วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บ้านเกิดเมืองนอน
บ้านเกิดเมืองนอน

บ้านเกิดเมืองนอน

สิริอัญญา
วันอังคาร ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ว่าด้วยเรื่องของเงินดิจิทัล

ดูทั้งหมด

  •  

พรรคเพื่อไทยหาเสียงเรื่องการแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท ก็ถูกคนบางพวกคัดค้านโต้แย้งกระทั่งระบุเหตุผลสารพัดว่าทำไม่ได้ หรือถ้าทำได้ก็จะเกิดความเสียหายมากมาย และยังโวยวายกันอยู่จนกระทั่งถึงวันนี้ ในขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไรกันแน่

เป็นที่น่าสังเกตว่าหัวหอกในการโต้แย้งเรื่องนี้ บางคนเป็นอดีตผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย อ้างว่าจะกระทบต่อวินัยการเงินการคลัง และจะเกิดความเสียหายมากมาย บางพวกก็เป็นนักวิชาการหรือไม่ก็เป็นนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งแนวทางโต้แย้งก็เป็นไปในทางเดียวกันคือจะเกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศ


ครั้นจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว รัฐบาลก็ยืนยันที่จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดเดี่ยว และแถลงว่าจะลงมือแจกเงินดิจิทัลแก่ประชาชนคนละ 10,000 บาท โดยมีวงเงินรวมทั้งสิ้น 500,000 ล้านบาท ประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 และระหว่างนี้เป็นระหว่างการเตรียมการ โดยเฉพาะระบบที่จะแจกหรือส่งเงินดิจิทัลดังกล่าวแก่ประชาชน รวมถึงการใช้สอยทั้งระบบ

ซึ่งหมายความว่านโยบายเรื่องนี้รัฐบาลเอาจริงแน่ แต่น่าแปลกใจที่ไม่อธิบายให้เกิดความเข้าใจโดยทั่วไป ดังนั้น เมื่อเป็นอย่างนี้ก็สมควรที่จะทำความเข้าใจเรื่องนี้กันสักครั้งหนึ่ง เพื่อจะได้หายคลายกังวลและเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง กระทั่งสามารถรับเอาประโยชน์ทั้งหลายที่จะพึงเกิดขึ้นจากเรื่องนี้

ในประการแรก ก็ต้องบอกว่าวงเงินดิจิทัลที่จะแจกกันนี้มียอดรวมทั้งสิ้น 500,000 ล้านบาทและจะแจกครั้งเดียวในวงเงินคนละ 10,000 บาทดังนั้น ถ้าหากเรื่องนี้ผิดพลาดล้มเหลว อย่างมากก็จะฉิบหายมากที่สุดก็ไม่เกิน 500,000 ล้านบาท เทียบไม่ได้กับการกู้เงินมาแจกในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อหนี้สร้างสินให้แก่ชาติบ้านเมืองหลายล้านล้านบาท และยังควักล้วงเอาเงินออมของประชาชนไปสมทบใช้จ่ายอีกด้วย

ก็น่าแปลกใจว่าทำไมการกู้เงินมาแจกและด่าว่ากันตลอดมาซึ่งเกี่ยวข้องกับวงเงินหลายเท่านัก แต่พอมาถึงรัฐบาลนี้จะแจกเงินดิจิทัลแค่ 500,000 ล้านบาท กลับโวยวายยิ่งกว่าการกู้เงินมาแจกหลายล้านล้านบาท ก็ตั้งข้อสังเกตให้เห็นกันว่าอคติของคนเรานั้นบางทีก็ทำให้เกิดความมืดบอดทั้งแก่ตนเองและแก่สังคมด้วย

ประการที่สอง ขอทำความเข้าใจอย่างง่ายที่สุดว่าการออกเงินดิจิทัลครั้งนี้ก็เหมือนกับห้างสรรพสินค้าออกคูปองให้ผู้เข้าไปในห้างสรรพสินค้าคนละ 150 บาท เพื่อเอาคูปองนี้ไปจับจ่ายใช้สอยในร้านค้าต่างๆ ของห้างสรรพสินค้านั้น แล้วร้านค้าทั้งหลายที่รับเอาคูปองไว้ก็เอาเงินไปขึ้นกับห้างสรรพสินค้านั้น มันมีลักษณะเดียวกันไม่มีผิดเลย ถ้าเข้าใจตรงนี้แล้วก็จะเข้าใจเรื่องนี้ทั้งระบบ

ความแตกต่างอันมหัศจรรย์อยู่ตรงที่เงินดิจิทัลหรือถ้าจะเรียกให้เข้าใจง่ายที่สุดก็คือคูปองดิจิทัลที่จะแจกให้คนละ 10,000 บาทนั้น มันจะไม่ใช่คูปองที่จ่ายได้เพียงครั้งเดียวทอดเดียว แต่สามารถใช้สอยต่อกันไปเป็นทอดๆ ได้ไม่จำกัด จนกว่าจะถึงเวลากำหนดที่จะต้องเอาเงินดิจิทัลนั้นมาขึ้นเงินเอากับรัฐบาล

ขอให้เข้าใจอย่างนี้ก็จะเข้าใจเรื่องนี้ชัดเจนแจ่มแจ๋ว

ประการที่สาม ผู้รับเงินดิจิทัลหรือคูปองดิจิทัลสามารถใช้คูปองดิจิทัลนี้ต่อไปได้ไม่จำกัดทอด ใครมีไว้ก็เอาไปใช้จ่ายได้ในมูลค่า 10,000 บาทตามที่กำหนดไว้ และทุกทอดที่มีการใช้จ่ายไม่ว่าจ่ายเป็นค่าสินค้าหรือค่าบริการ ผลตามกฎหมายที่เกิดขึ้นโดยทุกคนไม่ได้คิดก็คือค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่รัฐบาลจัดเก็บจากผู้ขายหรือผู้ให้บริการในอัตรา 7%ดังนั้นทุก 100 บาท ที่มีการจับจ่ายใช้สอยหรือมีการซื้อบริการรัฐบาลก็เก็บรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มได้เป็นเงิน 7 บาท

ดังนั้น วงเงินคูปองดิจิทัล 500,000 ล้านบาท เมื่อจับจ่ายใช้สอยกันไปในทอดแรกรัฐบาลก็สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้จ่ายในงบประมาณได้ถึง 35,000 ล้านบาท

เมื่อมีการจับจ่ายใช้สอยเงินดิจิทัลหรือคูปองดิจิทัลนี้ในทอดต่อไป รัฐบาลก็จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเรื่อยไป เมื่อจ่ายไปถึงทอดที่สิบ รัฐบาลก็จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าคลังได้ถึง 350,000 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อมีการจ่ายเงินไปถึงทอดที่ยี่สิบ รัฐบาลก็จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ถึง 700,000 ล้านบาท มาใช้จ่ายเป็นงบประมาณได้สบายใจเฉิบ

เพราะเงินภาษีที่เก็บได้นี้มากกว่าวงเงินคูปองดิจิทัลไปแล้วถึง 200,000 ล้านบาท โดยที่รัฐบาลยังไม่ได้จ่ายเงินเลย นี่คือมายาภาพที่เป็นจริงของสิ่งที่เรียกว่าการปริวัตร ซึ่งเป็นมาตรการทางการคลังที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของรัฐบาล เป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่เรียกว่ามาตรการทางการเงินที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนั้น การจะแหยมหรือล้ำเส้นในเรื่องนี้จึงควรพิจารณาจรรยาบรรณมารยาทและความรับผิดชอบกันสักหน่อย

ประการที่สี่ เมื่อถึงเวลากำหนดที่รัฐบาลจะต้องจ่ายเงินแก่ผู้ถือเหรียญดิจิทัลคนสุดท้าย ถ้าใครคิดว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินก็อาจจะตื้นไปสักหน่อย เพราะรัฐบาลอาจออกมาตรการบางอย่างให้บุคคลอื่นเข้าซื้อเอาเงินดิจิทัลนี้ไปเก็บไว้ ยกตัวอย่างเช่น

รัฐบาลออกมาตรการว่าผู้ใดก็ตามถือเหรียญดิจิทัล 100,000 บาท สามารถใช้เหรียญดิจิทัลนี้ไปค้ำประกันผู้ต้องหาหรือจำเลยได้ 200,000 บาท หรือถ้าใครนำเหรียญดิจิทัลนี้ 100,000 บาท ไปวางเป็นประกันด้านภาษีอากรหรือคลังสินค้าทัณฑ์บนหรือหลักประกันใดๆ ที่ต้องวางกับรัฐ เช่นเงินประกันซอง หรือเงินประกันสัญญาต่างๆ ถ้าใช้เงินดิจิทัล 100,000 บาท ก็ให้ถือเป็นหลักประกันได้ 200,000 บาท เพียงเท่านี้ก็จะมีคนแห่กันไปซื้อเงินดิจิทัลมาใช้ประโยชน์จนจะไม่พอขาย

ดีไม่ดีรัฐบาลอาจจะออกเงินดิจิทัลชุดที่สองอีก 500,000 ล้านบาท หรือมากกว่านั้นก็ได้

แผ่นดินประเทศไทยในวันนี้ ถ้าเปรียบเหมือนแผ่นดินก็ขาดน้ำคือเงินที่หล่อเลี้ยงจนเหือดแห้งทั้งประเทศ ผู้คนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ผู้รับผิดชอบมาตรการทางการเงินจะทำอะไร ผู้คนก็คอยดูกันอยู่ แต่ทันทีที่เงินดิจิทัล 500,000 ล้านบาท แจกออกไปก็ดุจดังฝนแรกที่โปรยปรายลงมาให้ชุ่มฉ่ำทั้งแผ่นดินในต้นฤดูฝน

ก็คอยดูความมหัศจรรย์แห่งการปริวัตรของการใช้มาตรการทางการคลังในครั้งนี้ ดีไม่ดีเรื่องนี้อาจจะสร้างคะแนนเสียงให้กับพรรคเพื่อไทยยิ่งกว่าครั้งออกนโยบายกองทุนหมู่บ้านแล้วพวกหัวเก่าไม่เข้าใจ คัดค้านกันเกรียวกราว แล้วเป็นเหตุให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งก็ได้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:42 น. ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
13:22 น. ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
13:14 น. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
13:08 น. 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
12:24 น. ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

‘ทนายวันชัย’มองเรื่อง‘สีกากอล์ฟ’ เปรียบฆาตกามต่อเนื่อง กระชากหน้ากาก‘คนห่มเหลือง’

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

สุดทน!‘สุทิน’จี้ผู้รักษากฎหมายต้องขยับ ปล่อยให้‘สทร.’ย่ำยีประเทศไม่ได้อีกแล้ว

‘นักเขียนซีไรต์’ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด มุ่งแก้ ม.112 นิรโทษกรรมตัวเอง

  • Breaking News
  • ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
  • ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้ ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
  • รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
  • \'ตะไลชนโคม\' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน\'งานบุญวันเข้าพรรษา\' 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
  • ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

30 พ.ย. 2567

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

26 พ.ย. 2567

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

23 พ.ย. 2567

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

19 พ.ย. 2567

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

16 พ.ย. 2567

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

12 พ.ย. 2567

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

9 พ.ย. 2567

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

5 พ.ย. 2567

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved