ภาพข่าวนายทักษิณ ชินวัตร จำเลยคดีม.112 ที่ปรึกษาประธานอาเซียน เดินทางไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อปาฐกถาพิเศษ “ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” โดยมีบรรดารัฐมนตรีหลายกระทรวง ข้าราชการระดับปลัดกระทรวง อธิบดี ร่วมเข้าฟังกันมากมาย นับเป็นภาพสะท้อนสังคมการเมืองไทยในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
มาถึงจุดนี้ก็ไม่ต้องเหนียมอายกันอีกแล้ว สำหรับข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า ประเทศไทยขณะนี้ มีนายกรัฐมนตรี 2 คน คนหนึ่งมีหน้าที่ออกงาน และแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีด้วยการอ่านไอแพด กับอีกคนหนึ่งคือคนที่มีอำนาจที่แท้จริง คนกำหนดและตัดสินใจ ทิศทางของรัฐบาลนั่นคือนายทักษิณ ชินวัตร บิดาของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นั่นเอง
เพราะสิ่งที่ นายทักษิณ ชินวัตร ไปพูดที่สำนักงาน ป.ป.ส. ไม่ใช่แค่ไปแสดงวิสัยทัศน์หรือเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติดแต่มันคือการสั่งข้อราชการ ให้กับหน่วยงานต่างๆรับไปปฏิบัติมากกว่า
ไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงเรื่อง ที่อาจจะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กรณีที่บอกว่า แหล่งผลิตยาเสพติดอยู่ที่เขตอิทธิพลของว้าแดง ในประเทศเมียนมา โดยระบุว่า
“ถึงเวลาที่เราจะต้องขอความร่วมมืออย่างจริงจังกับประเทศเพื่อนบ้าน แหล่งผลิตถ้าเมียนมาบอกว่าจัดการไม่ได้ เพราะเป็นชนกลุ่มน้อย เราคงต้องขอจัดการเองมั้ง เพราะมันเป็นศัตรูของเรา มันอยู่ในพื้นที่ไหน ถ้าเขาจัดการไม่ได้ เราต้องขออนุญาต
วิธีจัดการของเราก็มีวิธี ที่สากลรับได้ และต้องจัดการเรื่องแหล่งผลิต คิดว่าอีกไม่กี่เดือน 1 - 2 เดือนนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องไปพบปะกับเพื่อนบ้านทั้งหมด เพื่อผนึกกำลังกัน ให้ว้าแดงเลิกผลิตยาเสพติด ถ้าคุณยังผลิต คุณคือศัตรูของประเทศไทย เราไม่ควรมีความปรานีกับศัตรู นี่เป็นสิ่งที่ตนคิดว่ารัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนต้องเกิดขึ้น”
นอกจากนั้น นายทักษิณ ยังก้าวก่ายไปในเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณ โดยเสนอว่าให้แบ่งงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท ให้เอามาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งที่งบประมาณส่วนนี้ ครม.มีวัตถุประสงค์ชัดเจน คือการนำไปลงทุนในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการต่างๆ เพื่อรับมือกับผลกระทบจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
แต่ก็นั่นแหละ อย่าไปคิดว่า การโยกงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ไปใช้ในการปราบปรามยาเสพติดซึ่งถือเป็นการใช้งบประมาณที่ผิดวัตถุประสงค์ จะไม่เกิดขึ้นเป็นอันขาด เพราะที่ผ่านมาหลายๆ เรื่องที่ทักษิณคิด แล้วรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยก็ขานรับนำมาปฏิบัติอย่างมิเขินอาย เช่น การแจกเงินหมื่นที่ผ่านมา
คำถามสำคัญ ที่คนไทยต้องคิดกันจริงจังก็คือเราจะอยู่กันอย่างนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน กับบ้านเมืองที่คนหนึ่งเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ออกมาสั่งโน่น เสนอนั่น ให้หน่วยงานต่างๆ ทำตาม
ผู้บริหารกระทรวง กรม กองต่างๆ ก็พากันขานรับด้วยความนอบน้อมพร้อมใจ ทั้งที่ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลยในการบริหาราชการแผ่นดิน
แต่นายกรัฐมนตรีตัวจริงที่มีอำนาจตามกฎหมาย กลับไร้ความสามารถ ไร้วุฒิภาวะ ไร้ความเป็นผู้นำ ทำได้แค่เป็นหุ่นเชิดให้พ่อ สั่งราชการแทน ตัวเองก็แค่ไปออกงาน ประชุม สัมมนา อีเว้นท์ เท่านั้น
เราจะอยู่กันแบบนี้กันไปอีกนานแค่ไหน!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี