วันอาทิตย์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันศุกร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
‘ศุภวุฒิ สายเชื้อ’ เตือนรัฐบาลเพื่อไทย แจกเงิน 5.6 แสนล้าน เดิมพันสูง เสี่ยง

ดูทั้งหมด

  •  

สถานะทางเศรษฐกิจการเงินการคลังของประเทศไทย เป็นอย่างไร?

จำเป็นต้องเดินนโยบายแบบทุ่มหมดหน้าตัก หรือไม่?


จำเป็นต้องเอาประเทศเข้าไปเสี่ยง หรือไม่?

ทำเพื่อใคร?

1. ข้อมูลตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2567-2570) สะท้อนชัดเจนว่า

1.1 สถานะและประมาณการเศรษฐกิจ

ในปี 2567 คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.2

สำหรับปี 2568 คาดว่า GDP จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.6

และขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.4 ในปี 2569-2570

1.2 สถานะและการประมาณการการคลัง

ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิปีงบประมาณ 2567-2570 เท่ากับ 2,787,000 2,899,000 2,985,000 และ 3,074,000 ล้านบาท ตามลำดับ

ประมาณการงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2567-2570 เท่ากับ 3,480,000 3,591,000 3,706,000 และ 3,825,000 ล้านบาท ตามลำดับ

จากประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิและงบประมาณรายจ่ายดังกล่าวในปีงบประมาณ 2567-2570 รัฐบาลจะขาดดุลงบประมาณจำนวน 693,000692,000 721,000 และ 751,000 ล้านบาท

หรือร้อยละ 3.63 3.43 3.40 และ 3.36 ต่อ GDP ตามลำดับ

1.3 ประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP

สำหรับปีงบประมาณ 2567-2570 เท่ากับร้อยละ 64.00 64.65 64.93และ 64.81 ตามลำดับ

ทั้งหมดนี้ คือ กรณีที่ยังไม่นับนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท เข้ากระเป๋าดิจิทัล วอลเล็ต ให้ประชาชน มูลค่าเม็ดเงินกว่า 560,000 ล้านบาท

ซึ่งจะต้องจัดหาเงินก้อนมหาศาลนี้มาจากการยืมเงินจากที่ใดที่หนึ่ง(น่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจ) แล้วรัฐบาลมีภาระตั้งงบประมาณแผ่นดินชดเชย ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันการขาดดุลงบประมาณมากขึ้น และทำให้เสียโอกาสจัดสรรเงินลงทุน ตลอดจนพัฒนาประเทศชาติในด้านต่างๆ มหาศาล

การจะทุ่มเงินกว่า 5.6 แสนล้านบาท ไปกับนโยบายดังกล่าวจึงไม่ต่างกับการทุ่มเดิมพันแบบเทหมดหน้าตัก

ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเงินการคลังและเศรษฐกิจในระยะต่อไป

ทั้งๆ ที่ ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเทหมดหน้าตักขนาดนั้น

2. ระวังหนี้ประเทศพุ่ง-จีดีพีโตไม่ยั่งยืน

ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ หนึ่งในผู้มีชื่อในโผเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีคลังของพรรคเพื่อไทยเอง ได้ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ส่งสัญญาณ
เตือนนโยบายแจกเงินหมื่นเข้าดิจิทัล วอลเล็ต 5.6 แสนล้านบาท

ระบุว่า เป็นเดิมพันสูง เป็นการกระตุ้นกำลังซื้อ-การบริโภค ไม่สร้างแรงจูงใจให้เกิดการลงทุน อาจไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตต่อเนื่อง-ยั่งยืน เสี่ยงเจอปัญหา “ขาดดุลแฝด” คือ ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและขาดดุลงบประมาณมากขึ้น

“...นโยบายแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ที่รัฐบาลบอกว่าต้องการกระตุ้นให้เศรษฐกิจพลิกฟื้นขึ้นมา

ในหลักการอาจจะพูดว่ากระตุ้นแรงมาก เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาทันที ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาเลยมากๆ อันนี้ก็ไม่ว่ากัน แต่ต้องกลับไปดูว่า
สถานการณ์ของเศรษฐกิจมหภาคเอื้ออำนวยต่อการทำนโยบายแบบนั้นหรือเปล่า

เพราะถ้าไม่เอื้ออำนวย คุณจะมีปัญหาว่าที่คาดหวังว่าจะกระตุ้นแรงๆ แต่ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนก็จะเกิดปัญหาได้

โดยทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะที่เรียกว่าเคนเซียนอีโคโนมิกส์ จะบอกว่าเป็นไปได้ที่ในระยะสั้นที่เศรษฐกิจเกิดการขาดความมั่นใจทั้งนักลงทุนและทั้งผู้บริโภค ทำให้ไม่บริโภคและไม่ลงทุน ซึ่งทำให้เกิดการว่างงานเยอะ จากการไม่กล้าลงทุน อันนั้น รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะต้องยอมขาดดุลงบประมาณและเอาเงินในอนาคตมาใช้กระตุ้นให้เกิดความมั่นใจ ให้เกิดการลงทุน เพื่อจะช่วยให้เกิดการจ้างงาน ช่วยให้มีการสร้างรายได้ และเป็นการช่วยให้มีการบริโภค แล้วก็จะมีวัฏจักรในเชิงบวก เรียกว่าตัวทวีคูณเกิดขึ้น

แต่คำถาม คือ สถานการณ์ตอนนี้ของประเทศไทย มันเหมาะสมสำหรับทำสิ่งพวกนั้นหรือเปล่า

วิธีดูอันนึงสำหรับผม คือ การไปดูดุลบัญชีเดินสะพัด ที่บอกว่าประเทศไทยส่งออกสินค้าและบริการมากกว่านำเข้าสินค้าและบริการหรือเปล่า ถ้าเกินดุลบัญชีเดินสะพัด แปลว่าส่งออกเกินการนำเข้า อันนี้จะสะท้อนว่าภายในเศรษฐกิจมีกำลังการผลิตเหลือ เราถึงส่งออกมากกว่านำเข้า

ถ้าเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ใช้กระตุ้นกำลังซื้อได้ เพราะว่ากระตุ้นไปเดี๋ยวก็จะมาผลิตในประเทศได้ หรือกระตุ้นแล้วนำเข้าสินค้าทุนเพื่อให้ฟื้นการลงทุนในประเทศ เพราะเกินดุลบัญชีเดินสะพัด มันสะท้อนว่าเศรษฐกิจเรามีรายได้เหลือ แต่ถ้าขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งแปลว่าประเทศใช้จ่ายเกินตัว แล้วยังกระตุ้น จะยิ่งทำให้ขาดดุลมากขึ้น

... ช่วงหลังต้องยอมรับว่าเราไม่ได้เกินดุลบัญชีเดินสะพัดเหมือน6-7 ปีก่อน

โดยปี 2021 ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยก็ขาดดุลกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ปี 2022 ก็ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดประมาณ 14,700 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดย 6 เดือนแรกปีนี้ เกินดุลนิดเดียว คือ 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ แล้วเดือนก.ค.ล่าสุดก็ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอีก 400 ล้านเหรียญสหรัฐ

อันนี้มีความเสี่ยง ถ้าไปกระตุ้นมากๆ จะมีปัญหา เพราะว่าในการบริโภคของคนไทยจะมีสัดส่วนของการนำเข้าถึง 50% ของจีดีพี ถ้าใส่เงินเข้าไป เป็นไปได้มากเลยว่า ถ้าเอาไปบริโภค เงินจะไหลออกไปครึ่งหนึ่งแม้กระทั่งปุ๋ยการเกษตรก็เป็นการนำเข้า 90% ถ้ากระตุ้นแบบนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น รวมถึงนโยบายที่บอกว่าจะลดภาษี ทำให้น้ำมันดีเซลราคาลดลง ก็จะทำให้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากขึ้น

ฉะนั้น ต้องกระตุ้นซัพพลาย ไม่ใช่กระตุ้นดีมานด์ เพราะการกระตุ้นดีมานด์ จะทำให้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากขึ้น แล้วก็จะทำให้เกิดขาดดุลแฝด เหมือนในยุควิกฤตต้มยำกุ้ง คือขาดดุลงบประมาณ และขาดดุลบัญชีเดินสะพัดพร้อมกัน

ส่วนใหญ่ประเทศที่ขาดสองอันพร้อมกัน ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยกเว้นประเทศที่พิมพ์เงินเองอย่างสหรัฐ ซึ่งการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจะมีข้อดีตรงที่ว่า ถ้ามั่นใจว่าขาดดุลเพราะนำเข้าสินค้าทุนมาลงทุนเพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับเศรษฐกิจ แล้วจะทำให้เศรษฐกิจในอนาคตโตมากขึ้น มีผลผลิตมากขึ้น แล้วใช้คืนหนี้ได้

เนื่องจากนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ตให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน ต้องใช้เงินก้อนใหญ่มาก คือ กว่า5 แสนล้านบาท เพิ่มความเสี่ยงเรื่องสัดส่วนหนี้สาธารณะของประเทศ โดยรัฐบาลจะต้องทำงบประมาณขาดดุลเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำเงินไปใช้ทำนโยบาย และอีกส่วนก็ต้องเป็นการหมุนเงินจากสถาบันการเงินของรัฐ โดยขยายกรอบวงเงินใช้มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง

...ถ้านโยบายนี้สำเร็จก็จะทำให้จีดีพีเติบโต มีรายได้เงินภาษีเพิ่มขึ้น แต่ถ้านโยบายไม่สำเร็จ คือไม่สามารถทำให้จีดีพีขยายตัวได้ตามคาดหวัง ก็จะทำให้รัฐบาลต้องขาดดุลงบประมาณมากขึ้น และสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีก็จะสูงขึ้น เพราะจีดีพีไม่ได้ขยายตัว

...นโยบายการแจกเงินเป็นการกระตุ้นดีมานด์ในการบริโภคของประชาชน ไม่ได้จูงใจให้เกิดการลงทุนระยะยาว เป็นการกระตุ้นระยะสั้น และโอกาสที่จะให้จีดีพีโต 5% ต่อเนื่องอย่างที่รัฐบาลต้องการยาก

นอกจากนี้ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดไม่ใช่แค่ปัญหาระยะยาว แต่ระยะสั้นจะสังเกตได้ว่าเงินบาทเริ่มอ่อน ซึ่งก็จะทำให้เงินเฟ้อเริ่มสูงขึ้นอีก แล้วพอเงินเฟ้อขึ้น ธปท.ก็จะขึ้นดอกเบี้ยอีก ก็เป็นปัญหาตามมาอีก...” - ดร.ศุภวุฒิอธิบาย

สุดท้าย... ขณะนี้ รัฐบาลเศรษฐาเองก็ยังว้าวุ่น

ยังตอบไม่ได้ว่า จะนำเงินจากไหนมาแจก 5.6 แสนล้านบาท

ถ้ายังเดินหน้าต่อ มันคือ การเอาประเทศไปวางเดิมพันแบบเทหมดหน้าตัก เพื่อใคร?

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:13 น. สภาพอากาศพรุ่งนี้! กรมอุตุฯเตือนอากาศเย็นกว่าเดิม กทม. อุณหภูมิต่ำสุดแตะ 21 องศา
22:07 น. สุดอาลัย! 'ดอม เหตระกูล'สูญเสีย'คุณแม่ปรียาพร'ผู้เป็นที่รัก โพสต์ข้อความสุดเศร้า
22:05 น. ดับเจ้าถื่น! 'บาส-เฟม'เข้าลุ้นแชมป์ขนไก่เจแปน
21:58 น. สทนช. ประชุมด่วน! วางแผนปรับลดการระบายน้ำ'เขื่อนภูมิพล' บรรเทาท่วมภาคกลาง
21:56 น. ออกบินแล้ว! 'ฮัดสัน'ลั่นพาช้างศึกสยบศรีลังกา
ดูทั้งหมด
สาวชุดหวือโชว์รอยสัก 'ของลับโผล่' ชี้แจงแล้ว 'ไม่ได้ตั้งใจ-ที่แปะหลุด-ดื่มหนัก'
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
บุกจับ2วัยรุ่นสร้างตัว เปิดเหมืองบิทคอยน์ซุก'สวนมะพร้าวบ้านแพ้ว' โกงไฟหลวงมหาศาล
'กรณ์ ณรงค์เดช'หลั่งน้ำตา! กอดคุณพ่อเกษมดีใจชนะคดี
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
ดูทั้งหมด
นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล กล้ากำจัดแก๊งฟอกเงินในไทยหรือไม่
บุคคลแนวหน้า : 16 พฤศจิกายน 2568
อายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพกับ อ.เฉก ธนะสิริ
‘ไทย-กัมพูชา’ ทีท่าที่ควรจะเป็น
ไทยเสียเหลี่ยมฮุนเซนซ้ำซาก
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สภาพอากาศพรุ่งนี้! กรมอุตุฯเตือนอากาศเย็นกว่าเดิม กทม. อุณหภูมิต่ำสุดแตะ 21 องศา

สุดอาลัย! 'ดอม เหตระกูล'สูญเสีย'คุณแม่ปรียาพร'ผู้เป็นที่รัก โพสต์ข้อความสุดเศร้า

ดับเจ้าถื่น! 'บาส-เฟม'เข้าลุ้นแชมป์ขนไก่เจแปน

สทนช. ประชุมด่วน! วางแผนปรับลดการระบายน้ำ'เขื่อนภูมิพล' บรรเทาท่วมภาคกลาง

GC จับมือ กระทรวง อว. ต่อยอด โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” สู่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สร้างเครือข่าย คนรุ่นใหม่ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำอาเซียน

ออกบินแล้ว! 'ฮัดสัน'ลั่นพาช้างศึกสยบศรีลังกา

  • Breaking News
  • สภาพอากาศพรุ่งนี้! กรมอุตุฯเตือนอากาศเย็นกว่าเดิม กทม. อุณหภูมิต่ำสุดแตะ 21 องศา สภาพอากาศพรุ่งนี้! กรมอุตุฯเตือนอากาศเย็นกว่าเดิม กทม. อุณหภูมิต่ำสุดแตะ 21 องศา
  • สุดอาลัย! \'ดอม เหตระกูล\'สูญเสีย\'คุณแม่ปรียาพร\'ผู้เป็นที่รัก โพสต์ข้อความสุดเศร้า สุดอาลัย! 'ดอม เหตระกูล'สูญเสีย'คุณแม่ปรียาพร'ผู้เป็นที่รัก โพสต์ข้อความสุดเศร้า
  • ดับเจ้าถื่น! \'บาส-เฟม\'เข้าลุ้นแชมป์ขนไก่เจแปน ดับเจ้าถื่น! 'บาส-เฟม'เข้าลุ้นแชมป์ขนไก่เจแปน
  • สทนช. ประชุมด่วน! วางแผนปรับลดการระบายน้ำ\'เขื่อนภูมิพล\' บรรเทาท่วมภาคกลาง สทนช. ประชุมด่วน! วางแผนปรับลดการระบายน้ำ'เขื่อนภูมิพล' บรรเทาท่วมภาคกลาง
  • ออกบินแล้ว! \'ฮัดสัน\'ลั่นพาช้างศึกสยบศรีลังกา ออกบินแล้ว! 'ฮัดสัน'ลั่นพาช้างศึกสยบศรีลังกา
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

คนละครึ่งพลัส สุดปัง  ฝ่ายค้าน สุดพัง

คนละครึ่งพลัส สุดปัง ฝ่ายค้าน สุดพัง

14 พ.ย. 2568

จะโกงแม้กระทั่งการติดคุก  รัฐบาลอนุทินล้อมคอกด่วน

จะโกงแม้กระทั่งการติดคุก รัฐบาลอนุทินล้อมคอกด่วน

13 พ.ย. 2568

เริ่มปฏิบัติการทางทหาร !!!

เริ่มปฏิบัติการทางทหาร !!!

12 พ.ย. 2568

ผายลมเรื่องไม่มีชายชุดดำ

ผายลมเรื่องไม่มีชายชุดดำ

11 พ.ย. 2568

ล้มประชุมอาเซียน  ตราบาปเสื้อแดงบริวารทักษิณเผาบ้านเผาเมือง

ล้มประชุมอาเซียน ตราบาปเสื้อแดงบริวารทักษิณเผาบ้านเผาเมือง

10 พ.ย. 2568

ต่ออายุให้ไทยเป็นเจ้าภาพ โมโต จีพี  คุ้มหรือไม่? พิจารณายังไง?

ต่ออายุให้ไทยเป็นเจ้าภาพ โมโต จีพี คุ้มหรือไม่? พิจารณายังไง?

7 พ.ย. 2568

เดินหมากทีละตา  ลำดับความสำคัญ

เดินหมากทีละตา ลำดับความสำคัญ

6 พ.ย. 2568

อย. = อำนาจ และผลประโยชน์  ใครตรวจสอบ อย.?

อย. = อำนาจ และผลประโยชน์ ใครตรวจสอบ อย.?

5 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved