เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 2565 ก้าวสู่ยุควิถีใหม่ด้วยพลังรัฐวิสาหกิจไทยอย่างยั่งยืน โดยปีนี้มีการมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นประจำปีรวม 11 ประเภท 36 รางวัล นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมกับรัฐวิสาหกิจที่ได้รับรางวัลและขอบคุณในความร่วมมือต่างๆ ที่รัฐวิสาหกิจให้แก่รัฐบาลคือการสร้างรายได้ให้รัฐบาลในการพัฒนารัฐวิสาหกิจให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพ ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงาน อย่างเต็มกำลังตลอดเวลาที่ผ่านมา การบริการของรัฐวิสาหกิจไทย เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของภาครัฐสู่สายตาของประชาชนและต่างประเทศรวมถึงเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไป
รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับรัฐวิสาหกิจมาโดยตลอด ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาหลายอย่างด้วยกันเดินหน้าไปสู่เศรษฐกิจสีเขียวหรือ Grow Green Balance ซึ่งโลกปัจจุบันทุกอย่างสลับซับซ้อนและมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปนำประเทศสู่ความก้าวหน้ามั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
รัฐวิสาหกิจแห่งแรก คือ ธนาคารออมสินก่อตั้งในวันที่ 1 เมษายน 2456 ที่มีอายุครบ 110 ปีในปีนี้ ต่อมา ในปี 2481 มีการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจอีก คือ โรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต เพื่อหารายได้เข้ารัฐจากที่สมัยนั้นมีการอนุญาตให้เปิดบ่อนการพนันทั่วประเทศเก็บภาษีเข้ารัฐพร้อมกับในปี 2482 ได้ตั้งการยาสูบแห่งประเทศไทย,องค์การสุรากรมสรรพสามิตและสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลขึ้นพร้อมๆ ในปีเดียวกัน
รัฐบาลได้ชี้แจงว่าการตั้งองค์การที่รัฐบาลควบคุมและเป็นเจ้าของเพื่อที่จะปรับปรุงภาวะเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคงและยกฐานะของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นแต่เป้าหมายจริงคือการหารายได้เข้ารัฐบาลนอกเหนือจากการเก็บภาษีเงินได้ตามข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในยุคนั้น อีกประการคือรัฐบาลต้องหาเงินไปจัดซื้ออาวุธป้องกันประเทศเนื่องจากโลกเริ่มมีสงครามโลกครั้งที่ 2 ในทวีปยุโรปมาตั้งแต่ปลายปี 2481
รัฐบาลเคยมีรัฐวิสาหกิจ 76 แห่ง ปัจจุบันปี 2566 เหลือ 52 แห่ง บางแห่งได้ยุบเลิกไปเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจและเอกชนทำกิจการได้ประสิทธิภาพมากกว่าหรือมีการควบรวมกันหรือแปรสภาพเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยกระทรวงการคลังกำกับดูแล 13 แห่ง คมนาคม 10 แห่ง เกษตรและสหกรณ์ 5 แห่ง มหาดไทย 5 แห่ง สำนักนายกรัฐมนตรี 3 แห่ง ที่เหลือมีกระทรวงละ 2 แห่ง ได้แก่ พลังงาน, ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, การท่องเที่ยวและกีฬา, การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกระทรวงละ 1 แห่ง คือ กลาโหม, พาณิชย์, อุตสาหกรรม และสาธารณสุข
ความสำคัญของรัฐวิสาหกิจปัจจุบันรัฐวิสาหกิจมีทรัพย์สินรวมกันถึง 5.4 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 25 ของรายได้ประชาชาติต่อปีรัฐวิสาหกิจเป็นกลไกสำคัญในการรักษาเสถียรภาพด้านการเงินการคลังของประเทศนอกจากนี้ยังนำรายได้ส่งรัฐทั้งในรูปของกำไรสุทธิให้แก่รัฐบาลถึงปีละ 60,000 ล้าน สร้างเงิน สร้างคน สร้างงานจำนวนมาก
โดยรัฐสาหกิจที่สร้างรายได้นำเงินส่งคลังจำนวนมาก อาทิ บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
รัฐวิสาหกิจนั้นเป็นหน่วยงานที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศและการสร้างรัฐสวัสดิการให้แก่ประชาชนทั้ง 66 ล้านคน บางแห่งไม่ได้เน้นหรือมุ่งแสวงหากำไรแต่รัฐบาลได้ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการให้บริการแก่ประชาชนเป็นสำคัญ เช่น การคมนาคมขนส่ง การเดินทางในราคาต่ำ การลดค่าครองชีพการทำมาหากินและการสร้างรายได้ให้ประชาชนที่มีอาชีพเป็นเกษตรกรและประมง การสื่อสาร การสาธารณสุข การบรรเทาเหตุร้ายหรือภัยธรรมชาติรวมถึงเพื่อไปพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนอีกด้วยนั่นเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี