ต้องยอมรับว่า โฮโมซาเปี้ยนส่วนใหญ่ต่างเป็น “มนุษย์หัวแข็งที่ไม่ยอมใคร” ถึงจะตายก็ยอมพลีชีพเพื่อยืนยันว่า “ข้าคือคนหัวแข็ง”

ไม่ว่าจะเป็น “จอมทรราช จอมเผด็จการ และจอมรุกรานที่สุดดุ” ล้วนเป็น “จอมหัวแข็งที่สุดห้าว” ไม่แพ้ใคร

ในขณะเดียวกัน “รัฐบุรุษ วีรสตรี จอมกู้ชาติที่ไม่กลัวตาย จอมอุดมการณ์ที่ยอมพลีชีพ” ต่างก็เป็น “คนหัวแข็ง” ไม่แตกต่างกับจอมเผด็จการสุดห้าว

ดังนั้น โลกทั้งใบจึงไม่เคยยุติสงคราม ไม่เคยว่างเว้นการฆ่าฟัน เพราะ “คนหัวแข็งทุกฝ่าย เห็นความตายเป็นเรื่องขี้ผง”

“ชาวผิวเผือก” ที่ครองโลกมายาวนาน ไล่ล่าเมืองขึ้นไปทั่วพิภพอย่างสุดมัน เพราะชาวผิวเผือกเป็น “คนหัวแข็ง” ยิ่งกว่าใคร แถมยังสามารถผลิตอาวุธมหาประลัยที่ “ล่าสังหาร” และ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เหยื่อได้อย่างดุเดือด ดุดันและดุฉกรรจ์” อย่าง “เจ็บแสบ”

“แข็งบวกดุ” จึงทำให้ “ผิวเผือกเป็นเจ้าโลก” โดยเฉพาะ “คาวบอยชักปืนไว” ที่สถาปนาตนเองเป็น “ตำรวจโลก” ถ้าส่องกล้องไปรอบๆ พิภพแล้ว “จ๊ะเอ๋ชาติใดทำตัวเป็นเด็กดื้อที่ไม่ยอมกู”ก็จะส่งทหารหัวแข็งและอาวุธร้ายแรงเข้าไป “จัดการเด็กดื้อ” จนบ้านเมืองพังพินาศย่อยยับ

“เห็นได้จากเด็กดื้ออย่างอิรัก ลิเบีย ซีเรียและอัฟกานิสถานบ้านเมืองกลายเป็นเตาขนมครก และประชาชนต่างบ้านแตกสาแหรกขาด” มาจนถึงวันนี้

ในขณะที่ “หัวแข็งแบบกองทัพอาทิตย์อุทัย” เจอะ “เบบี้บอย”ส่งนิวเคลียร์ไปถล่ม 2 ลูกเท่านั้น ก็กลายเป็น “คนหัวอ่อนว่านอนสอนง่ายมาจนถึงวันนี้”

ผิดกับ “จอมหัวดื้อที่ชื่อเวียดนาม” ที่ “ดื้อสุดขอบฟ้า”สู้กับคาวบอยชักปืนไวแบบ “ไม่มีใครเสียดายชีวิต” จบท้าย “ผิวเผือกหัวแข็ง” ก็พ่ายแพ้แก่ “ผิวเหลืองหัวแข็ง” อย่าง “หมดท่า” แล้ว “หนีตายออกจากเวียดนามกันจ้าละหวั่น”

วันนี้ “กาลเวลาได้เปลี่ยนสรรพสิ่ง” เป็นวันที่ “ผิวเผือกได้จ๊ะเอ๋กับเด็กดื้อมากมาย แต่ไม่กล้าส่งทหารเข้าไปลุยอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าสุ่มหกและสุ่มเจ็ด” อีกแล้ว

เห็นได้จาก “เด็กดื้ออย่างเกาหลีเหนือและอิหร่าน รวมถึงชาติต่างๆ ในตะวันออกกลาง” ที่เริ่มกลายเป็น “หมูไม่กลัวน้ำร้อน กระท้อนไม่กลัวถูกทุบ” มหาอำนาจผิวเผือกก็ทำได้แค่ “สวดชยันโตสวดกงเต๊ก และดุด่าตาชันเท่านั้น”

ส่วน “จีน” และ “รัสเซีย” นั้น ไม่ใช่ “เด็กดื้อ” แต่เป็น “ผู้ท้าชิงแชมป์ขาใหญ่” ต่างหาก ที่วันนี้ “ผิวเผือกหัวแข็ง” ได้แต่ “ด่าสาปแช่ง” ไปวันๆ โดยไม่กล้า “ท้าดวล” กับ “คนหัวแข็ง” รุ่น XXL ไซส์เดียวกันจ้า

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม