ช่วงนี้ พรรคเพื่อไทยพยายามขายฝันเต็มเหนี่ยว
เพื่อกลบกระแสโจมตีการตระบัดสัตย์ของตนเอง จับมือข้ามขั้วการเมือง
คุยโวว่า ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะแจกเงินหมื่นเข้าดิจิทัลวอลเลต จะปรับปรุงโครงการบัตรทอง จะไม่มีทุจริต จะปราบยาเสพติด ฯลฯ
1. ก่อนหน้านี้ พรรคก้าวไกล หาเสียงด้วยแพ็กเกจนโยบายสวัสดิการตามช่วงวัยต่างๆ
อาทิ เด็กแรกเกิดได้ 1,200 บาทต่อเดือน เงินขวัญถุงแรกเกิด 3,000 บาท เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ค่าแรงขั้นต่ำ450 บาทต่อวันขึ้นทันทีทั่วประเทศและขึ้นทุกปี สูงวัย 3,000 บาทต่อเดือน ฯลฯ
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ศิริกัญญา ยอมรับว่า สวัสดิการต่างๆ อาจจะไม่ได้หน้าตาเหมือนแพ็กเกจที่หาเสียง หากไม่สามารถหาเงินได้ตามแผน 6.5 แสนล้านบาท เพราะเป็นรัฐบาลผสม
ส่วนค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทต่อวัน ก็อาจจะยืดไทม์ไลน์เพราะต้องเจรจากับผู้เกี่ยวข้อง
เงินคนชรา 3,000 บาท ก็จะได้ปี 2570
เรียนฟรีปริญญาตรี ก็ออกมาปัดกันให้วุ่นว่าไม่ได้หาเสียงไว้ เพราะไม่สามารถจัดงบให้ทันในสมัยนี้ (ทั้งๆที่ หาเสียงไว้ชัดเจนมีหลักฐานบันทึกคลิปวีดีโอ) ฯลฯ
2. นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แคนดิเตดนายกฯ
โดนชูวิทย์ถลกหนัง ก็ออกมาป่าวร้องว่า ตนเองทำธุรกิจสุจริต มีธรรมาภิบาล ถ้าโกงบริษัทจะบริหารบริษัทจนทำกำไรมากเป็นประวัติการณ์ได้อย่างไร
ฮ่า ฮ่า ฮ่า …นี่นายเศรษฐายอมรับแล้วว่า เศรษฐกิจไม่ได้วิกฤต ไม่ได้อยู่บนหลุมดำ เพราะบริษัทของนายเศรษฐาและอีกมากมายในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ล้วนทำกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงปีที่ผ่านมา
ไม่เหมือนที่ไปปั่นกระแส สร้างวาทกรรมเอาไว้นี่นา
3. ฟันธงไว้เลยว่า พรรคเพื่อไทยไม่สามารถที่จะทำตามนโยบายหาเสียงที่จะแจกเงินหมื่นบาท เข้าดิจิทัลวอลเลต รวม 5.6 แสนล้านบาท โดยไม่ต้องกู้เงินเพิ่ม (ตามที่แจ้งไว้กับ กกต.)
เพราะดูตามข้อเท็จจริงแห่งงบประมาณแผ่นดินปี’67 จำนวน 3.35 ล้านล้านบาทแล้ว ไม่เหลือช่องทางการเงินการคลังให้รัฐบาลใช้เงิน 5.6 แสนล้านบาทมาแจกจ่ายได้อย่างแน่นอน
ถ้าจะทำ ก็จะต้องกู้เพิ่ม (ซึ่งจะกระทบวินัยการเงินการคลังอย่างแน่นอน)
4. เพื่อไทยคุยโว “คิดใหญ่ ทำเป็น” ถ้าลองกลับไปย้อนรอยดูกันแบบเจาะลึกจริงๆ
พรรคเพื่อไทย เคยปล่อยให้มีนโยบายที่ทุจริตระบายข้าวจีทูจีอย่างอุกอาจอย่างไร เคยมีการดำเนินนโยบายทำลายล้างวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างใหญ่หลวงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างไรบ้าง
กรณีร่างกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญ นั่นก็เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าเป็นการทำลายวินัยการการเงินการคลังแผ่นดินอย่างร้ายแรง
กรณี พ.ร.ก.กู้เงินโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน ทำโครงการขัดรัฐธรรมนูญ บางโครงการยังไม่มีผลศึกษาสิ่งแวดล้อม ผลศึกษาความคุ้มค่าโครงการเลย ไม่มีราคากลางตามกฎหมายปกติ เพียงแต่ตั้งกรอบงบเอาไว้ เค-วอเตอร์มาประมูลได้ราคาปริ่มๆ กรอบวงเงิน
นักการเมือง รัฐมนตรี สังกัดพรรคเพื่อไทย เดินเข้าคุก คดีทุจริตประพฤติมิชอบกี่คนแล้ว?
ยังหนีคดีอยู่ก็หลายคน
“คิดใหญ่ ทำเป็น” ต่างกับ “คิดใหญ่ ทำโกง”
แม้แต่คนในครอบครัวที่รอดคดีฟอกเงิน ก็เพราะอัยการไม่อุทธรณ์แบบขัดสายตาวิญญูชน
ธรณีสงฆ์อัลไพน์ ก็ยังถือครองอยู่ในมือบริษัทของตระกูลครอบครัวชินวัตร
คดีภาษีขายหุ้นชินฯ ลูกไม่ต้องจ่าย อ้างว่าถือแทนพ่อ แต่พอไปเก็บจากพ่อ ก็โยนกลับไปว่าไม่ได้อยู่ในชื่อพ่อ
ฯลฯ
5. ในทางตรงกันข้าม โครงการขนาดใหญ่ที่รัฐบาลลุงตู่ดำเนินการไว้ หากรัฐบาลใหม่ไม่ดำเนินการต่อ
ช่วงที่ผ่านมา หลายโครงการค่อยๆ ทยอยผลิดอกออกผล
ระยะหลัง เห็นข่าวนายกฯเดินทางไปติดตามความคืบหน้าโครงการ เพื่อส่งมอบโครงการให้รัฐบาลชุดต่อไป ไม่ว่าจะเป็น อีอีซี รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงความร่วมมือไทย-จีน เขตเศรษฐกิจพิเศษตามภูมิภาคต่างๆ การเดินหน้าแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยโครงการเศรษฐกิจต่างๆ ฯลฯ
หลายโครงการอยู่ระหว่างการเริ่มต้น และสามารถต่อยอดจากผลงานรัฐบาลปัจจุบันต่อไปอีก อาทิ แลนด์บริดจ์มูลค่าล้านล้าน (ใช้เงินลงทุนเอกชน), การลงทุนค้าขายความร่วมมือไทย-ซาอุฯ ที่รัฐบาลลุงตู่ฟื้นสัมพันธ์กลับมาได้, การลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ที่ต่างชาติเริ่มเข้ามาลงทุนก่อสร้างโรงงานในไทยจำนวนมาก ฯลฯ
ถ้ารัฐบาลใหม่จะไม่สานต่อโครงการเหล่านี้ เพียงเพราะเหตุผลทางการเมือง ประเทศชาติจะเสียโอกาสมหาศาล
และจะเกิดความเสียหายร้ายแรงตามมา เกินกว่าจะคาดคิด
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี