ตลอดระยะเวลากว่าสองสัปดาห์ที่ผ่านมาการเมืองมีความเคลื่อนไหวตื่นเต้นน่าจับตามองอีกครั้ง หลังจากสภานั่นคือวาระที่ “พิธาคิโอทิม, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” นัดแกนนำ 8 พรรคร่วมรัฐบาลมาหารือกันในแนวทางความร่วมมือในการจัดตั้งรัฐบาล และเรื่องข้อขัดแย้งบุคลากรที่จะถูกเสนอให้ดำรงตำแหน่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ซึ่งจะเป็นประธานรัฐสภา ซึ่งจะเป็นประธานรัฐสภา ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันใน “มาตรา 80 วรรคหนึ่ง”
ข้อขัดแย้งในเรื่องของผลประโยชน์ที่ต้องการเป็นประมุขใน 3 อำนาจอธิปไตย ที่อ้างด้วย “ฉันทามติ” ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เป็นแค่เสียงสำรอกหลอกลวง “อุปกรณ์การเกษตร/ด้อมส้ม” ที่พร้อมจะถูกลากจูงลงถนนชนกับฝ่ายตรงข้าม
ภาพที่เกิดขึ้นที่ที่ทำการพรรคก้าวไกลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในวาระนัดประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาลของพรรคก้าวไกล จึงมีการแสดงออกของ “อุปกรณ์การเกษตร/ด้อมส้ม” จำนวนหนึ่ง พร้อมกระดาษเอ 4 ที่มีข้อความว่า “อย่าเสียสัตย์เพื่อชาติ...อย่าฝืนฉันทามติประชาชน” ฯลฯ
ข้อความ “อย่าเสียสัตย์เพื่อชาติ” ทำให้ นึกถึงบุคคลสองคนในทางการเมือง ชื่อหนึ่งเป็นเหตุให้เกิดวีรชนจากเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ 2535” ที่มีรายงานของกระทรวงมหาดไทยระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 44 ราย บาดเจ็บรวม 1,728 ราย (สาหัส 47 ราย) และสูญหายอีก 48 รายเกิดวาทกรรมการเมือง “พาคนไปตาย”
กำเนิด “สถานีโทรทัศน์ไอทีวี สถานีทีวีเสรี และเป็นอดีตสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินที่ออกอากาศในระบบยูเอชเอฟ ก่อตั้งโดย บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)” องค์กรแสลงใจนักการเมืองบางคน ที่พยายามยัดเยียดข้อหา“นิตินิยาย” ฟื้นธุรกิจสื่อสารมวลชนเพื่อปัดแข้งขาเป็นขวากหนามพฤติกรรมตะเกียกตะกายไปสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรี
สองเหตุการณ์นี้มาจากวาทกรรม “เสียสัตย์เพื่อชาติ” หลังเลือกตั้งปี 2531 “ป๋าเปรม ติณสูลานนท์” ยุติบทบาททางการเมือง หลังเป็นนายกรัฐมนตรีนาน 8 ปี สร้างคุณูปการให้เศรษฐกิจไทยโชติช่วงชัชวาลอย่างมากมาย ก่อนส่งไม้ต่อ “พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา 3 ปีถัดมาท่ามกลางกระแสทุจริตคอร์รัปชั่น “บุฟเฟ่ต์คาร์บิเนต” กองทัพจึงปฏิวัติยึดอำนาจ และจัดการเลือกตั้ง ได้ “พ่อเลี้ยงณรงค์ วงศ์วรรณ”เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หลัง “พรรคสามัคคีธรรม” ชนะการเลือกตั้ง แต่ด้วยปัญหาส่วนตัวบางเรื่อง เฉกเช่นกรณี “พิธาคิโอ และ พรรคก้าวไกล” ทำให้ “พ่อเลี้ยงณรงค์วงศ์วรรณ” กลายเป็นคนหลงทางตะกายไม่ถึงดวงดาว
“บิ๊กสุ-พลเอกสุจินดา คราประยูร” ซึ่งเป็น 1 ใน 5 แกนนำคณะรัฐประหาร รสช.จึงยอมตระบัดสัตย์ที่ให้แก่ประชาคมก่อนหน้านี้ ยอมรับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ด้วยกระแส “ประชาธิปไตย” ที่ต้องการนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง จึงเกิดกระแสต่อต้านชุมนุมประท้วง ก่อนเกิดเหตุการณ์ปราบปรามฝูงชน เป็นเหตุให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตาย
เกิดวาทกรรม “เสียสัตย์เพื่อชาติ” ซึ่งมาวันนี้กงล้อประวัติศาสตร์การเมืองเคลื่อนกลับมาสู่ “วาทกรรม-เสียสัตย์เพื่อชาติ” อีกครั้งหาก “พรรคเพื่อไทย”จะนำพาสังคมไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง ชำระล้างปฏิกูลสังคมไทยก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่สมควร
“พรรคก้าวไกล”ไม่ใช่/ไม่ได้รับ “ฉันทามติ” เป็นเสียงข้างมากในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
เมื่อพิธาและก้าวไกลสะดุดขาล้มด้วยปัญหาที่สร้างเอง ก้าวข้ามความขัดแย้งไม่ได้
ความชอบธรรมจึงน่าจะเกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย สมควร “เสียสัตย์เพื่อชาติ” มิใช่หรือ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี