วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันศุกร์ ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
นโยบายที่ควร ‘ไปต่อ’ (จบ) ในมุมมอง TDRI

ดูทั้งหมด

  •  

อีกราวหนึ่งสัปดาห์ คงจะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา


เมื่อวานนี้ ได้นำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจจาก รายงาน “การประเมินผลงานของรัฐบาลประยุทธ์ 2 และข้อเสนอแนะทางนโยบายต่อรัฐบาลใหม่” โดยทีดีอาร์ไอ

ทั้งเรื่องการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล อาทิ “พร้อมเพย์”แอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม”  “เป๋าตัง” ฯลฯ

ได้เห็นผลงานของรัฐบาลลุงตู่ไปพร้อมกัน และได้เห็นว่าโครงการเหล่านี้ ควรได้รับการสานต่ออย่างไร

วันนี้ เพิ่มเติมว่า ในมุมมองทีดีอาร์ไอ ยังมีโครงการอะไรที่รัฐบาลประยุทธ์ทำไว้ แล้วควรสานต่อ ?

การพัฒนาภาคเกษตร

โครงการที่รัฐบาลประยุทธ์ให้ความสำคัญมากที่สุด คือ การช่วยเหลือเกษตรกร  6 โครงการ ได้แก่ โครงการประกันรายได้เกษตรกรที่ปลูกพืช 5 ชนิด (ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยางพารา และปาล์ม) และสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการทำนา ซึ่งใช้เงินงบประมาณรวม 158,626 ล้านบาทในปี 2565-2566 (สูงกว่างบประมาณกระทรวงเกษตรฯ 111,185 ล้านบาท)

จุดแข็งของโครงการดังกล่าวคือ เกษตรกรที่ลงทะเบียนได้รับเงินอุดหนุนโดยตรงเข้าบัญชีที่ธ.ก.ส. ทำให้มีการรั่วไหลน้อย และน่าจะมีทุจริตน้อยกว่าโครงการจำนำข้าวทุกเม็ด เนื่องจากรัฐไม่ได้เข้าแทรกแซงการค้าสินค้าเกษตร นอกจากนี้ เมื่อราคาตลาดสูงกว่าราคาประกัน รัฐก็ไม่ต้องจ่ายเงินช่วยเหลือในโครงการประกันรายได้

ทีดีอาร์ไอเห็นว่า รัฐบาลใหม่ควรให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นต่อการยกผลิตภาพของภาคเกษตร ซึ่งเป็นแนวทางเดียวในการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน โดยการนำเทคโนโลยีที่ช่วยลดแรงงาน เพิ่มผลผลิตและลดการใช้น้ำและทรัพยากรต่างๆ ให้เกิดผลสำเร็จจริง โดยวิเคราะห์จุดอ่อนของโครงการต่างๆ ที่ดำเนินมาและแก้ไขจุดอ่อนเหล่านั้น แทนการริเริ่มโครงการใหม่โดยไม่ได้ถอดบทเรียนที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ การให้การอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐบาลควรใช้เงินงบประมาณอย่างโปร่งใส หลีกเลี่ยงการใช้เงินนอกงบประมาณ และกำหนดเงื่อนไขความช่วยเหลือของภาครัฐให้เกษตรกรต้องปรับปรุงผลิตภาพในการผลิต ใช้น้ำชลประทานอย่างประหยัด ลดการใช้สารเคมีและการเผาเศษวัสดุการเกษตรในไร่นา

การปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน

รัฐบาลประยุทธ์ได้สนับสนุนให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดสรรเงินทุนเพิ่มเติมแก่นักเรียนกลุ่มยากจนพิเศษ 3,000 บาทต่อคนต่อปี เพื่อลดการออกกลางคันของนักเรียนกลุ่มดังกล่าว  นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถกู้เงินเพื่อเรียนรู้ทักษะในสาขาวิชาที่ขาดแคลน และยกระดับทักษะของตนผ่านหลักสูตรระยะสั้นได้  

ทีดีอาร์ไอมองว่า รัฐบาลใหม่ควรดำเนินการ ดังต่อไปนี้

ประการที่หนึ่ง เร่งปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานให้อิงกับสมรรถนะโดยเร็ว โดยอาจขยายผลการทดลองนำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและถอดบทเรียนเพื่อนำไปใช้ทั่วประเทศ

ประการที่สอง ปรับระบบการบริหารทรัพยากรด้านการศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กที่ชัดเจน

ประการที่สาม ประกาศนโยบายป้องกันการละเมิดสิทธิเสรีภาพของนักเรียนและไม่ยอมรับความรุนแรงในสถานศึกษา ตลอดจนวางกลไกป้องกันการฝ่าฝืนเช่น จัดระบบรับเรื่องร้องเรียน

ประการที่สี่ ปรับปรุงการบริหาร กยศ. ให้มีความยั่งยืนทางการเงินมากขึ้น เช่น ใช้มาตรการสะกิดพฤติกรรม (behavioral nudge) ให้ผู้กู้เงินชำระเงินคืนโดยเร็ว เป็นต้น

การคุ้มครองทางสังคม

รัฐบาลประยุทธ์ ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ประสบปัญหาจากการระบาดของโควิด-19 โดยสามารถลดผลกระทบทางลบต่อประชาชนจำนวนมากได้

ดังเห็นได้จากสัดส่วนคนจนร้อยละ 6.8 ในปี 2563 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.3 ในปี 2562 ไม่มากนัก ทั้งที่เศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้การจ้างงานและรายได้ของประชาชนลดลงอย่างมาก โดยรัฐบาลใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการส่งความช่วยเหลือและกระจายเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพกว่าในอดีต

รัฐบาลประยุทธ์เน้นแนวคิดในการให้สวัสดิการแบบเจาะจงเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้มีรายได้น้อยและคนจน กลุ่มเกษตรกร แรงงานนอกระบบบางกลุ่ม (คล้ายกับการเน้นแนวทางแก้ปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้า)

โดยใช้เครื่องมือหลักคือ “โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” รวมทั้งการไม่ขยายโครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ซึ่งริเริ่มในรัฐบาลประยุทธ์ 1 ให้เป็นสวัสดิการแบบถ้วนหน้า

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาพื้นฐานของการให้สวัสดิการแบบเจาะจง คือ การตกหล่นคนจน (exclusion errors) ซึ่งมีสูงถึงร้อยละ 51% ในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และร้อยละ 30 ในโครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ทั้งที่ประสบการณ์ทั่วโลกชี้ให้เห็นว่านโยบายแบบเจาะจงจะมีปัญหาการตกหล่นคนจนในสัดส่วนสูงเกือบทั้งหมด

รัฐบาลใหม่ควรดำเนินการดังต่อไปนี้

ประการแรก ควรจัดสวัสดิการที่ผสมผสานอย่างเหมาะสมระหว่างสวัสดิการเฉพาะกลุ่มและสวัสดิการถ้วนหน้า โดยสวัสดิการที่สำคัญต่อการดูแลประชาชนและสามารถพัฒนาคนในอนาคตควรเป็นสวัสดิการถ้วนหน้า เพราะประเทศไม่สามารถแบกรับค่าเสียโอกาส (opportunity cost) จากปัญหาการตกหล่นที่เรื้อรัง เช่น การพัฒนาเด็กปฐมวัย การเพิ่มศักยภาพของแรงงานนอกระบบ และการดูแลผู้ป่วยติดเตียง ส่วนสวัสดิการที่สำคัญน้อยกว่าอาจสามารถช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มได้เพื่อประหยัดงบประมาณ หรือใช้ทั้งสองแนวทางร่วมกันในบางสวัสดิการ ดังข้อเสนอล่าสุดของธนาคารโลกที่ให้เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็น 2,000 บาทเฉพาะผู้สูงอายุที่จนที่สุดร้อยละ 20 แล้วปรับลดลงตามระดับรายได้ที่สูงขึ้น โดยทุกคนยังได้เบี้ยยังชีพนี้อย่างถ้วนหน้าแต่ได้ไม่เท่ากันขึ้นกับฐานะทางเศรษฐกิจ

ประการสอง รัฐบาลใหม่ควรเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ปัญหาความยากจนและให้สวัสดิการแบบมุ่งเป้า โดยอาจเรียนรู้แนวทางของประเทศจีนที่ใช้ฐานข้อมูลคนจนหรือผู้สมควรได้รับสวัสดิการระดับพื้นที่ที่ถูกต้องตามหลักสถิติ ซึ่งแม่นยำกว่าการใช้แนวทางให้คนจนมาแจ้งว่าตัวเองจน โดยใช้ข้อมูลชุดนี้ในการจัดสรรงบประมาณกระจายตามพื้นที่ (เช่นระดับจังหวัด ระดับอำเภอหรือตำบล) แล้วใช้กลไกรัฐบาลท้องถิ่นหรือชุมชนในการกระจายงบประมาณไปสู่คนจนหรือผู้สมควรได้รับสวัสดิการต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจากการให้คนจนมาจดทะเบียนซึ่งมีความคลาดเคลื่อนมากจากปัญหา “คนจนไม่จด คนจดไม่จน” ทั้งนี้รัฐบาลอาจพัฒนา “แผนที่ความยากจน” ต่อยอดจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเคยจัดทำมาเพื่อเป็นฐานข้อมูลในการกระจายงบประมาณดังที่กล่าวข้างต้น

ประการสาม รัฐบาลใหม่ควรหลีกเลี่ยงนโยบายที่อาจก่อให้เกิดผลเสียระยะยาวต่อระบบความคุ้มครองทางสังคม เช่น นโยบาย “ขอเลือก ขอคืน และขอกู้” ของรัฐบาลประยุทธ์ 2 ที่ให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมสามารถนำเงินกรณีชราภาพออกมาใช้ก่อนบางส่วน ซึ่งผิดหลักการประกันสังคมและจะทำให้ประชาชนสูงอายุไม่มีเงินบำนาญเพียงพอในอนาคต

นโยบายด้านสุขภาพ

ในยุครัฐบาลประยุทธ์ สปสช. ได้เพิ่มบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และให้ผู้ป่วยบางโรคสามารถไปรับยาที่ร้านขายยา และเพิ่มทางเลือกในการใช้เครื่องล้างไตทางช่องท้องอัตโนมัติ (APD) ที่บ้าน

นอกจากนี้ รัฐบาลยังคงสนับสนุนนโยบาย medical hub ให้โรงพยาบาลเอกชนรับคนไข้ต่างชาติเข้ามารักษาในประเทศไทย

นโยบายกัญชา ที่เริ่มจากการใช้กัญชาทางการแพทย์ทั่วประเทศในปี 2562 และนำไปสู่การเปิดเสรีกัญชาเมื่อกลางปี 2565

ทีดีอาร์ไอ มองว่า รัฐบาลใหม่ควรทบทวนนโยบายกัญชา โดยสร้างกลไกควบคุมที่รัดกุมและโปร่งใส เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเป็นอันตรายต่อเยาวชน สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุและผู้ขับขี่ยานพาหนะ ไม่ให้ได้รับกัญชาจากอาหารโดยไม่รู้ตัว 

ควรลดการส่งเสริมการนำเข้าผู้ป่วยจากต่างประเทศให้มารักษาพยาบาลในประเทศไทย หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาภาระงานของบุคลากรด้านสุขภาพในภาครัฐให้ลุล่วงไปได้

ข้างต้นนี้ เป็นแค่บางส่วนในรายงานของทีดีอาร์ไอ

ทีดีอาร์ไอ ระบุว่า “ตลอดระยะเวลา 4 ปี รัฐบาลประยุทธ์ 2 ได้สร้างผลงานที่สำเร็จออกมาเป็นรูปธรรมไว้หลายด้าน และดำเนินโครงการจำนวนหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งสมควรได้รับการสานต่อ

ในทางกลับกัน รัฐบาลก็ดำเนินนโยบายอีกหลายด้านที่ไม่ประสบความสำเร็จ หรือแม้กระทั่งก่อให้เกิดปัญหา ...นโยบายเหล่านี้สมควรได้รับการทบทวนและปรับปรุงให้ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งยกเลิกไปโดยรัฐบาลใหม่”

หลังจากนี้ จับตาดูการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ จะสานต่องานดีๆ

หรือจะเล่นการเมืองแบบเก่าๆ ประเภท “จังหวัดไหนเลือกเรา เราจะไปทำให้ก่อน”

หรือแม้แต่ทุจริตเชิงนโยบาย เหมือนรัฐบาลระบอบทักษิณในอดีต หรือไม่?

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:01 น. ‘ยิปซีพยากรณ์’ดวงรายวัน วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568
13:50 น. ‘สว.ตัวตึง’โวยงบช่วยเหลือภัยสงคราม 100 ล้าน มีแต่‘หนังสือสั่งการ’ไร้ตัวเงิน ‘อบจ.’ใกล้ถังแตก
13:42 น. ตร.เชียงรายดักรวบ! ‘คู่หูไทย-ลาว’ ขนเฮโรอีน60กิโลกรัม-คารถทัวร์มุ่งหน้าเข้ากรุง
13:40 น. ‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’
13:32 น. ‘พล.อ.ณัฐพล’รับเงื่อนไขกัมพูชา ให้‘สหรัฐ-จีน’ส่งผู้สังเกตการณ์ประชุมจีบีซีเฉพาะ 7 ส.ค.
ดูทั้งหมด
สลด! ดับ 6 ศพ รวมมือปืน เหตุกราดยิงภายใน‘ตลาด อตก.’
เด็ดปีกขุนศึกคู่ใจฮุน เซน! ‘พล.อ.สรัย ดึ๊ก’เสียชีวิตแล้ว จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
แตกกระเจิง! หน่วยรบพิเศษกัมพูชาแตกทัพ ถอดเครื่องแบบวิ่งหนีกลับประเทศ
โป๊ะแตกคาด่าน! พบรองเจ้าอาวาส ถอดจีวรเปลี่ยนชุดหล่อ นั่งรถเที่ยวสวีทสีกา
ปักธงชาติไทย'ภูมะเขือ-ช่องอานม้า-ตาเมือนธม-ตาควาย-ช่องบก' เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
ดูทั้งหมด
ทักษิณ ต้นเหตุของความวิบัติแห่งชาติ?
หมอผีออกศึก (2)
บุคคลแนวหน้า : 2 สิงหาคม 2568
กัมพูชาปรามแก๊งไซเบอร์สแกม แบบขายผ้าเอาหน้ารอด
ไทยได้เปรียบกัมพูชา : ตลกร้ายของรัฐบาลเป็ดง่อย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ยิปซีพยากรณ์’ดวงรายวัน วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568

‘สว.ตัวตึง’โวยงบช่วยเหลือภัยสงคราม 100 ล้าน มีแต่‘หนังสือสั่งการ’ไร้ตัวเงิน ‘อบจ.’ใกล้ถังแตก

เจอหลักฐานใหม่!! 'อ.ปริญญา'ชี้'ฮุนเซน-ฮุนมาเนต'ละเมิดรัฐธรรมนูญตัวเอง

‘พล.อ.ณัฐพล’รับเงื่อนไขกัมพูชา ให้‘สหรัฐ-จีน’ส่งผู้สังเกตการณ์ประชุมจีบีซีเฉพาะ 7 ส.ค.

มวลชนรวมพลังแผ่นดิน เกาะติดแกนนำปราศรัย ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ (ประมวลภาพ)

รัฐบาลจัดไว้อาลัย ปชช.ผู้บริสุทธิ์ เหตุเขมรยิงBM-21 เข้าใส่พลเมืองไทย

  • Breaking News
  • ‘ยิปซีพยากรณ์’ดวงรายวัน วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568 ‘ยิปซีพยากรณ์’ดวงรายวัน วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568
  • ‘สว.ตัวตึง’โวยงบช่วยเหลือภัยสงคราม 100 ล้าน มีแต่‘หนังสือสั่งการ’ไร้ตัวเงิน ‘อบจ.’ใกล้ถังแตก ‘สว.ตัวตึง’โวยงบช่วยเหลือภัยสงคราม 100 ล้าน มีแต่‘หนังสือสั่งการ’ไร้ตัวเงิน ‘อบจ.’ใกล้ถังแตก
  • ตร.เชียงรายดักรวบ! ‘คู่หูไทย-ลาว’ ขนเฮโรอีน60กิโลกรัม-คารถทัวร์มุ่งหน้าเข้ากรุง ตร.เชียงรายดักรวบ! ‘คู่หูไทย-ลาว’ ขนเฮโรอีน60กิโลกรัม-คารถทัวร์มุ่งหน้าเข้ากรุง
  • ‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’
  • ‘พล.อ.ณัฐพล’รับเงื่อนไขกัมพูชา ให้‘สหรัฐ-จีน’ส่งผู้สังเกตการณ์ประชุมจีบีซีเฉพาะ 7 ส.ค. ‘พล.อ.ณัฐพล’รับเงื่อนไขกัมพูชา ให้‘สหรัฐ-จีน’ส่งผู้สังเกตการณ์ประชุมจีบีซีเฉพาะ 7 ส.ค.
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ภัยคุกคามความมั่นคงอวตาร?  ไทยต้องเตรียมรับมือกับอะไร

ภัยคุกคามความมั่นคงอวตาร? ไทยต้องเตรียมรับมือกับอะไร

1 ส.ค. 2568

ลางร้ายพ่อนายกฯ  แล้วลูกจะอยู่ถ่วงประเทศไปถึงเมื่อไหร่?

ลางร้ายพ่อนายกฯ แล้วลูกจะอยู่ถ่วงประเทศไปถึงเมื่อไหร่?

31 ก.ค. 2568

จุดอ่อนของไทย  คือ ผู้นำรัฐบาลที่ไร้ภาวะผู้นำ

จุดอ่อนของไทย คือ ผู้นำรัฐบาลที่ไร้ภาวะผู้นำ

30 ก.ค. 2568

ภัยเศรษฐกิจ หนักไม่แพ้ภัยสู้รบ

ภัยเศรษฐกิจ หนักไม่แพ้ภัยสู้รบ

29 ก.ค. 2568

ฮุนเซนปลูกอคติต่อไทย  ในแบบเรียนกัมพูชา

ฮุนเซนปลูกอคติต่อไทย ในแบบเรียนกัมพูชา

28 ก.ค. 2568

ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด

ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด

25 ก.ค. 2568

‘ชินวัตร’จะไร้ตำแหน่ง หรือไร้แผ่นดิน?

‘ชินวัตร’จะไร้ตำแหน่ง หรือไร้แผ่นดิน?

24 ก.ค. 2568

มาเที่ยวปราสาท ไม่ใช่มาป่วนประสาท

มาเที่ยวปราสาท ไม่ใช่มาป่วนประสาท

23 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved