วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / อ่านระหว่างบรรทัด
อ่านระหว่างบรรทัด

อ่านระหว่างบรรทัด

สันติสุข มะโรงศรี
วันจันทร์ ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
แจกเงินหมื่นทำได้ แต่ถ้าทำผิดก็คุก ธ.ก.ส.อย่าเป็นธรณีกรรแสง

ดูทั้งหมด

  •  

หลังคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต (Digital Wallet) แถลงข่าวถึงแหล่งที่มาของเงินที่ใช้แจก ระบุว่าส่วนหนึ่งมาจาก ธ.ก.ส. จำนวน 172,300 ล้านบาท

ปรากฏว่า ธ.ก.ส.ได้ออกคำประกาศชี้แจงเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2567 ระบุว่า


“ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  (ธ.ก.ส.) เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ มีวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตร ภายใต้กรอบ พ.ร.บ. ธ.ก.ส.

โครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้เข้าไปสนับสนุน ทั้งในมิติของการให้สินเชื่อและเป็นแหล่งทุนในการดำเนินการ โดย ธ.ก.ส. ยังคงสามารถบริหารสภาพคล่องและความแข็งแรง ให้เป็นไปตามมาตรฐานสถาบันการเงิน

โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ตามที่ได้มีการแถลงฯ นั้น ก็เป็นอีกหนึ่งในโครงการของรัฐบาล ที่เกี่ยวข้องในมิติของเกษตรกรผู้รับที่ ธ.ก.ส. อยู่ระหว่างการประสานงานในรายละเอียดที่จะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม”

ทำไม ธ.ก.ส. ต้องตระหนักถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้?

มีข้อมูลความจริงที่พึงพิจารณา อย่างไร?

1. คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในคราวประชุม ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 ได้เห็นชอบกรอบหลักการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet

ระบุถึงแหล่งเงินที่จะใช้ โดยเงินมาจาก 3 แหล่ง ได้แก่ เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ (ธ.ก.ส.) จำนวน 172,300 ล้านบาท และการบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท

และจะแจกเงินผ่านการจัดทำระบบ Super App ของรัฐบาล อันจะเป็นการพัฒนาต่อยอดของรัฐบาลดิจิทัลโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยการใช้งานจะพัฒนาให้สามารถใช้จ่ายได้กับธนาคารอื่นๆ ในลักษณะ open loop ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดทำของภาครัฐ รัฐบาลจะดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปอย่างรอบคอบ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ตามกฎหมาย

คณะกรรมการฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ นำมติที่ได้รับความเห็นชอบเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไปภายในเดือนเมษายน 2567

2. ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีขณะนั้น เคยประกาศไว้ชัดเจน หลายครั้งหลายหน ทั้งบนเวทีหาเสียง ทั้งในคลิปหาเสียง ทั้งในสื่อโซเชียลของตนเองและของพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า สามารถแจกเงินหมื่นถ้วนหน้า โดยไม่ต้องกู้เงินแม้แต่บาทเดียว

การดำเนินการตามแนวทางล่าสุดนี้ ไม่เป็นไปตามคำคุยโวหาเสียง

เพราะการแจกเงินหมื่นไม่ใช่ได้ทุกคน แถมยังมีข้อจำกัดการใช้จ่าย

ประการสำคัญ แหล่งงบประมาณที่นำมาใช้นั้น แท้จริงก็มาจากการกู้ยืมเป็นส่วนใหญ่

เพราะแหล่งที่มาของงบประมาณที่ใช้ มาจากไหน?

2.1 เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท

ส่วนนี้ รัฐบาลก็ได้มาโดยการตั้งงบขาดดุลเพิ่มเติมในงบปี 2568 (ขาดดุล ก็คือจะต้องไปกู้ยืมมานั่นเอง) และทำให้งบปี’68 จะต้องขาดดุลเกือบเต็มแม็กซ์ จำนวนถึง 865,700 ล้านบาท (จากกรอบวงเงินกู้สูงสุดเพื่อชดเชยการขาดดุลตาม พ.ร.บ.หนี้สาธารณะฯ อยู่ที่ 870,620 ล้านบาท

เรียกว่า เทหมดหน้าตักในงบประมาณแผ่นดินปี’68 เพื่อนำมาแจกในการนี้ !!!

2.2 การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ (ธ.ก.ส.) จำนวน 172,300 ล้านบาท

โดยเป็นเงินกู้จาก ธ.ก.ส. ซึ่งจะดูแลเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ 17 ล้านคน ตาม ม.28 ของปีงบประมาณ 2568

เรียกว่า เป็นมาตรการกึ่งการคลัง (Quasi-Fiscal Activities: QFA)

พูดง่ายๆ คือ แบบเดียวกับที่เอาเงิน ธ.ก.ส.มาทำโครงการจำนำข้าวนั่นเอง

มาตรา 28 ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ก็คือกิจกรรมที่รัฐบาลมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐดำเนินงาน โดยจะใช้เงินของหน่วยงานของรัฐ (ส่วนใหญ่เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจหรือรัฐวิสาหกิจ) ไปก่อน แล้วรัฐบาลจะรับภาระชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ในการดำเนินการให้แก่หน่วยงานของรัฐนั้น

มาตรการจำพวกการปล่อยสินเชื่อของธนาคารออมสินในโครงการ Soft Loan ที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราปกติ มาตรการลดค่าครองชีพประชาชน (รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี) ฯลฯ ก็อยู่ในข่ายนี้

โดยมีข้อกำหนดเอาไว้ด้วยว่า อัตรายอดคงค้างรวมทั้งหมดของภาระที่รัฐต้องรับชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ในการดำเนินกิจกรรมฯ ตามที่กำหนดไว้ในบทบัญญัติมาตรา 28 ต้องมียอดคงค้างทั้งหมดรวมกันไม่เกินร้อยละ 30 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี

2.3 การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท

ส่วนนี้ ก็จะต้องมาจากการปรับเปลี่ยน ลดเลิกรายการในงบ ปี’67 ว่าจะนำจากส่วนใดมา 175,000 ล้านบาท

โดยงบกลาง ในงบปี’67 มีอยู่ประมาณ 6 แสนล้านบาทนั้น เป็นเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 98,000 ล้านบาท (สำหรับป้องกันแก้ไขสถานการณ์อันกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของรัฐ การเยียวยาหรือการบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง และภารกิจความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐที่อาจจะเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมายและไม่สามารถปรับแผนจากงบรายจ่ายประจำปีและไม่สามารถใช้จากแหล่งเงินอื่นใดได้)

งบกลางที่เหลือ ก็ล้วนแต่มีรายการผูกพันไว้แล้วทั้งนั้น อาทิ เงินเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ 3.29 แสนล้าน, ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลข้าราชการฯ 76,000 ล้านบาท, เงินสำรอง เงินสมทบ เงินชดเชยของข้าราชการ 78,755 ล้านบาท ฯลฯ

น่าสนใจว่า รัฐบาลจะให้นำงบส่วนใดในงบปี’67 มาแจกในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 175,000 ล้านบาท?

3. อย่าเป็น “ธ.ก.ส. - ธรณีกรรแสง” ?

สมัยรัฐบาลทักษิณคิด เพื่อไทยทำ นิยมใช้ธนาคารหรือสถาบันการเงินของรัฐ เข้ามาดำเนินกิจกรรมตามโครงการของรัฐบาล และก่อให้เกิดภาระหนี้ และหนี้เสียมหาศาล

ในสมัยนั้น ธนาคารอิสลาม เอสเอ็มอีแบงก์ ต่างเคยต้องแบกภาระหนี้เสียแห่งละกว่า 40,000 ล้านบาท ต้นเหตุสำคัญก็มาจากนโยบายหรือการแทรกแซงของฝ่ายการเมือง

กรณีของ ธ.ก.ส. ก็เช่นกัน ต้องแบกภาระทำโครงการรัฐและมียอดหนี้ที่รัฐบาลยังไม่ได้ชำระคืนให้แก่ ธ.ก.ส.อยู่จำนวนหลายแสนล้านบาท (ส่วนใหญ่ คือ โครงการรับจำนำพืชผลการเกษตรตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์) โดยที่ส่วนหนึ่งเป็นเงินที่ ธ.ก.ส.ไปกู้ยืมมาอีกทอด เพื่อนำมาใช้จ่ายในโครงการของรัฐบาล ซึ่งมีดอกเบี้ยเงินกู้

ข้อมูลอย่างเป็นทางการล่าสุด ตามเอกสารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน รายงานการสอบทานข้อมูลทางการเงินฯ ธ.ก.ส. ณ 31 ธ.ค. 2566 เปิดเผยให้เห็นข้อมูลน่าขนหัวลุก ดังนี้

1. ธ.ก.ส. มีสินทรัพย์ 2.2 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินรับฝากอยู่ 1.8 ล้านล้านบาท

2. ธ.ก.ส.มีเงินสดอยู่ 20,724 ล้านบาทเท่านั้น (ถ้าใครแห่ไปถอนเงินสดมากกว่านั้นก็ต้องรอหน่อย)

3. ธ.ก.ส.ยังรอการชดเชยจากรัฐบาลตามธุรกรรมนโยบายของรัฐบาล จำนวนเงิน 619,173 ล้านบาท !!!

4. ส่วนใหญ่ที่ ธ.ก.ส.เข้าไปดำเนินการตามนโยบายรัฐ แล้วยังไม่ได้เงินชดเชยคืนกลับมา คือ โครงการรับจำนำพืชผลการเกษตร ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ปัจจุบันเหลือหนี้อยู่ 232,352 ล้านบาท

ในจำนวนนี้ เป็นหนี้โครงการจำนำข้าวยุคยิ่งลักษณ์ ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ บุญทรงติดคุก ที่รอรัฐบาลชดเชยหนี้คืนเหลืออยู่ประมาณ 2 แสนล้านบาท

5. หนี้ที่ ธ.ก.ส.รอรัฐบาลชดเชยโครงการรับจำนำพืชผลการเกษตร 232,352 ล้านบาทนั้น เป็นเงินที่ ธ.ก.ส.ไปกู้มาจากที่อื่น (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวนถึง 173,215 ล้านบาท

พูดง่ายๆ ว่า ธ.ก.ส.อุตส่าห์ไปกู้มาทำโครงการตามใบสั่งของรัฐบาล

6. ล่าสุด รัฐบาลจะให้ ธ.ก.ส.หาเงินมาให้อีก 172,300 ล้านบาท เพื่อนำมาแจกเกษตรกรหัวละ 10,000 บาท มัดมือให้ทำโครงการแจกเงินหมื่นผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ทั้งๆ ที่ ไม่มีในแผนงานของ ธ.ก.ส.มาก่อนเลย

เชื่อว่า เงิน 1.7 แสนล้านบาทรอบนี้ ธ.ก.ส.ก็น่าจะต้องไปกู้มาจากที่อื่นอีกทอดหนึ่งหรือไม่ ?!?!

น่าสนใจว่า สามารถเอาเงิน ธ.ก.ส.มาร่วมแจกในโครงการนี้ได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องจริงหรือไม่? ต้นทุน ผลกระทบ และความเสี่ยงของการกระทำเช่นนี้ ตกแก่ใครบ้าง? ใครจะติดคุก? ใครจะรับความเสี่ยง?

สันติสุข มะโรงศรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:33 น. ‘ภราดร’ เร่งเครื่องเบิกจ่ายงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าระบบ ให้ประชาชนเห็นผลเร็วที่สุด
09:20 น. น้ำเจ้าพระยาลดต่อเนื่อง ชลประทานชี้สัญญาณกำลังเข้าสู่ฤดูแล้ง
09:01 น. กลับถึงไทยแล้ว! นักศึกษาไทยป่วยโคม่าในเกาหลีใต้ หลังนางเอก'แดจังกึม'ยื่นมือเข้าช่วย
08:54 น. 'ดี้ นิติพงษ์'ลั่น! 'ฝ่ายค้าน' คือ IO ชั้นดีของรัฐบาล แนะนายกฯ ควรขอบคุณ
08:52 น. งดงามดุจจันทรา! เปิดรายละเอียด'ไหมเปลือก 6 เส้น' ที่สุดแห่งเส้นใยชั้นนอกสู่ฉลองพระองค์อันวิจิตร
ดูทั้งหมด
การทูตหยุดโลก 'อ.ธรณ์'ชี้ความสำคัญ ในหลวงเสด็จเยือนจีน
ยูเนสโกประกาศยกย่อง 'ในหลวงรัชกาลที่ 9' และ 'สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ'
บุกจับ2วัยรุ่นสร้างตัว เปิดเหมืองบิทคอยน์ซุก'สวนมะพร้าวบ้านแพ้ว' โกงไฟหลวงมหาศาล
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
ดูทั้งหมด
การสร้างสังคมไทยให้เป็นประชาธิปไตย โดยผ่านการปฏิรูประบบและกระบวนการกฎหมาย (1)
ห่าก๊อมขอมเก็งกอง
อาวุธเด็ดไทย อำนาจเหนือเขมร
บุคคลแนวหน้า : 17 พฤศจิกายน 2568
ไทยยืนหยัด ในสงครามล่าเมืองขึ้น ด้วย Reciprocal Tariffs
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

น้ำเจ้าพระยาลดต่อเนื่อง ชลประทานชี้สัญญาณกำลังเข้าสู่ฤดูแล้ง

กลับถึงไทยแล้ว! นักศึกษาไทยป่วยโคม่าในเกาหลีใต้ หลังนางเอก'แดจังกึม'ยื่นมือเข้าช่วย

'หมอมุกกินเค้ก' ขอโทษปมดราม่าลองชุด เจ้าของแบรนด์ดังลั่น'ดูไม่จริงใจ'

ระทึกกลางกรุงโตเกียว! คนร้ายก่อเหตุแทงหญิงวัย40ปี บาดเจ็บสาหัสบริเวณท้อง

'นิพิฏฐ์' เตือน 'ทนาย-สว.สำรอง' คดีฮั้ว สว. อย่าประมาทพยานกลับคำ เพราะมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

สถานการณ์เริ่มเดือด! เรือจีนออกลาดตระเวนใกล้หมู่เกาะเซ็งกากุ พื้นที่พิพาทระหว่างจีน-ญี่ปุ่น

  • Breaking News
  • ‘ภราดร’ เร่งเครื่องเบิกจ่ายงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าระบบ ให้ประชาชนเห็นผลเร็วที่สุด ‘ภราดร’ เร่งเครื่องเบิกจ่ายงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าระบบ ให้ประชาชนเห็นผลเร็วที่สุด
  • น้ำเจ้าพระยาลดต่อเนื่อง ชลประทานชี้สัญญาณกำลังเข้าสู่ฤดูแล้ง น้ำเจ้าพระยาลดต่อเนื่อง ชลประทานชี้สัญญาณกำลังเข้าสู่ฤดูแล้ง
  • กลับถึงไทยแล้ว! นักศึกษาไทยป่วยโคม่าในเกาหลีใต้ หลังนางเอก\'แดจังกึม\'ยื่นมือเข้าช่วย กลับถึงไทยแล้ว! นักศึกษาไทยป่วยโคม่าในเกาหลีใต้ หลังนางเอก'แดจังกึม'ยื่นมือเข้าช่วย
  • \'ดี้ นิติพงษ์\'ลั่น! \'ฝ่ายค้าน\' คือ IO ชั้นดีของรัฐบาล แนะนายกฯ ควรขอบคุณ 'ดี้ นิติพงษ์'ลั่น! 'ฝ่ายค้าน' คือ IO ชั้นดีของรัฐบาล แนะนายกฯ ควรขอบคุณ
  • งดงามดุจจันทรา! เปิดรายละเอียด\'ไหมเปลือก 6 เส้น\' ที่สุดแห่งเส้นใยชั้นนอกสู่ฉลองพระองค์อันวิจิตร งดงามดุจจันทรา! เปิดรายละเอียด'ไหมเปลือก 6 เส้น' ที่สุดแห่งเส้นใยชั้นนอกสู่ฉลองพระองค์อันวิจิตร
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ไทยยืนหยัด  ในสงครามล่าเมืองขึ้น ด้วย Reciprocal Tariffs

ไทยยืนหยัด ในสงครามล่าเมืองขึ้น ด้วย Reciprocal Tariffs

17 พ.ย. 2568

ปรากฏการณ์ ‘หมอนทอง... วิทยา’

ปรากฏการณ์ ‘หมอนทอง... วิทยา’

10 พ.ย. 2568

ปิดฉากมหากาพย์  ค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ปิดฉากมหากาพย์ ค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว

3 พ.ย. 2568

ถ้าลงนามแล้ว กัมพูชาไม่ทำ?

ถ้าลงนามแล้ว กัมพูชาไม่ทำ?

27 ต.ค. 2568

อัยการสูงสุดคนใหม่ ปมอุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ  บทพิสูจน์ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม

อัยการสูงสุดคนใหม่ ปมอุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ บทพิสูจน์ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม

20 ต.ค. 2568

การเมืองยุคหลังลุงตู่

การเมืองยุคหลังลุงตู่

13 ต.ค. 2568

ความจริง... ทองคำในทุนสำรองฯ ของไทย

ความจริง... ทองคำในทุนสำรองฯ ของไทย

6 ต.ค. 2568

ไม่อุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ ?!?!

ไม่อุทธรณ์คดี 112 ทักษิณ ?!?!

29 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved