ประเด็นการบริหารจัดการคลองโอ่งอ่าง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปล่อยปละละเลย ทิ้งร้าง ไม่มีกิจกรรมคึกคักเหมือนสมัยรัฐบาลลุงตู่ และสมัยผู้ว่าฯ อัศวิน
1. สมัยรัฐบาลลุงตู่ ผู้ว่าฯอัศวิน ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำคลอง ปรับปรุงภูมิทัศน์ พัฒนาทำน้ำดำที่เคยเน่าเสียให้เป็นน้ำใสมีการวางระบบท่อระบายน้ำเสียที่อยู่ริมคลองโอ่งอ่าง พัฒนาพื้นที่ 2 ข้างทางให้คนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดูแลความสะอาด ทำเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ทำโครงการถนนคนเดินทุกวันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์มีจุดพายเรือคายัค สตรีทอาร์ต ฯลฯ กลายเป็น Landmark แห่งใหม่
ปัจจุบันพื้นที่เหล่านี้ เหงาหงอย ไร้กิจกรรมถนนคนเดิมถูกปล่อยทิ้งร้าง
เสียโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาเมือง เสียโอกาสประชาชนและประเทศชาติส่วนรวม
2. ก่อนจะมาเป็นคลองโอ่งอ่างอย่างปัจจุบัน
คงยังไม่ลืม... บริเวณคลองโอ่งอ่าง เคยเป็นแหล่งชุมชนแออัดใจกลางเมือง มีปัญหาน้ำเน่าเสียปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ
เป็นย่านขายของสะพานเหล็ก ไม่มีระบบจัดการขยะและสิ่งปฏิกูล ทำให้น้ำในคลองโอ่งอ่างนั้นเน่าเสีย ดำสนิท ส่งกลิ่นเหม็น
ภายหลังการพัฒนาฟื้นฟูในช่วงปี 2558 ยุครัฐบาล คสช.นายกฯลุงตู่ ให้ดำเนินการรื้อถอนอาคารร้านค้าบุกรุกพื้นที่สาธารณะ ซึ่งบดบังทัศนียภาพมานานกว่า 40 ปี
เป็นการพัฒนาพื้นที่เสื่อมโทรมให้เป็นพื้นที่สาธารณะที่ให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
สร้างกำแพงเขื่อนกันดิน ปรับพื้นที่ถนนของสะพานเหล็กเดิมให้เป็นถนนปูอิฐ ย้ายท่อร้อยสายไฟแรงสูงเดิมที่พาดผ่านตัวคลองไปเป็นฝังใต้ดิน วางท่อรับน้ำเสียจากบ้านเรือนริมคลอง เพื่อไม่ให้ทิ้งน้ำเสียลงคลอง วางท่อจ่ายน้ำประปาเข้าบ้านเรือน ปรับปรุงภูมิทัศน์ตลอดสองข้างทางริมคลอง ปรับปรุงสะพานข้ามคลอง 5 แห่ง ได้แก่ สะพานดำรงสถิต, สะพานภาณุพันธุ์, สะพานหัน, สะพานบพิตรพิมุข และสะพานโอสถานนท์ ฯลฯ
จากน้ำที่เน่าเสีย กลับมาใสสะอาด จากการวางระบบท่อน้ำเสียจากบ้านที่อยู่ริมคลอง
จากกำแพงอาคารเสื่อมโทรม กลายเป็นพื้นที่แสดงผลงานศิลปะ ให้ศิลปินได้แสดงผลงาน ให้คนมาเที่ยวมาชื่นชมความงาม ถ่ายรูป
จากพื้นที่ค้าขายจับจองโดยอิทธิพลเถื่อน เป็นถนนคนเดินให้ร้านค้าต่างๆ ได้มาหมุนเวียนค้าขายทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และตามเทศกาลต่างๆ สร้างงาน สร้างอาชีพ
โครงการปรับปรุงคลองโอ่งอ่างของกรุงเทพมหานคร ได้รับคัดเลือกให้รับรางวัล UN-Habitat 2020 Asian Townscape Awards ในฐานะเป็น“ต้นแบบการปรับปรุงภูมิทัศน์” (Landscape Improvement Project) ที่พัฒนาพื้นที่สาธารณะได้อย่างโดดเด่น โดยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ศิลปวัฒนธรรม มีความสอดคล้องระหว่างภูมิทัศน์ของเมืองกับรูปแบบการดำเนินชีวิต
ความสำเร็จของโครงการพัฒนาคลองโอ่งอ่างได้รับการยอมรับและกล่าวถึงในระดับโลก ว่าสามารถฟื้นคืนวิถีชีวิตชุมชนริมคลองซึ่งเดิมมีความแออัดมากว่าหลายทศวรรษ ให้สะอาดและสวยงามลงตัวที่จะเป็นสถานท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าอภิรมย์
ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง ยุครัฐบาลลุงตู่ มีการนำเสนอศิลปะริมถนน อาหารและสินค้า รวมทั้งการแสดงดนตรีและสันทนาการต่าง ๆอย่างลงตัว
มีพื้นที่ทำการค้าอย่างมีระเบียบ และปลอดภัย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับประชาชน
เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกรุงเทพมหานครกับภาคเอกชน ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่
มีงานสตรีทอาร์ต (Street Art) และกราฟิตี้ (Graffiti) มีลานการละเล่น Street Food ร้านจำหน่ายอาหารท้องถิ่น เครื่องดื่ม พื้นที่พักรับประทานอาหาร มีร้านค้าท้องถิ่น และสินค้าตามเทศกาล ร้านอาหารเชิงวัฒนธรรม และเชื้อชาติที่มีความหลากหลายทั้งแขก จีน ไทย ร้านค้า DIY มีจุดจอดรถสุขา จอดรถจักรยาน-จักรยานยนต์ พื้นที่หน้าบ้านหน้ามอง ฯลฯ
3. ปัจจุบัน สภาพคลองโอ่งอ่าง ก็ยังไม่ได้ทรุดโทรมเลวร้ายเหมือนแต่ก่อน เพียงแต่เงียบเหงา ขาดชีวิตชีวา
ทั้งที่ความเป็นจริง จัดว่าเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมวัฒนธรรมร่วมสมัย
นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า
ประเด็นที่หนึ่ง ความคืบหน้าการบูรณาการจัดการพื้นที่บริเวณคลองโอ่งอ่าง รวมทั้งมาตรการส่งเสริมฟื้นฟูการท่องเที่ยวในพื้นที่ ตามที่มีข้อสังเกตคลองโอ่งอ่างถูกปล่อยทิ้งร้าง
“สำนักงานเขตพระนคร ได้ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับแกนนำ อาทิ ผู้ค้าเดิมในพื้นที่สะพานเหล็ก ผู้ประกอบการในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อวางแผนฟื้นฟูถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง
ทั้งนี้ ได้มีมาตรการในการส่งเสริมฟื้นฟูการท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยวางแผนไว้ 3 ระยะ คือ
ระยะสั้น : ภายใน 2 เดือน เริ่มต้นเปิดตัวดึงอัตลักษณ์ของสะพานเหล็กในการจัดเทศกาลและกิจกรรม ในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้
ระยะกลาง : ภายใน 4 เดือน ใช้การประเมินและปรับรูปแบบกิจกรรมหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมระยะสั้น พร้อมประชุมร่วมกับแกนนำและผู้ค้าถึงแนวทางการต่อยอดถนนคนเดินให้ยั่งยืน เช่น การทดลองจัดกิจกรรมสั้นๆ ช่วงสุดสัปดาห์ โดยให้แกนนำขับเคลื่อนทั้งหมด และสำนักงานเขตเป็นที่ปรึกษา
ระยะยาว : ในประมาณ 6-8 เดือน ทดลองเปิดโอกาสให้แกนนำบริหารจัดการด้วยตนเอง”
ประเด็นที่สอง กรณีบริเวณทางเท้าริมคลองด้านหลังโรงแรมมิราม่า ซึ่งมีผู้นำรถยนต์มาจอด รวมถึงมีคนเร่ร่อนมาอาศัย
“เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างส่วนต่อขยายที่ขณะนี้สำนักการโยธาอยู่ระหว่างปรับปรุง และยังมิได้ส่งมอบงาน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เทศกิจได้ประชาสัมพันธ์งดการจอดในพื้นที่ดังกล่าว และในอนาคตทางผู้รับจ้างจะพิจารณาติดตั้งอุปกรณ์กั้นรถยนต์เข้ามาจอด สำหรับปัญหาคนเร่ร่อน นอนทางเดิน เจ้าหน้าที่จะเพิ่มความถี่และกำชับตรวจตราไม่ให้มีการหลับนอนในที่สาธารณะพร้อมจัดระเบียบอย่างต่อเนื่อง”
ประเด็นที่สาม สภาพน้ำในคลองโอ่งอ่าง ตามที่มีข้อสังเกตพบว่า มีขยะลอย น้ำเริ่มเน่าเสีย และส่งกลิ่นเหม็น
“สำนักงานเขตพระนครและสำนักการระบายน้ำ ได้ร่วมลงพื้นที่สำรวจคลองโอ่งอ่าง เพื่อตรวจสอบท่อระบายน้ำเสียที่ปล่อยลงคลองโอ่งอ่างโดยตรง ซึ่งได้ตรวจพบจุดปล่อยน้ำเสีย ทราบถึงปัญหาและพร้อมดำเนินการปรับปรุงเพื่อนำน้ำเสียเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำต่อไป”
4. ในความเป็นจริง
4.1 หากมีการวางแผนดำเนินการอย่างมืออาชีพ ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่างสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล หรือเปลี่ยนผู้บริหาร กทม. โดยไม่ขาดช่วงเหมือนปัจจุบัน ทำให้เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ทั้งๆ ที่ ชื่อคลองโอ่งอ่างกำลังถูกกล่าวขาน มีกองถ่ายละคร ซีรี่ส์ต่างชาติมาถ่ายทำ มีศิลปินต่างชาติมาวาดรูป มีรายการทีวีต่างประเทศ
มานำเสนอ ฯลฯ แต่พอคนมาเที่ยวกลับเจอสภาพทิ้งร้าง น่าเสียดายมาก
4.2 หาก กทม.ไม่พร้อมที่จะบริหารจัดการด้วยตนเอง สามารถจะว่าจ้าง หรือประมูลให้เอกชนหรือองค์กรบริหารจัดการมืออาชีพเข้ามาบริหารจัดการกิจกรรมถนนคนเดินคลองโอ่งอ่างภายใต้ขอบเขตทิศทางที่ กทม.กำหนด ก็ย่อมจะกระทำได้ โดยไม่ต้องเสียเงิน แถมจะได้เงินรายได้มาบริหารดูแลคลองโอ่งอ่างอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไปอีกด้วย
เราอาจจะได้เห็นการจัดกิจกรรมคลองโอ่งอ่าง ภายใต้แนวคิดต่างๆ เช่น เวนิสตะวันออก อัมสเตอร์ดัมเมืองไทย หรือแม้แต่จำลองเป็นคลองพระโขนงในเทศกาลฮาโลวีน เป็นต้น
4.3 สมัยรัฐบาลลุงตู่ นายกฯ ลุงตู่ใส่ใจ ให้ความสำคัญ ได้ติดตามโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณรอบคูคลองของคลองต่างๆ ในเมืองอย่างต่อเนื่อง อาทิ คลองช่องนนทรี คลองเปรมประชากร คลองคูเมืองเดิม คลองแสนแสบ คลองผดุงกรุงเกษมและคลองรอบกรุง ฯลฯ พื้นที่รอบคลองเหล่านี้ได้รับการพลิกฟื้นให้กลับมามีชีวิตชีวา เพิ่มช่องทางการคมนาคม บำบัดน้ำเสีย แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงโครงการบ้านมั่นคง บ้านริมคลอง เช่น คลองลาดพร้าว ฯลฯ
หวังว่า จะได้เห็นความเอาใจใส่อย่างทุ่มเทของผู้มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบหลังจากนี้
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี