เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ากลุ่มประเทศนาโตที่นำโดยสหรัฐได้พิจารณาเห็นว่าการจัดตั้งแกน AUKUSเพื่อรับผิดชอบภารกิจตามยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ในพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิก ที่มีเป้าหมายปฏิบัติการต่อจีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือนั้น ยังไม่สามารถที่จะรับผิดชอบต่อสถานการณ์ได้ จึงมีการประกาศจัดตั้งนาโต 2 ขึ้น
นาโต 2 ก็คือการยกฐานะแกน AUKUS ที่รับผิดชอบภาคพื้นแปซิฟิกจากที่มีสหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย แต่ก็รวมถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวันนั้นไม่เพียงพอต่อการที่จะปฏิบัติการปิดล้อมต่อต้านจีนหรือทำสงครามกับจี ซึ่งย่อมรวมถึงรัสเซียและเกาหลีเหนือและพันธมิตรด้วย
นาโต 2 จึงกำหนดให้มีฐานบัญชาการใหญ่อยู่ที่ญี่ปุ่น ซึ่งจะเชื่อมโยงกับฐานบัญชาการที่กำหนดไว้แต่เดิมคือที่สถานกงสุลใหญ่ของสหรัฐที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้ก่อสร้างในพื้นที่กว้างขวางและใหญ่โตด้วยวงเงินลงทุนร่วมหมื่นล้านบาทและมีความลึกลับซับซ้อน เพื่อใช้เป็นฐานปฏิบัติการของแกนอาเซียนตามยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก
สหรัฐมีฐานทัพและกองทหารที่รับผิดชอบในภาคพื้นนี้เฉพาะอยู่แล้ว คือกองเรือที่ 7 ร่วมกับฐานทัพที่โอกินาวาของญี่ปุ่น ที่เกาหลีใต้ ที่ฟิลิปปินส์ และที่กำลังจะก่อร่างสร้างตัวขึ้นที่ไต้หวัน รวมทั้งในบางประเทศที่กำลังจะขยับขยาย โดยมีเป้าหมายให้เป็นฐานยิงขีปนาวุธในหลายประเทศของอาเซียน
แน่นอนว่ากระบวนการชักชวนบังคับกดดันเพื่อให้ประเทศอาเซียนไปขัดแย้งและทำสงครามกับจีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือ จะขยายตัวและเพิ่มความเข้มข้นขึ้นโดยลำดับ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในปัจจุบันนี้แล้วว่ารัฐสภาสหรัฐได้ลงมติแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย ได้แสดงท่าทีต้องการพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยเพื่อเป็นฐานทัพในภาคพื้นอาเซียน เพื่อเชื่อมต่อภาคพื้นมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก
เมื่อมองลักษณะเชื่อมโยงจากสถานกงสุลสหรัฐในเชียงใหม่ และการเข้ามาอย่างหนาหูผิดตาในพื้นที่ที่เป็นฐานทัพอากาศหลายแห่ง รวมทั้งฐานทัพเรือทางด้านตะวันออก และท่าทีที่ต้องการพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยเพื่อใช้เป็นฐานทัพก็จะกลายเป็นภาพรวมที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานทางทหารของนาโต 2ที่จะเชื่อมโยงทั้งภาคพื้นมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก โดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง
และประเทศไทยนั่นแหละจะเป็นศูนย์กลางตัวจริงของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก และศูนย์กลางตัวจริงแบบนี้ก็คือเป้านิ่งที่อาจถูกตอบโต้จากศัตรูของนาโต 2 นั่นคือจีน รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ และพันธมิตรโดยเฉพาะกลุ่ม SCO เฉพาะเพื่อนบ้านก็คือเมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนามและมาเลเซีย
นี่คือชะตากรรมที่ประเทศไทยและคนไทยกำลังเผชิญหน้าและเป็นผลโดยตรงมาจากผลงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เกี่ยวข้องกับแถลงการณ์ร่วมยุทธศาสตร์ อินโด-แปซิฟิก ที่สถานทูตสหรัฐในประเทศไทยได้เปิดเผยให้ได้ทราบโดยทั่วกันแล้ว
แต่เป็นเรื่องน่าแปลก แทนที่จะเห็นความจริงเช่นว่านี้และเห็นอันตรายร้ายแรงที่เป็นเสมือนเมฆหมอกสีดำหนาทึบขึ้นทุกวันเหนือน่านฟ้าประเทศไทยแล้วร่วมกันแก้ไขป้องกันเพื่อให้บ้านเมืองของเรารอดปลอดภัย กลับใส่ร้ายป้ายสีให้เป็นความรับผิดของเด็กและเยาวชนว่าเป็นต้นตอที่ทำให้ต่างชาตินักล่าอาณานิคมเข้ามาแทรกแซงประเทศไทย
สภาพเช่นนี้ต้องถือว่าเป็นอันตรายและล่อแหลมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ และอาจจะร้ายแรงยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่ประเทศไทยเข้าร่วมกับญี่ปุ่นประกาศสงครามกับสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง
และร้ายแรงยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่ประเทศไทยเข้าร่วมกับสหรัฐทำสงครามอินโดจีนกับเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ซึ่งผลที่สุดของสงครามก็เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าสหรัฐแตกทัพยับเยิน ต้องถอนตัวออกไปจากประเทศไทยและภูมิภาคนี้
ในครั้งนั้นก็ทิ้งให้ประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับแสนยานุภาพอันยิ่งใหญ่ของเวียดนามและประเทศอินโดจีน จนหวุดหวิดจะเป็นสงครามใหญ่ที่อาจทำให้เสียบ้านเสียเมือง
โชคดีที่ผู้รับผิดชอบด้านความมั่นคงในขณะนั้นแก้ไขสถานการณ์ได้ยอดเยี่ยม คือเจรจาประสานงานกับจีนให้ช่วยเหลือในการหยุดยั้งการบุกเข้ายึดประเทศไทยของเวียดนามและประเทศอินโดจีน จึงทำให้ประเทศไทยอยู่รอดปลอดภัยมาได้ถึงทุกวันนี้
ลองทบทวนพิจารณาเปรียบเทียบกันดูว่าแสนยานุภาพของกองทัพเวียดนาม ลาว และกัมพูชาในครั้งนั้น กับแสนยานุภาพของกองทัพจีน รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ ที่ประเทศไทยเราจะถูกใช้เป็นฐานบัญชาการใหญ่ทำสงครามกับเขานั้น เมื่อเปรียบกับแสนยานุภาพของสหรัฐและนาโตในปัจจุบันแล้วจะเป็นประการใด
และถ้าวันใดสหรัฐเกิดปราชัยวิ่งหนีไปดื้อๆ เหมือนเมื่อครั้งสงครามเวียดนาม ประเทศไทยซึ่งเป็นฐานบัญชาการใหญ่ในการทำสงครามจะทำอย่างไร หรือแม้ในขณะกระทำสงครามแก่กัน ประเทศไทยจะไม่พินาศวายวอดยิ่งกว่าประเทศยูเครนดอกหรือ
และความจริงของสถานการณ์ในวันนี้ไม่มีทางที่ประเทศยุโรปที่เป็นสมาชิกของนาโตจะยกกองทัพมาช่วยสหรัฐในภูมิภาคนี้ได้ แม้อังกฤษซึ่งแสดงท่าทีกระเหี้ยนกระหือรือจะส่งกองทัพเรือเข้ามาประจำในภูมิภาคนี้ ถึงเวลาเข้าจริงแล้วจะมาได้หรือ
เพราะสถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศนาโตและสหรัฐยังติดหล่มจมปลักอยู่กับยุทธศาสตร์สงครามยืดเยื้อที่กระทำกับรัสเซียในสมรภูมิสงครามยูเครน ซึ่งลักษณะของสงครามที่นั่นก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นยุทธศาสตร์เฉพาะทางการทหารยุคใหม่ที่กำหนดขึ้นโดยประธานเหมาเจ๋อตุง ของจีน ไม่ใช่แบบแผนยุทธศาสตร์ของฝรั่งหรือประเทศยุโรปเลย
สงครามยูเครนผ่านไปปีเศษแล้ว นอกจากนาโตไม่สามารถเอาชนะรัสเซียได้ แต่ส่ออาการพินาศย่อยยับตามๆกัน และนาโตก็กำลังจะแตกสลายอยู่ในไม่ช้านี้แล้ว ย่อมไม่สามารถส่งกองทัพมาช่วยสหรัฐในภาคพื้นที่นี้ได้
ไม่เห็นหรือว่าสหรัฐและนาโตสูญเสียอำนาจในแอฟริกาทั้งทวีป และในตะวันออกกลางทั้งภูมิภาคไปแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะแก้ไขฟื้นฟูแต่อย่างใด ขนาดส่งคณะทูตไปงอนง้อซาอุดีอาระเบียก็ถูกตะเพิดหน้าแหกกลับมาอย่างหน้าตาเฉย
ดังนั้นสภาพการณ์นาโต 2 จะหนักเบาประการใดจึงขึ้นอยู่กับสถานการณ์สงครามยืดเยื้อในยูเครน และสำหรับชาวไทยก็ต้องตั้งใจอวยพรให้ยุทธศาสตร์ยืดเยื้อในสงครามยูเครนจงเจริญ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี