วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เส้นใต้บรรทัด
เส้นใต้บรรทัด

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
วันอาทิตย์ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
‘กระเช้าภูกระดึง’ เพื่อใคร?

ดูทั้งหมด

  •  

ภูกระดึงได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2 ของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2505 มีเนื้อที่สองแสนกว่าไร่ลักษณะทั่วไปเป็นภูเขาหินยอดตัด ทางขึ้นสูงชันรอบด้าน

การเป็น “อุทยานแห่งชาติ” หมายความว่านี่คือพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ ภายใต้การคุ้มครองของพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ เพื่อรักษาความสมบูรณ์ดั้งเดิมของพื้นที่ป่าและสัตว์ป่า รวมทั้งเป็นแหล่งศึกษาวิจัยด้านธรรมชาติวิทยา นี่คือจุดประสงค์หลักและเป็น“กฏเหล็ก” ของพื้นที่อนุรักษ์


ต่อมากฎเหล็กนี้ก็คลายลง เพื่อให้สอดคล้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงเพิ่มจุดประสงค์ของอุทยานแห่งชาติขึ้นมาอีกหนึ่งข้อ แต่ก็เป็นเพียงจุดประสงค์รองเท่านั้น คือ เพื่อให้บริการด้านนันทนาการ ก็คือการท่องเที่ยวเพื่อทัศนศึกษาด้านธรรมชาติ โดยมีมาตรการรองรับเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และส่วนหนึ่งในมาตรการนั้นก็คือการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว จำกัดฤดูกาลท่องเที่ยว รวมทั้งจำกัดการสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ที่ไม่เป็นไปเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ

แต่สิ่งที่ไม่ใช่จุดประสงค์ของการตั้งอุทยานแห่งชาติก็คือ “การกอบโกยรายได้เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ” (เดวิด บุญทวี)

1) วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “กระเช้าขึ้นภูกระดึง?” ความว่า

ความพยายามในการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงมีมานานกว่าสามสิบปีแล้ว และวันนี้รัฐบาลได้มีความคิดจะนำเสนอขึ้นมาอีก โดยดูเหมือนว่าจะมีเสียงตอบรับจากคนทั่วไปจำนวนมาก จนดูเหมือนเสียงคัดค้านจะกลายเป็นเสียงส่วนน้อย

ก่อนคิดจะสร้างกระเช้า ลองพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไปนี้

1.ทุกวันนี้ภูกระดึงมีนักท่องเที่ยวแต่ละปีประมาณ 60,000-80,000 ต่อปี และมีการจำกัดนักท่องเที่ยววันละประมาณ 2,000 คน หากมีการสร้างกระเช้าไฟฟ้า ปริมาณนักท่องเที่ยวจะแห่ขึ้นไปอีกเท่าไหร่ มิอาจคาดการณ์ได้ แต่น่าจะเป็นหลักหลายแสนคนต่อไป

2.กระเช้าไฟฟ้าก็เหมือนถนนที่ตัดเข้าไปในป่าเมื่อมีความสะดวกมากขึ้น ปริมาณผู้คนมากขึ้นร้านค้าต่างๆ สิ่งอำนวยความสะดวกก็จะตามมาโดยเฉพาะขยะ

3.ความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว ทุกปีภูกระดึงจะปิดประมาณสี่เดือน เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูเยียวยา เพราะทุกวันนี้แค่นักท่องเที่ยวหลักหมื่น ระบบนิเวศก็ฟื้นตัวช้า ทางกรมอุทยานฯก็เคยประเมินว่าภูกระดึงก็รองรับนักท่องเที่ยวแต่ละปีได้ประมาณนี้

4.ภูกระดึงได้รับเลือกให้เป็น “มรดกแห่งอาเซียน” มีระบบนิเวศหลากหลาย เป็นพื้นที่พิเศษ มีพืชหลายชนิดที่เป็นพืชเฉพาะถิ่น ลักษณะโดดเด่นของอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพืชพันธุ์หายาก เช่น หญ้าดอกลำโพง ผักชีภูกระดึง กุหลาบขาว กุหลาบแดงเป็นต้น รวมทั้งมีสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองเช่น เลียงผา ลิ่นชวา เต่าเหลือง ค่างแว่นถิ่นเหนือชะนีมือขาว โดยอุทยานแห่งชาติภูกระดึงมีลักษณะเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด ที่มีลักษณะโดดเด่นเพียงหนึ่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน

5.อุทยานบางแห่ง พื้นที่ทางธรรมชาติหลายแห่งที่มีความบอบบางทางระบบนิเวศ ก็ต้องจำกัดนักเดินทาง เช่นเดียวกันในต่างประเทศหลายแห่ง มีการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปในภูเขาสูง เพื่อให้คนได้สัมผัสธรรมชาติแต่จะห่างไกลจากกระเช้า หากเป็นพื้นที่บอบบาง

6.อันที่จริง การเดินทางขึ้นภูกระดึง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นขนาดเป็นไปไม่ได้ แต่หากเราอยากจะไปสัมผัสความงดงามทางธรรมชาติบนภูกระดึง ก็ควรต้องฟิตร่างกายก่อนการเดินทาง ระยะทางเก้ากิโลเมตร แม้จะเหนี่อยแต่ก็เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี ผมเคยเห็นคนวัยเจ็ดสิบแปดสิบ ค่อยๆ เดินขึ้นภูกระดึงจนสำเร็จมามากแล้ว

7.ภูกระดึงอาจจะไม่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบมา ถ่ายรูป เซลฟี่ หาจุด check in แต่อาจจะเหมาะสำหรับผู้ต้องการสัมผัสธรรมชาติจริงๆ และยอมเหนื่อยกาย เพื่อจะสัมผัสสิ่งงดงามเบื้องหน้าได้

8.สุดท้ายอยู่ที่ว่า เรามองภูกระดึงแบบใด จะปฏิบัติกับแหล่งธรรมชาตินี้อย่างไร จะดูแลรักษาธรรมชาติแห่งนี้ไว้ให้ลูกหลาน หรือเป็นแค่แหล่งท่องเที่ยว
แห่งหนึ่ง เพื่อสร้างรายได้มากๆ

เรามีสิทธิ์เลือกครับ

2) บทความสั้นๆ ของ อาจารย์ศศิน เฉลิมลาภ เผยแพร่ครั้งแรก มติชนรายวัน กุมภาพันธ์ 2559 ความว่า...

กระเช้าภูกระดึง โจทย์ที่ต้องตัดสินใจของประเทศไทย 3 ข้อ

ถ้าทำกระเช้าภูกระดึง จะมีสิ่งที่อาจเป็นประโยชน์หลายประการ

ประการแรก ธุรกิจที่สัมพันธ์กับอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน อาคารพาณิชย์ ที่มีคนครอบครองอยู่รอบๆ ภูเขาภูกระดึง และเส้นทางสู่ภูกระดึงจะคึกคัก ทั้งการเพิ่มมูลค่า การหมุนเวียนของเม็ดเงินต่างๆ ในการขยายกิจการเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะมีมากขึ้น และหมุนเวียนมาเยือนเพื่อขึ้นลงกระเช้าไปที่ราบกว้างใหญ่บนยอดเขา ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้สองเท้าเดิน

ประการที่สอง ทำให้คนที่คิดว่าตัวเองขึ้นไม่ไหว ไม่มีเวลา และไม่กล้าขึ้น รวมถึงผู้มีข้อจำกัดเรื่องอายุและสภาพร่างกายมีโอกาสขึ้นไปได้ และกระเช้าไฟฟ้าอาจช่วยนำคนเจ็บป่วย บาดเจ็บ ขยะ ขนส่งข้าวปลาอาหาร เครื่องใช้ขึ้นไปได้ง่ายขึ้น นี่เป็นเหตุผลง่ายๆไม่ซับซ้อน และไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น

แต่...การสร้างกระเช้าภูกระดึง มีโจทย์ที่ไม่มีใครคิดจะตอบ 3 ข้อ 3 ระดับ

#ระดับที่ 1 ภูกระดึงเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเดินขึ้นเขาที่เป็น Trekking trail ที่ดีที่สุดของประเทศ เมื่อประเมินจากระยะทางที่ไม่ไกลมาก แทบไม่มีอันตรายอะไรถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุจากความประมาท การจัดการที่ลงตัว มีค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวไม่แพง รวมถึงเมื่อขึ้นไปแล้วมีที่สวยๆ ให้เดินเที่ยวมากมาย เรียกว่าคุ้มค่าเดินขึ้นและเดินเที่ยว

สิ่งที่ว่ามาทำให้ภูเขาลูกนี้ทำหน้าที่มอบความรักธรรมชาติ ให้เราได้ซึมซับความงามทั้งจากธรรมชาติและมิตรภาพระหว่างทาง รวมถึงการเรียนรู้ที่บังเกิดขึ้นมากมายระหว่างความอดทนตอนเดินขึ้น สถานที่แบบนี้ในไทยมีที่เดียวคือ “ภูกระดึง” ส่วนที่อื่นๆ มีถนนขึ้นถึง หรือเดินไกลเกินไป เดินไปถึงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ดูมากนัก

ดังนั้น เมื่อมีกระเช้า ความท้าทายให้ไปถึงเรื่องที่ว่ามา ย่อมสู้ความสบายเย้ายวนจากการขึ้นกระเช้าไม่ได้

คนจะเดินขึ้นก็คงมีน้อยยิ่งกว่าน้อย

พวกที่เลือกเดินจึงเป็นคนที่รักธรรมชาติมากมายอยู่แล้ว คนที่ขึ้นกระเช้าไปก็ไม่ได้ซึมซับอะไร ไม่ต่างจากการขับรถขึ้นภูเรือ ดอยอินทนนท์ หรือภูเขาอื่นๆ ที่กลับมาแล้วไม่มีความหมายอะไร ภูกระดึงทำหน้าที่นี้ให้ประเทศไทยมากว่า 50 ปี ตั้งแต่รุ่นปู่จนถึงปัจจุบัน

การมีกระเช้าหมายถึงเราเลิกใช้ฟังก์ชั่นนี้ของภูกระดึงแล้ว จะเทียบไปคงเหมือนเปลี่ยนวัด โบสถ์ วิหาร เป็นบอร์ดนิทรรศการพุทธศาสนา นี่คือเรื่องที่ผู้มีอำนาจตัดสินใจจะเลือกทิ้งคุณค่าจากสิ่งนี้ไปหรือไม่

#ระดับที่ 2 จากผลการศึกษาและการออกแบบระบบกระเช้า คาดว่ามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย (เช่นตัดต้นไม้ไม่กี่ต้น) แต่ผลที่ตามมาหลังจากมีกระเช้า ยังไม่มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เช่น เมื่อคนจำนวนมากขึ้นไปข้างบนแล้วจะต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมแน่ๆ เช่น อาคารกลางแหล่งธรรมชาติ

ที่สำคัญคือ ถนนหนทางข้างบนที่ต้องรองรับผู้มาเยือนที่ไม่เตรียมตัวไป “เดิน” และไม่พร้อมจะรับรู้ทั้งนั้นว่าทำไมไม่มีรถวิ่งไปชมที่ท่องเที่ยวที่ห่างจากสถานีกระเช้าหลายกิโลเมตรในแต่ละที่

รวมถึงการจำกัดคนค้างแรม การจัดการขยะ ต่างๆ ภายใต้สถานภาพความเป็นอุทยานแห่งชาติ ที่มีข้อจำกัดเรื่องกฎหมาย กำลังคน งบประมาณในการดูแลให้คงสภาพธรรมชาติ

เราพร้อมจะปล่อยให้ที่สวยๆ ข้างบนพังไปอีกที่ใช่หรือไม่

#ระดับที่ 3 ถ้ามีคนขึ้นไปจำนวนมาก เราพร้อมเปลี่ยนพื้นที่อนุรักษ์อันอุดมด้วยธรรมชาติไปรองรับการบริการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวข้างบนในอนาคตเลยหรือไม่ หากนโยบายวันข้างหน้าจะเอาอย่างนั้น ยกเลิกพื้นที่อุทยานแห่งชาติไปเลย นี่คือเรื่องที่ต้องตัดสินใจตามกระเช้ามาในระดับท้ายสุด

รัฐบาลนี้ต้องตอบทั้ง 3 คำถามก่อนตัดสินใจ ผมรอฟังอยู่ ก่อนตัดสินใจขึ้นกระเช้าไปทำลายภูกระดึงเดิมๆ ด้วยกัน

3) เฟซบุ๊ก “ปู จิตกร บุษบา” ระบุหัวข้อ“มีคนมาด่า ว่าผม ‘ใจแคบ’ เรื่องกระเช้าขึ้นภูกระดึง”

1. หลักคิดของเรื่องนี้ ขอให้เริ่มคิดจากข้อเท็จจริงแรกว่า ภูกระดึง เป็น “อุทยานแห่งชาติ” อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ และเป็น “มรดกทางธรรมชาติของอาเซียน” ก่อนจะเอาไปเทียบกับที่โน่นที่นี่ ให้ดูเงื่อนไขของกฎหมายที่กำกับพื้นที่กันเสียก่อน

2. อย่าเอาเรื่องผู้สูงอายุกับผู้พิการมาอ้าง เพราะการท่องเที่ยวบนภูกระดึงต้องใช้การ “เดินเท้า” มันคือการเที่ยวป่า ศึกษาธรรมชาติ ผ่านการเดิน ที่เรียกว่า trekking ควรคิดผลักดันให้ภูกระดึงเป็นอย่างที่มันเหมาะสมที่สุดที่จะเป็น คือ เป็น trekking trail ระดับโลก

3. แต่ละจุดเที่ยวชมห่างกันหลายกิโลเมตรบางจุดต้องออกเดินตั้งแต่เช้ามืด เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น บางจุดดูพระอาทิตย์ตกแล้วต้องเดินคลำทางด้วยไฟฉายกลับที่พัก จุดขึ้นขึ้นไปปุ๊บ ไม่ได้มีอะไรให้อุทานว่า #ว้าวมันคือ ป่า ป่า และป่า ซึ่งมีอีกเป็นแสนเป็นล้านที่ในประเทศไทยที่ #ทุกคนเข้าถึงได้ แถมบางที่สวยกว่าด้วย ภูกระดึง ไม่ใช่จุดชมวิวร้อยล้านแบบ “อัยเยอร์เวง” ที่เบตง อย่าเอามาเทียบกันส่งเดช

4. อัยเยอร์เวง สร้างจุดชมทะเลหมอกมานานแล้ว และพิสูจน์แล้วว่าไม่มีผลกระทบใดๆ กับธรรมชาติ ต่อมาแค่สร้างเป็นสกายวอล์ก ซึ่งดีมาก เอารถไปจอด ต่อรถท้องถิ่น (เพื่อสร้างงาน) ขึ้นไปที่สกายวอล์ก รอคิวขึ้นบันไดหรือลิฟต์ ไปที่ลานชมวิว วิวสวยมาก ไม่ว่าจะมีทะเลหมอกหรือไม่มี แต่ภูกระดึงไม่ใช่ ภูกระดึงต้อง “เดิน” ต่อไปยังจุดชมวิว ชมผา ชมทุ่ง ชมป่าสนชมน้ำตก คนไปอัยเยอร์เวงจึงได้ภาพสวยๆ ในชั่วพริบตาและกลับมาพร้อมความประทับใจ จึงต้องถามว่า ขึ้นกระเช้าไปถึงยอดภูกระดึงแล้วยังไงต่อ มีอะไรให้ประทับใจเสร็จสมอารมณ์หมายใน 1-2 ชั่วโมง โดยไม่ต้อง “เดิน” อะไรคือสิ่งรองรับผู้สูงอายุและผู้พิการที่ใช้เป็นเครื่องมือด่าผมว่าใจแคบ

5. ภูกระดึงคืออะไร เหมาะที่จะเป็นอะไร เราควรตีโจทย์ให้แตก และให้เป็นอย่างที่มันควรเป็น ไม่ใช่อย่างที่เราอยากให้เป็น เพื่อสนองความอยากของเรา

6. แค่งบออกแบบก็ขอกัน 28 ล้านบาทแล้ว งบก่อสร้างอีกเท่าไร เมื่อคนขึ้นไป แต่“ไม่ถนัดเดิน” มีอะไรให้เขาดู? เขากลับลงมาด้วย“คำเล่าลือ” ใด นานวันไป เมื่อหายอยากกันแล้ว กระเช้านั้นจะเป็นอย่างไร

7. ไม่ต้องมาบอกว่า ใครอยากเดินขึ้นภูแบบเดิมก็เดินไป ไม่ได้ห้าม ผมรู้ ผมก็ไม่ได้ห้ามสร้างกระเช้าขึ้นภูผมแค่ถามว่า เวลาอ้างเรื่องคนแก่คนพิการ จะเอาเขาขึ้นกระเช้าไปเห็นอะไร ไปภูเรือมั้ย สะดวกกว่า ไปม่อนแจ่มมั้ย สวยกว่า ไปหมู่บ้านรักไทยมั้ย สะดวกกว่าวิวบ้านจ่าโบ่ แม่ฮ่องสอนที่ขับรถไปถึงเลย เห็นเลยสวยเลย ก็มีให้ไป เคยไปกันหรือยัง ไอ้ที่ไปได้ ไปสะดวก มีอีกเยอะแยะ เราแค่อย่าจนปัญญา หรือแค่จะเอาชนะกันเรื่อยเปื่อย

8. ภูกระดึงมันเป็น “ทรัพยากร” ประเภท “ระบบนิเวศจำเพาะ” ที่ควรถนอมรักษา และใช้อย่างระมัดระวัง มีช่วงปิดการท่องเที่ยว เพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัวและไม่ได้ “ขาดแคลนนักท่องเที่ยว” นักท่องเที่ยวไปคราวละเป็นแสนๆ ในช่วงพีค เศรษฐกิจที่เกิดนั้น“ยังไม่พอ” สำหรับใคร เมื่อมีกระเช้า เศรษฐกิจใหม่ที่เกิด จะไปกองอยู่ในมือใคร

กระเช้าภูกระดึง สร้างเพื่อคะแนนเสียงของเจ๊แจ๋นกับนายเกรียง? เพื่อที่ดินใน ต.ศรีฐาน ที่ใครครอบครองอยู่?

จะสร้างก็สร้าง แค่อย่าอ้างเรื่องคนแก่คนพิการ และต้องตอบเรื่องระบบนิเวศกับเศรษฐกิจ ว่า สุดท้าย ใครได้ ใครเสีย!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:39 น. นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียก'รมว.กลาโหม -ผบ.ตร.-ปลัดมท.'สางไฟใต้
12:30 น. โลกจับตาบินรบ‘จีน’ หลังถูกใช้โดยปากีสถานสอยเครื่อง‘ฝรั่งเศส’ของอินเดียร่วง
12:29 น. 'ดิว อริสรา'เคลื่อนไหวแล้ว! โพสต์เศร้าถึง'คุณพ่อวิชิต' คนในวงการส่งกำลังใจแน่น
12:27 น. 'บิว'นำทัพ!กรีฑาลุยศึกใหญ่‘WorldRelay’ล่าตั๋วชิงแชมป์โลก
12:08 น. 'ทักษิณ'หมดทางแล้ว! 'เสรีพิสุทธ์' ชี้ยัดคุกได้เลย
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 4-10 พ.ค.68
'แก้ว อภิรดี'ควงลูกสาวเปิดสถานะหัวใจ เผยเตรียมสละโสดก่อนอายุ 35
ดูทั้งหมด
อวสาน‘ทักษิณ’คุกรออยู่
ความต่างของ สิงคโปร์ กับ ไทย
คุกนรก (1)
นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียก'รมว.กลาโหม -ผบ.ตร.-ปลัดมท.'สางไฟใต้

โลกจับตาบินรบ‘จีน’ หลังถูกใช้โดยปากีสถานสอยเครื่อง‘ฝรั่งเศส’ของอินเดียร่วง

'ดิว อริสรา'เคลื่อนไหวแล้ว! โพสต์เศร้าถึง'คุณพ่อวิชิต' คนในวงการส่งกำลังใจแน่น

'บิว'นำทัพ!กรีฑาลุยศึกใหญ่‘WorldRelay’ล่าตั๋วชิงแชมป์โลก

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

'สว.จิระศักดิ์-สว.วุฒิชาติ'ปิดบ้านเงียบ! กกต.-ดีเอสไอ แปะหมายเรียกหน้าบ้าน

  • Breaking News
  • นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียก\'รมว.กลาโหม -ผบ.ตร.-ปลัดมท.\'สางไฟใต้ นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียก'รมว.กลาโหม -ผบ.ตร.-ปลัดมท.'สางไฟใต้
  • โลกจับตาบินรบ‘จีน’ หลังถูกใช้โดยปากีสถานสอยเครื่อง‘ฝรั่งเศส’ของอินเดียร่วง โลกจับตาบินรบ‘จีน’ หลังถูกใช้โดยปากีสถานสอยเครื่อง‘ฝรั่งเศส’ของอินเดียร่วง
  • \'ดิว อริสรา\'เคลื่อนไหวแล้ว! โพสต์เศร้าถึง\'คุณพ่อวิชิต\' คนในวงการส่งกำลังใจแน่น 'ดิว อริสรา'เคลื่อนไหวแล้ว! โพสต์เศร้าถึง'คุณพ่อวิชิต' คนในวงการส่งกำลังใจแน่น
  • \'บิว\'นำทัพ!กรีฑาลุยศึกใหญ่‘WorldRelay’ล่าตั๋วชิงแชมป์โลก 'บิว'นำทัพ!กรีฑาลุยศึกใหญ่‘WorldRelay’ล่าตั๋วชิงแชมป์โลก
  • \'ทักษิณ\'หมดทางแล้ว! \'เสรีพิสุทธ์\' ชี้ยัดคุกได้เลย 'ทักษิณ'หมดทางแล้ว! 'เสรีพิสุทธ์' ชี้ยัดคุกได้เลย
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

7 พ.ค. 2568

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

4 พ.ค. 2568

ไอ้นี่มัน ‘เหวง’ ไม่หาย

ไอ้นี่มัน ‘เหวง’ ไม่หาย

30 เม.ย. 2568

‘กฎหมาย’ หรือ ‘ชะตา’ ที่ไล่ล่า ‘แพทองธาร’

‘กฎหมาย’ หรือ ‘ชะตา’ ที่ไล่ล่า ‘แพทองธาร’

27 เม.ย. 2568

เรื่องของ ‘ทราย สก๊อต’

เรื่องของ ‘ทราย สก๊อต’

23 เม.ย. 2568

‘ไชยชนก ชิดชอบ’ ปิดจ๊อบได้สวย

‘ไชยชนก ชิดชอบ’ ปิดจ๊อบได้สวย

20 เม.ย. 2568

เอา ‘ทักษิณ’ ไปเก็บซะ!

เอา ‘ทักษิณ’ ไปเก็บซะ!

16 เม.ย. 2568

‘กาสิโน’ กับการ ‘ทิ้งไพ่’ ของภูมิใจไทย

‘กาสิโน’ กับการ ‘ทิ้งไพ่’ ของภูมิใจไทย

13 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved