วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ยกเครื่องข้าวไทยแข่งตลาดโลก

ดูทั้งหมด

  •  

“ที่น่าอับอายมากคือผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ของข้าวไทยต่ำกว่าประเทศด้อยพัฒนา ต่ำกว่าเนปาล ต่ำกว่าปากีสถาน ต่ำกว่าเวียดนามไม่น่าแปลกใจ ต่ำกว่าเขมร ต่ำกว่าบังกลาเทศ ผมยกตัวอย่างประเทศพวกนี้ดีกว่า แล้วเขามีแนวโน้มสูงขึ้น เรามีแนวโน้มเท่าเดิม แต่ที่สำคัญก็คือชาวนาในเขตชลประทานเวลานี้หันไปใช้พันธุ์ข้าวเวียดนาม เพราะผลผลิตต่อไร่สูงกว่าพันธุ์ข้าวไทยและอายุสั้น”

รศ.ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวในการบรรยายหัวข้อ “อนาคตและนโยบายสำหรับภาคเกษตรไทยในอนาคต” ในงานประชุมเสวนาวิชาการภายใต้แผนงานคนไทย 4.0 ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถึงสถานการณ์ผลผลิตข้าวต่อไร่ของไทยต่ำกว่าหลายประเทศในทวีปเอเชีย อีกทั้งชาวนายังหันไปใช้พันธุ์ข้าวจากต่างประเทศเพราะพันธุ์ข้าวไทยก็ไม่ตอบโจทย์


“อะไรทำให้ประเทศไทยเดินมาสู่ปัญหา ณ จุดนี้?”อาจารย์นิพนธ์ ชี้สาเหตุหลายประการ ไล่ตั้งแต่ 1.งบวิจัยข้าวลดลง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานที่รับผิดชอบถูกลดงบส่วนนี้จาก 300 ล้านบาท เหลือเพียง 120 ล้านบาท2.มีศูนย์วิจัยข้าวมากเกินความจำเป็น ปัจจุบันมีถึง 28 ศูนย์ ทั้งที่ไทยไม่ใช่ประเทศที่กว้างใหญ่ขนาดที่ทำให้สภาพแวดล้อมของแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกันอย่างมาก

3.การให้ทุนวิจัยเพียงสาขาเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับในอดีตที่มูลนิธิ Rockefeller เข้ามาสนับสนุนการวิจัยข้าวโพดพันธุ์สุวรรณ มีการสนับสนุนทีมวิจัยหลายด้าน เช่น การปรับปรุงสายพันธุ์ โรคพืช ดิน และมีแม้กระทั่งทีมวิจัยในเชิงเศรษฐศาสตร์ 4.เชื้อพันธุกรรม (Germplasm) ของไทยแคบ เนื่องจากระเบียบการนำเข้าเมล็ดพันธุ์เข้มงวดเกินไปจนไม่มีนักวิจัยของอนุญาตนำเข้ามาเพื่อทำวิจัย อีกทั้งยังห้ามส่งออก 5.งานวิจัยและรับรองพันธุ์ข้าวอยู่ในหน่วยงานเดียวกัน เกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน

6.ขาดแคลนนักปรับปรุงพันธุ์ข้าวรุ่นใหม่ที่มีความสามารถสูง รวมถึงขาดทีมวิจัยสาขาอื่นร่วมงานซึ่งเกิดขึ้นกับทั้งในศูนย์ของหน่วยงานรัฐและของมหาวิทยาลัย 7.การผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีไม่เพียงพอ มีความต้องการสูงถึงปีละ 1 ล้านตัน แต่หน่วยงานที่ทำหน้าที่ผลิตอยู่ปัจจุบันผลิตได้เพียง 9 หมื่นตัน และ 8.การให้ใบรับรองข้าวหอมมะลิส่งออกเพียง 2 พันธุ์ (กข.15 และหอมมะลิ 105) ด้วยความคิดว่า 2 พันธุ์นี้ดีที่สุด ในขณะที่ข้าวชนิดอื่น เช่น Basmati และ Koshihikari ที่มีหลายพันธุ์ เมื่อไปผสมกับข้าวพันธุ์อื่นๆ อาจตอบโจทย์ผู้บริโภคก็ได้

ส่วน “ทางออก” นั้น ประกอบด้วย 1.เพิ่มการลงทุนวิจัยขนานใหญ่และให้ทุนการศึกษาด้านปรับปรุงพันธุ์ รวมถึงลงทุนด้านเทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีดิจิทัลเกษตร พร้อมอุปกรณ์-เครื่องมือวิจัยสมัยใหม่ ในอดีตไทยเคยลงทุนวิจัยด้านการเกษตรถึงร้อยละ 25 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ในภาคเกษตร แต่ปัจจุบันเหลือเพียงร้อยละ 15 เท่านั้น 2.ปรับโครงสร้างองค์กรวิจัย 2 ด้านคือ 2.1 ยุบรวมศูนย์วิจัยให้มีจำนวนที่เหมาะสม 2.2 เปลี่ยนฐานะกองวิจัยข้าวให้เป็นองค์กรอิสระ โดยย้ายกลุ่มวิจัยและพัฒนาของกรมวิชาการมารวมกัน

3.ปรับปรุงกฎระเบียบให้คล่องตัว (Streamlining Regulations) คือ 3.1 ปรับลดกฎระเบียบการนำเข้าพันธุ์ เพื่อขยายฐานพันธุกรรม (Germplasm) และอนุญาตการส่งออกพันธุ์ กับ 3.2 ปรับปรุงระเบียบการรับรองพันธุ์ และแยกหน่วยงานวิจัยออกจากหน่วยงานรับรองพันธุ์ 4.ให้มหาวิทยาลัย/ศูนย์วิจัยใช้พื้นที่สถานีวิจัยของกรมการข้าว/กรมวิชาการในการทดลอง โดยคิดค่าใช้จ่ายในอัตราอุดหนุน

“เป้าหมายและกระบวนการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์ข้าว 2 เป้าหมายใหญ่ 1.ตอบโจทย์ชาวนาและผู้บริโภค(Demand-Driven Research) เราพูดกันตลอดเวลา 2.เปลี่ยนโครงสร้างที่มันยากกว่านั้น คือต้องเปลี่ยนโครงสร้างระบบเกษตรอาหารให้ตอบโจทย์ HERS (Health-สุขภาพ , Equity-เป็นธรรม , Resilience-ยืดหยุ่น, Sustainable-ยั่งยืน) จึงต้องมีกระบวนการปฏิรูป ตั้งโจทย์แบบมีส่วนร่วมจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ รวมถึงใช้วิธีการอนาคตศึกษา (Strategic Foresight) ในการตั้งโจทย์ ไม่ใช่ประชุมในห้องใหญ่แล้วก็ถามความเห็นแล้วก็ไปตั้งโจทย์

กำหนดแนวทางในการจัดหาทุนและสร้างกองทุนวิจัยด้านเกษตร เปลี่ยนระบบบริหารและให้ทุนการปรับปรุงพันธุ์ข้าว โดยเฉพาะกรณีการวิจัยปรับปรุงพันธุ์ข้าวที่เป็นโครงการสำคัญระดับประเทศ อันนี้ต้องเป็นการให้ทุนทีมวิจัยจากหลายสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง วิจัยกันเป็นทีมผมให้ดูตัวอย่าง อินเดีย ที่ปรับปรุงข้าวอายุสั้น ดูตัวอย่างที่ตอบโจทย์ของเกษตรกรอย่างไร เขาต้องมีทีมวิจัยหลายทีม แล้วบอกว่าอายุสั้นลงไปเท่าไรเมื่อเทียบกับพันธุ์ Pusa44 กี่วัน ใช้น้ำชลประทาน ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช แรงงานลดลงไปเท่าไร สุดท้ายกำไรเกษตรกรเพิ่มเท่าไร” อาจารย์นิพนธ์ ระบุ

จากเรื่องงานวิจัยสู่ประเด็น “ชาวนาไทย” ซึ่งพบว่า“ชาวนารายเล็กมีชีวิตที่ยากลำบาก” ชาวนารายเล็กในเขตชลประทานมีที่ดินเฉลี่ย 20 ไร่ ทำนาปีละ 2 ครั้ง รายได้เฉลี่ย 1.2 แสนบาท/ปี ค่อนข้างต่ำและไม่พอเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งรายได้ไม่แน่นอนทำให้มีภาระหนี้สินสูงและต้องออกไปหางานอื่นทำนอกพื้นที่ ทั้งนี้ เมื่อใช้เทคนิคการคาดการณ์อนาคตเชิงยุทธศาสตร์ รวมถึงการสัมมนากลุ่มของผู้เกี่ยวข้อง จะพบ “ฉากทัศน์” ว่าด้วยอนาคตของชาวนา ได้แก่

“สถานการณ์ในปัจจุบัน” มี 2 ฉากทัศน์ คือ 1.ชาวนามือถือพึ่งเงินอุดหนุน รัฐบาลต้องใช้งบประมาณราว 1 แสนล้านบาท/ปี อุดหนุนชาวนา รูปแบบการทำนาคือ ต่างคนต่างทำ จ้างคนอื่นทำ 2.วิสาหกิจชาวนาแบบเศรษฐกิจพอเพียง มีการรวมกลุ่มของเกษตรกรหรือตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน เน้นข้าวมาตรฐานสูง (Global GAP, ข้าวอินทรีย์) ทำการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวแต่ขนาดยังไม่ใหญ่มาก เน้นจำหน่ายในตลาดท้องถิ่นหรือภายในประเทศ

กับ “ภาพฝันแห่งอนาคต” มี 2 ฉากทัศน์ คือ 1.ชาวนาไฮเทครายใหญ่ หาก 20 ไร่ มีรายได้ 1.2 แสนบาท/ปี ดังนั้น 200 ไร่ รายได้จะเพิ่มเป็น 1.2 ล้านบาท/ปีแต่รายได้จะเพิ่มนั้นต้องเน้นการใช้เทคโนโลยี เช่น การปรับปรุงคุณภาพตามความต้องการของตลาด 2.พันธมิตรผลิตภัณฑ์ข้าวหลากชนิด ชาวนารายเล็กรวมกลุ่มจัดการฟาร์มและพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีการจับมือกับภาคเอกชนในการแสวงหาตลาดแบบกลุ่มเฉพาะ (Niche)

“ผู้เข้าร่วมสัมมนาส่วนใหญ่ไม่อยากเป็นชาวนาไฮเทครายใหญ่ ไม่ชอบ! ชอบให้คล้ายๆ ว่ายังเล็กอยู่แต่รวมกลุ่มแล้วมีผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด อันนี้ คือ ฉากทัศน์ที่คนไทยส่วนใหญ่ยัง Small is Beautiful (ความเล็กนั้นสวยงาม) อันนี้เป็นระบบคุณค่าของคนไทย เราคิดอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตาม คนพวกนี้เป็น Professional Farmer (เกษตรกรมืออาชีพ) แล้วนะแต่ต้องมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย โอ้โห! ถ้าคุณจะทำผลิตภัณฑ์หลากหลาย สายงานวิจัยสำคัญมากเลย” อาจารย์นิพนธ์ กล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:50 น. ‘จตุพร’ชี้เลือกตั้งแข่งกันสับปลับ ขุด 3 ปัจจัยซัดกันน่วม ‘ปชน.-พท.-ภท.’ชิงตั้งรบ.กลับกลอก
09:26 น. ทองพุ่งไม่หยุด! เปิดตลาดบวก 250 บาท รูปพรรณแตะ 66,900 รับคริสต์มาส
09:19 น. แคลิฟอร์เนียอ่วม! ฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน คร่าชีวิตแล้ว 3 ราย
09:14 น. ‘ม.112’นิทานหลอกลวงประชาชนของ‘อนุทิน’หรือ‘พรรคส้ม’กันแน่?
08:59 น. 'บิ๊กป้อม'เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่ ลั่น!อายุ 80 ปี พอแล้ว
ดูทั้งหมด
ศาลสั่งระงับจดทะเบียนตั้ง 9 กรรมการใหม่การบินไทย
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 21-27 ธ.ค.68
ชาวเน็ตแห่เดา! เขตต์ ฐานทัพ โพสต์ปริศนาขออโหสิกรรมถึงคนที่คุณรู้ว่าใคร
ขอโอกาส! ‘ศิริภา’อาสาลงชิงสส.พญาไท-ดินแดง ลั่นจะแก้ทุกปัญหา-สู้เพื่อชาติไปด้วยกัน
'สมเด็จพระราชินี'ทรงทำการฝึกบิน เส้นทางดอนเมือง-แม่ฮ่องสอน ด้วยเครื่องบินพระที่นั่ง
ดูทั้งหมด
ชำระเบี้ยประกัน ไม่ให้ถูกโกง
แกล้งตาย?
เทส้ม เพราะพฤติกรรมของส้มเอง
บุคคลแนวหน้า : 26 ธันวาคม 2568
การเมืองของความลับ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘จตุพร’ชี้เลือกตั้งแข่งกันสับปลับ ขุด 3 ปัจจัยซัดกันน่วม ‘ปชน.-พท.-ภท.’ชิงตั้งรบ.กลับกลอก

ทองพุ่งไม่หยุด! เปิดตลาดบวก 250 บาท รูปพรรณแตะ 66,900 รับคริสต์มาส

แคลิฟอร์เนียอ่วม! ฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน คร่าชีวิตแล้ว 3 ราย

'ต๊อด ปิติ'กลัวความปลอดภัย ถอดนาฬิกา18ล้าน สลับใส่Casio หลังเพจดังเปิดวาร์ปราคา

ปีแห่งการ'โกงเป็นเครือข่าย' เปิด 10 ข่าวคอร์รัปชันแห่งปี 2568

สร้างขวัญกำลังใจ! 'อภิสิทธิ์'นำผู้สมัคร สส.กทม.ไหว้สักการะศาลหลักเมือง

  • Breaking News
  • ‘จตุพร’ชี้เลือกตั้งแข่งกันสับปลับ ขุด 3 ปัจจัยซัดกันน่วม ‘ปชน.-พท.-ภท.’ชิงตั้งรบ.กลับกลอก ‘จตุพร’ชี้เลือกตั้งแข่งกันสับปลับ ขุด 3 ปัจจัยซัดกันน่วม ‘ปชน.-พท.-ภท.’ชิงตั้งรบ.กลับกลอก
  • ทองพุ่งไม่หยุด! เปิดตลาดบวก 250 บาท รูปพรรณแตะ 66,900 รับคริสต์มาส ทองพุ่งไม่หยุด! เปิดตลาดบวก 250 บาท รูปพรรณแตะ 66,900 รับคริสต์มาส
  • แคลิฟอร์เนียอ่วม! ฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน คร่าชีวิตแล้ว 3 ราย แคลิฟอร์เนียอ่วม! ฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน คร่าชีวิตแล้ว 3 ราย
  • ‘ม.112’นิทานหลอกลวงประชาชนของ‘อนุทิน’หรือ‘พรรคส้ม’กันแน่? ‘ม.112’นิทานหลอกลวงประชาชนของ‘อนุทิน’หรือ‘พรรคส้ม’กันแน่?
  • \'บิ๊กป้อม\'เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่ ลั่น!อายุ 80 ปี พอแล้ว 'บิ๊กป้อม'เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ อวยพรปีใหม่ ลั่น!อายุ 80 ปี พอแล้ว
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อว.ชู ‘วิจัยติดดิน กินได้’  ทำโคราชเป็น ‘ศูนย์กลางนวัตกรรม’

อว.ชู ‘วิจัยติดดิน กินได้’ ทำโคราชเป็น ‘ศูนย์กลางนวัตกรรม’

19 ธ.ค. 2568

อว.เร่งนำงานวิจัยสู้ภัยพิบัติ-เยียวยาประชาชน  ชง ‘คืนค่าเทอม-เลื่อนสอบ’ บรรเทาผลกระทบ

อว.เร่งนำงานวิจัยสู้ภัยพิบัติ-เยียวยาประชาชน ชง ‘คืนค่าเทอม-เลื่อนสอบ’ บรรเทาผลกระทบ

12 ธ.ค. 2568

​สปสช. จับมือ ไปรษณีย์-ธ.กรุงไทย ส่งเวชภัณฑ์ ‘ฟอกไต’ ช่วยผู้ป่วยพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้

​สปสช. จับมือ ไปรษณีย์-ธ.กรุงไทย ส่งเวชภัณฑ์ ‘ฟอกไต’ ช่วยผู้ป่วยพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้

6 ธ.ค. 2568

ดันเสน่ห์อาหารไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ มอบตรา ‘Thai SELECT’ 202 ร้านค้าทั่วประเทศ

ดันเสน่ห์อาหารไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ มอบตรา ‘Thai SELECT’ 202 ร้านค้าทั่วประเทศ

29 พ.ย. 2568

วว.โชว์ ‘ตาลเดี่ยวโมเดล’ ขับเคลื่อนเมืองสระบุรีคาร์บอนต่ำ

วว.โชว์ ‘ตาลเดี่ยวโมเดล’ ขับเคลื่อนเมืองสระบุรีคาร์บอนต่ำ

22 พ.ย. 2568

พลิกเกมป้องกันภัยไซเบอร์ในยุค AI เสริมเกราะความไว้วางใจ สู่การป้องกันเชิงรุก

พลิกเกมป้องกันภัยไซเบอร์ในยุค AI เสริมเกราะความไว้วางใจ สู่การป้องกันเชิงรุก

15 พ.ย. 2568

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

8 พ.ย. 2568

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

1 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved