่นกระแส ชี้นำสังคมได้ในระดับหนึ่ง
5. ล่าสุด นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เผยข้อมูลผลสำรวจลับ
ระบุว่า เป็นโพลล์ของฝ่ายความมั่นคง ทำทั่วประเทศ ทุกเขตเลือกตั้ง ไม่ใช่ใช้โทรศัพท์สุ่มโทร แต่ใช้การสำรวจความเห็นในแต่ละพื้นที่
สำรวจทุกภาค มีตัวเลขรายละเอียดในทุกภาค ของทุกพรรคการเมือง
คุณเสริมสุขบอกว่า จนท.ความมั่นคงแถวทำเนียบรัฐบาลส่งให้ดูเพื่อใช้ประกอบการรายงานข่าว สำรวจเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมืองก่อนเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลไม่มีรายละเอียดวิธีการสำรวจวิจัย รวมทั้งอ้างอิงในลักษณะแหล่งข่าว
คุณเสริมสุข ระบุว่า “เพื่อไทย คาดสส.หลงจ้งทั้งหมดให้เฉียด 170 สส. ตัวเลขเดียวกับที่รองอนุทินเผยก่อนหน้านี้ ขณะที่พท.ยังตีปี๊บเคาะกะลาปลุกมวลชนไม่ต้องกังวลก้าวข้ามตัวเลข 250 ไปแล้ว ที่หมายใหม่อยู่ที่ 310 จ้าาา ตีกระดิ่งเคาะระฆังจนมวลชนเชื่อแลนด์สไลด์แน่นวล
...ในส่วนการสำรวจของคะแนนนิยมพรรคน่าสนใจ
โพลล์ความมั่นคงให้คะแนนพรรคเพื่อไทย ที่ 10 ล้านคะแนน
เท่ากับสส.บชร. 27 คน
คะแนนพท.ปี’62 ที่ 7.9 ล้านคะแนน คะแนนเพิ่มมา 2.1ล้านคะแนน(ถ้าได้สส.บชร.ตาม NIDA POLL 50 คน นำมาคิดเป็นคะแนนพรรคจะได้ประมาณ 18.5 ล้านคะแนน)
....ส่วนคะแนนพรรคของรทสช.มาที่สอง 6 ล้านคะแนน = 16% ของผู้มา
ใช้สิทธิ์ เท่ากับได้สส.บชร.16 คน
เป็นตัวเลขใกล้เคียงกับที่รทสช.ประเมินไว้ อย่างน้อย 15 สส.บชร.(เลือกตั้ง 62 พปชร.ได้ 8.4 ล้านคะแนน หลังลุงตู่แยกตัวออกจากพปชร. หลายฝ่ายเชื่อคะแนนนิยมนายกฯจะตามไปต่อที่รทสช. รทสช.ประเมินคะแนนพรรคที่ 5 ล้านคะแนน)
...กก.มาอันดับสาม 5.3 ล้านคะแนนพรรค คิดเป็น14% ของผู้มาใช้สิทธิ์ = สส.บชร. 14 คน
ในขณะที่การเลือกตั้งปี’62 กก.ได้ 6.2 ล้านคะแนน = 17%
ในการเลือกตั้งปี’66 กก.โพลล์คมค.ให้สส.เขตและบชร.กก.รวมกันไม่น่าเกิน 25 คน (ปี’62 ได้สส.รวม 80 คน)
...ปชป.มาอันดับสี่ ในส่วนของคะแนนพรรค ปี’62 ได้ 3.9 ล้านคะแนนปี’66 โพลล์คมค.คาด 4.4 ล้านคะแนน = 12% = สส.บชร. 12 คน
ผอ.เลือกตั้งปชป. นิพนธ์ บุญญามณี คาดการณ์ตัวเลขคะแนนพรรคที่ 5 ล้านคะแนน (ขณะที่ NIDAPOLL ให้คะแนนพรรคปชป.ที่ 5% = 1.8 ล้านคะแนน = 5 คน)
...อันดับห้า มีสองพรรค ภจท.กับพปชร. ได้ 4 ล้านคะแนนเท่ากันคิดเป็น 11% ของผู้มาใช้สิทธิ์ =สส.บชร.11คน
ภจท.คาดการณ์คะแนนพรรคที่ 5-6 ล้าน
ขณะที่พปชร. เลขาพรรค สันติ พร้อมพัฒน์ คุยฟุ้งวันก่อนด้วยความมั่นใจสส.บชร.20 อันดับแรกของพปชร.สะบายใจได้ เข้าสภาแน่นอน ยอหอ 20 สส.บชร.=20% ของผู้มาใช้สิทธิ์ = 7.4 ล้านคะแนน หลังนายกตู่ออกจากพปชร. มีความเป็นไปได้น้อยมากพปชร.จะได้คะแนนพรรคถึง 7.4 ล้านคะแนน จากคะแนนพปชร 62=8.4 ล้าน ไปที่ลุงตู่แล้ว 6 ล้าน จะมาที่ลุงป้อมอีก 7.4 ล้าน เอามาจากไหน!!
...คะแนนพรรคของทสท. โพลล์คมค.ให้ที่ 1 ล้านคะแนน = 3% ของผู้มาใช้สิทธิ์=สส.บชร.3 คน โพลล์คมค.ยังคาดการณ์สส.เขตทสท.อยู่ที่ 3-5 คนจากกทม. 1 หรือ 2 และอีสาน 1-3 คน รวมสส.ทั้งหมด 5-8 คน
....
คุณเสริมสุข ระบุด้วยว่า
“โอกาสที่เพื่อไทยจะแลนด์ไถลถึง 250 ความเป็นไปได้ตามโพลล์คมค.ไม่มีทางเป็นไปได้เลย หากได้สส.บชร.ตามโพลล์คมค. 27 คน จะต้องได้สส.เขต 223 คนจากทั้งหมด 400 เขต ขณะที่การเลือกตั้งปี’62 เพื่อไทยได้ สส.เขต 137 คน
หากตัวเลขเป็นไปตามคาดการณ์ ของ NIDAPOLL เพื่อไทยจะต้องได้สส.เขตถึง 200 เขต เพื่อให้ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง จากสส.บชร.ที่มโนว่ามีในกระเป๋าแล้ว 50 คนตามที่ NIDAPOLL สำรวจ
ส่วนตัวเลข 310 สส.ที่หน.ชลน่าน เอามาปั่นกองเชียร์ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีที่มาที่ไปมาอย่างไร หรือแม้แต่ตัวเลข 250 ก็ไม่เคยให้รายละเอียดมาจากการสำรวจของหน่วยงานใด บชร.พรรคได้เท่าไหร่ เขตเท่าไหร่ จากภาคไหนชัดเจนมาจากการมโนของแกนนำพรรค
ในปี’62 NIDAPOLL สำรวจคลาดเคลื่อน 10% ให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยที่ 32% แต่ผลเลือกตั้งอยู่ที่ 22% ได้ 7.9 ล้านคะแนน=22% ของผู้มาใช้สิทธิ์ 35 ล้านคน...”
ย้ำว่า ข้อมูลที่คุณเสริมสุขนำเสนอ เป็นข้อมูลที่อ้างอิงแหล่งข่าวการรับฟังต้องใช้วิจารณญาณ
เพราะฉะนั้น ขอเรียกว่า เป็นรายงานข่าวจากคุณเสริมสุข ซึ่งอาศัยความน่าเชื่อถือของเจ้าตัวเป็นฐาน จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็สุดแท้แต่
อย่างไรก็ตาม ประเมินข้อมูลที่ออกมา เห็นว่าน่าสนใจ และดูจะสะท้อนสภาพเป็นจริงกว่าโพลล์หลายสำนักในขณะนี้
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี