วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ประธานรัฐสภานัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา
วาระสำคัญ คือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560
ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้หลบหนีโทษจำคุกคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ประกาศจะกลับ10 สิงหาคม 2566
ช่วงนี้ มีปมการเมืองที่น่าสนใจ ลองถอดสมการ และวิเคราะห์เกมการจัดตั้งรัฐบาล ดังนี้
1. ด้อมส้มที่ถูกปั่นหัวมาแบบผิดๆ ว่าพิธาต้องได้เป็นนายกฯ ยังไม่สามารถยอมรับความจริงได้
พยายามโจมตี สว. พรรคเพื่อไทย และแซะประชาชนที่เคยออกมาร่วมชุมนุมกับ กปปส. พันธมิตร รวมไปถึงประชาชนที่พวกเขาเรียกว่าเป็น “สลิ่ม”
ด้วยการสร้างวาทกรรมทำนองว่า ไม่ต่อต้านทักษิณแล้วหรือ ไม่ติดใจโกงจำนำข้าวแล้วหรือ เปลี่ยนมาเป็นสาวกพรรคเพื่อไทยกันหมดแล้วหรือ???
นี่คือ วาทกรรมแกล้งโง่ หรือไม่ก็อาจโง่จริงๆ
หรืออาจมองว่าคนอื่นโง่ จึงจะปั่นหัวด้วยความคิดตื้นเขิน เบาปัญญาแบบนี้
2. สลิ่มไม่ได้เปลี่ยนมาชอบพรรคเพื่อไทยเลย เพียงแค่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
เมื่อพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ ก็ถึงคราวพรรคอันดับสอง ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย
ตรงกันข้าม กลับสะท้อนว่าด้อมส้มพรรคก้าวไกลต่างหาก ที่ไม่เคารพกติกามารยาทอะไรเลย เอาแต่ใจตัวเอง จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ เสนอชื่อพิธาให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาแล้วไม่ผ่าน ก็ยังดิ้นรน ใช้วิธีการหน้าด้าน จะเกาะพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต่อไป และขวางไม่ให้จัดตั้งรัฐบาลที่ไม่มีพวกตน ยื้อเวลาไป 10 เดือน
ทั้งๆ ที่ พรรคอื่นๆ และ สว.เขาจะไม่ลงคะแนนให้เพราะพฤติกรรมต่อสถาบันของพวกตนเอง
3. สลิ่ม กปปส. พันธมิตรฯ ไม่ได้เปลี่ยนมาเชียร์ทักษิณเลย
ที่ผ่านมา คนเหล่านี้ไม่เคยไล่ทักษิณไปต่างประเทศมีแต่ไล่ออกจากอำนาจรัฐ เข้าสู่การดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม
ตอนทักษิณกลับมากราบแผ่นดินยุครัฐบาลสมัครก็ไม่มีใครไปต่อต้าน
ทักษิณเป็นฝ่ายหนีคดีออกนอกประเทศไปเอง
ประชาชนเหล่านี้ มีแต่เรียกร้องให้ทักษิณกลับมาเข้าคุก
มีแต่ด้อมส้มและพรรคก้าวไกลนั่นต่างหาก ที่บางวันก็เชียร์ทักษิณ บางวันก็ด่าทักษิณ
เพราะเอาความคิดและผลประโยชน์ของตนเองเป็นศูนย์กลาง พอใครไม่ทำตามก็โจมตีเขาไปทั่ว
4. สลิ่มไม่ได้ลืมโกงจำนำข้าวเลยแม้แต่น้อย ช่อง Top News ก็ยังติดตามอยู่ตลอด
แต่ความจริง พรรคเพื่อไทยยุคนี้ ไม่มีนโยบายจำนำข้าวแบบเดิม ถ้ามีเดี๋ยวก็โดนอีกแน่ๆ
ตรงกันข้าม กลับเป็นด้อมส้มและพรรคก้าวไกลเอง ที่เคยแซะสลิ่มว่าให้ก้าวข้ามจำนำข้าว ไม่เชื่อว่าจำนำข้าวมีการโกง
มาถึงตรงนี้ แสดงว่าจริงๆ ก็ยอมรับว่าจำนำข้าวมันมีการโกงวินาศสันตะโร ยืนยันว่าที่ กปปส. และสลิ่มพูดไว้นั้น ถูกต้อง
5. ตรรกะแบบแกล้งโง่ ยังมีอีกหลายกรณี อาทิ “ไม่เห็นมีช่องไอทีวีให้ดู”
ทั้งๆ ที่ ในคดีถือครองหุ้นกิจการสื่อ แนวทางศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาพิจารณาชี้ชัดว่า “ยังประกอบกิจการสื่อ” ไม่จำเป็นว่ายังพิมพ์นิตยสารอยู่ หรือออกอากาศวิทยุโทรทัศน์อยู่
ถ้าจดแจ้งทำสื่อ เคยทำสื่อ เคยมีรายได้จากการทำสื่อ แม้หยุดพิมพ์หนังสือหรือหยุดออกอากาศวิทยุแต่ยังไม่จดแจ้งเลิกทำสื่อ ยังไม่จดแจ้งเลิกกิจการ ก็ถือว่าเป็นกิจการสื่ออยู่นั่นเอง
เพราะฉะนั้น คนปั่นวาทกรรมนี้ เป็นไปได้สองอย่าง คือ โง่จริงๆ กับ ไม่โง่ แต่เจตนาจะช่วยเหลือพิธา ด้วยการพยายามทำให้สังคมสับสน
6. ทักษิณยังจะกลับบ้านอยู่หรือไม่ คงต้องเห็นทักษิณลงเครื่องบินถูกควบคุมตัว จึงจะเชื่อว่าจะกลับจริง
ทักษิณต้องการอะไร?
ทักษิณต้องการกลับบ้าน แบบปลอดภัย เข้าสู่ระบบกฎหมาย หวังติดคุกไม่นาน และให้พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายรัฐบาลเพื่อความมั่นใจ
ถ้าเขาจะกลับมาเข้าคุกปกติ เขาคงกลับมานานแล้ว
ในมือทักษิณถืออะไรอยู่บ้าง? ประธานสภา และ สส. ราวๆ 150 กว่าๆ (รวมในพรรค+นอกพรรค)
ย่อมจะต้องรู้ว่าตัวเองมีอะไร ขาดอะไร ใครจะให้สิ่งใดได้แค่ไหน
แน่นอนว่า ถ้าการตั้งรัฐบาลไม่บรรลุผลลัพธ์ที่ทำให้ทักษิณมั่นใจในความต้องการข้างต้น ทักษิณย่อมจะไม่กลับมา
7. คุณหญิงแม่ กลัวลูกสาวจะติดคุก ไม่ให้เป็น นายกฯช่วงนี้ (สมควรกลัว)
ใครจะเป็นนายกฯ ในสถานการณ์การเมืองแบบนี้ ต้องรัดกุมมาก และต้องมีประสบการณ์
8. จากท่าทีและจุดยืนทางการเมืองของแต่ละฝ่าย เชื่อว่าจะไม่มีก้าวไกลร่วมรัฐบาลแน่นอน
เพราะแต้มบอด กอดไว้จะไม่มีแต้ม สส. และ สว. มาเพิ่มเลย
ถ้ายังดึงดันเสนอชื่อนายกฯ โดยมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลด้วย ก็จะไม่ผ่านแน่นอน
เสนอชื่อไหนไป ชื่อนั้นก็จะตกน้ำ
9. พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และอื่นๆ มีโอกาสร่วมรัฐบาลได้แน่นอน หากรัฐบาลไม่มีก้าวไกล
จากท่าทีของกองเชียร์เพื่อไทยที่ไปแสดงออกหน้าที่ทำการพรรคอย่างต่อเนื่อง คือ สนับสนุนเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ยกเลิกเอ็มโอยูกับ 8 พรรคเดิม และที่สำคัญ ยังไม่คัดค้านหากจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติด้วยซ้ำ
กองเชียร์ที่ไปแสดงออก น่าจะสะท้อนความต้องการของผู้มีอำนาจของพรรคเพื่อไทยเอง
10. แม้ใครในพรรคเพื่อไทยพยายามแสดงออกว่าไม่อยากจับมือกับ 2 พรรคลุง คือ พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ
แต่นั่นคือการฝืนความเป็นจริง เพราะถ้ายังจับมือก้าวไกลอยู่ ก็ไม่มีทางตั้งรัฐบาลได้ พลเอกประยุทธ์ก็ทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ
ถ้าจะรอ 10 เดือน จน สว.หมดหน้าที่ร่วมเลือกนายกฯ ก็จะเกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
ถ้าจะเสนอชื่อนายเศรษฐาแบบไม่มีพรรค 2 ลุง โดยแสร้งให้พรรคก้าวไกลไม่ร่วมรัฐบาล เพียงแต่โหวตนายกฯให้พรรคเพื่อไทย และดึงภูมิใจไทยเข้าร่วม ก็จะไม่ต้องพึ่งเสียง สว.
เกมนี้ คงหลอกล่อให้ภูมิใจไทยร่วมไม่สำเร็จเพราะหลังจากได้เป็นนายกฯแล้ว นายกฯเพื่อไทยก็สามารถปรับ ครม. เขี่ยภูมิใจไทยออกไป แล้วดึงก้าวไกลเข้าร่วมได้ทุกเมื่อ เพราะ สว.ไม่สามารถจะมีบทบาทอะไรได้อีกแล้ว
11. ช่วงหาเสียง นายเศรษฐาเคยตอบคำถามสื่อมวลชนว่า “แก้ 112 แต่ไม่เลิก”
น่าสงสัยว่า สว.จะไว้วางใจ โหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ หรือไม่?
ในเมื่อพื้นฐานจุดยืนแนวคิดของผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯเป็นเช่นนี้ แม้ในภายหลังจะบอกว่ารัฐบาลใหม่จะไม่มีเรื่องแก้มาตรา 112 ก็ตาม
อย่าลืมว่า ตอนเสนอชื่อนายพิธา เรื่องแก้มาตรา 112 ก็ไม่อยู่ในเอ็มโอยู 8 พรรค แต่เพราะจุดยืน แนวคิดของนายพิธาและพรรคก้าวไกลนั่นเองที่ทำให้ สว.ส่วนใหญ่ไม่ลงคะแนนให้ เพราะเห็นว่าเป็นแนวคิดที่จะนำบ้านเมืองไปสู่ความแตกแยกเสียหาย กระทบต่อสถาบันหลักของชาติ
12. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าพรรคอันดับสองอย่างเพื่อไทยตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ ก็จะถึงคิวพรรคอันดับสาม
พรรคอันดับสาม ก็คือพรรคภูมิใจไทย
ถ้าถึงมือพรรคภูมิใจไทยจัดตั้งรัฐบาลจริง ก็คงต้องดึงพรรคเพื่อไทยร่วมรัฐบาลด้วยแน่นอน เพราะต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
และเมื่อร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ (ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ เพื่อไทย) ก็ตั้งต้นด้วยจำนวน สส. เกินกึ่งหนึ่งแล้ว
นอกจากนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา และอื่นๆ ก็ยังสามารถร่วมรัฐบาลได้อีก
ที่สำคัญ จะได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจาก สว.เพียงพอแน่นอน
แต่เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยนั่นเองที่จะแก้ไขเอ็มโอยู เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ คงไม่ปล่อยไปถึงพรรคอันดับสามให้เสียโอกาส
13. หากมีการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ โดยมีพรรคเพื่อไทยร่วมกับพรรครัฐบาลปัจจุบัน ส่วนพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน
จะมีม็อบต่อต้านหรือไม่?
เชื่อว่ามี แต่คงจุดไม่ติด ตราบใดที่รัฐบาลใหม่ยังไม่มีการทุจริตประพฤติมิชอบร้ายแรงระดับโกงจำนำข้าว
คนเสื้อแดง ไม่ร่วมม็อบส้ม
กปปส. ไม่ร่วมม็อบส้ม
สลิ่ม ไม่ร่วมม็อบส้ม
ยิ่งพฤติกรรมของด้อมส้ม แสดงออกหยาบคาย ไร้เหตุผล ยกพวกไปบูลลี่ ด่าทอคนที่คิดต่างจากพวกตน โดยไม่เคารพกติกา ยิ่งจะไม่มีใครเอา
การบังคับใช้กฎหมายภายใต้รัฐบาลใหม่ คงจะเข้มข้นกว่ายุคที่ผ่านมา ไม่มีหน่อมแน้ม จับได้จับ ยึดได้ยึด
ยิ่งกว่านั้น คดีแกนนำสามนิ้วเดิมก็เริ่มมีคำพิพากษาออกมาเรื่อยๆ แม้ใครจะหนีไปบวชก็คงไม่รอดคุก
จะทยอยเข้าคุกกันยาวๆ เป็นไปตามกรรม
ท่อน้ำเลี้ยง หรือแรงสนับสนุนจากมหาอำนาจบางชาติ ก็คงไม่เต็มที่ เพราะเขาต้องเจรจากับรัฐบาลใหม่ เพื่อรอมชอมผลประโยชน์ระหว่างประเทศ สุดท้ายแกนนำม็อบก็จะถูกทิ้ง เหมือนแกนนำม็อบฮ่องกงที่ทยอยเข้าไปอยู่ในคุกนั่นเอง
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี