คนที่อุตส่าห์ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องมีสติปัญญา มีคุณธรรม มีจริยธรรม และที่สำคัญคือต้องมีความละอาย รวมถึงต้องรู้กาลเทศะด้วย แม้จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยมีใครผลักดัน หรือชักใยอยู่เบื้องหลังก็ตาม ก็จำเป็นต้องเป็นคนที่มีความละอายหลงเหลืออยู่บ้าง
แต่ทว่าในบางบ้านบางเมืองนั้นมีนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดหุ่นชักมาแล้วอย่างน้อยๆ 2 คน ส่วนกำลังจะมีคนที่ 3 ในอนาคตอันใกล้หรือไม่ ก็จะต้องตามดูกันต่อไป แต่ถึงกระนั้น ก็ต้องย้ำว่า คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีความเป็นคน ต้องมีสติปัญญา ต้องมีคุณธรรม และต้องมีความละอาย แม้ที่ผ่านมาและที่กำลังเป็นอยู่นั้นจะพบว่านายกรัฐมนตรีบางคนขาดสิ้นทุกสิ่งอย่างที่กล่าวมาในข้างต้น
การเป็นนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของสาธารณะเป็นสำคัญ แม้ background หรือเบื้องหลังของนายกรัฐมนตรีจะมีประวัติด่างพร้อย แปดเปื้อน เลอะเทอะ สกปรก โสโครกสักเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเลว ๆ ที่เคยมีมาให้ลดน้อยลง หรือหากจะให้ดีที่สุดคือต้องลบล้างพฤติกรรมเลว ๆ ของตนให้หมดไป แม้จะเป็นเรื่องยากเย็น แต่ก็จำเป็นต้องทำให้จงได้
นายกรัฐมนตรีต้องสำเหนียกไว้ตลอดเวลาว่า ตนเองมีหน้าที่เป็นประมุขของฝ่ายบริหาร ดังนั้น จึงต้องบริหารประเทศให้ดีทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าให้ได้ หากรู้ตัวดีว่าไม่มีปัญญาบริหารราชการแผ่นดินให้ดีแล้ว ก็ไม่ควรโกหกตัวเองอีกต่อไป ไม่ควรโกหกตัวเองว่าจะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนครบ 4 ปี เพราะการโกหกตัวเองเป็นเพียงการปลอบใจตัวเองว่าจะอยู่ในโลกแห่งความฝันไปเรื่อยๆ บินไป บินมา เดินทางไปโน่นมานี่ตลอดเวลา โดยไม่มีปัญญาบริหารประเทศ
นายกรัฐมนตรีที่ไม่มีปัญญาบริหารประเทศ แต่ยังทนอยู่ในตำแหน่งด้วยความหวงตำแหน่ง คือผู้ทำลายทั้งตนเอง และทำลายประเทศชาติ แล้วยิ่งในกรณีเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วไม่รักษาหลักนิติรัฐของแผ่นดิน ก็ยิ่งเท่ากับอยู่ในตำแหน่งเพื่อทำลายความมั่นคงของแผ่นดิน และสร้างความทุกข์เข็ญ ความโกลาหลให้กับประเทศชาติ และประชาชน
ไม่ใช่เรื่องพิสดารแต่ประการใดที่นายกรัฐมนตรีที่มาจากพ่อค้าพ่อขายจะโกรธเกรี้ยวเมื่อสินค้าของตนเองขายไม่ได้ ขายไม่ออกและขายไม่ดี โดยอ้างมูลเหตุที่ทำให้สินค้าของตนเองขายไม่ออกมาจากดอกเบี้ยแพง แบงก์ไม่ปล่อยกู้ และอ้างอีกว่าเงินเฟ้อต่ำจนติดลบ แต่ดอกเบี้ยก็ยังแพงโคตรแพง คำว่าโคตรแพงนั้นมาจากมุมมอง แล้วออกมาจากปากของคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งแสดงให้เห็นความไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีกดดัน บีบบังคับให้ธนาคารชาติต้องลดดอกเบี้ยตามที่นายกรัฐมนตรีกระสันอยากจะเห็น แล้วก็เกิดอาการโกรธหนักเมื่อพยายามบีบแบงก์ชาติมาหลายครั้งแล้ว แต่แบงก์ชาติก็ไม่ยินยอมกระทำตามความต้องการของนายกรัฐมนตรี
อันที่จริง นายกรัฐมนตรีพรรค์อย่างว่านี้น่าจะไปเป็นนายกรัฐมนตรีตุรกี หรือตุรเคีย หรือทูร์เคีย เนื่องจากประเทศดังกล่าวถูกนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจบีบบังคับธนาคารกลางของประเทศให้ลดดอกเบี้ย แล้วใช้คำสั่งโดยไม่ชอบธรรมเปลี่ยนตัวผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศไปแล้ว 5 คน จนทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังพินาศ เงินเฟ้อมหาศาล ดอกเบี้ยแพงมหากาฬ ประชาชนใกล้จะตายทั้งประเทศ
หลายคนที่ติดตามข่าวนายกรัฐมนตรีของตุรเคียใช้อำนาจโดยไม่ชอบสั่งเปลี่ยนผู้ว่าการธนาคารกลาง โดยในระยะ 5 ปี เปลี่ยนตัวผู้ว่าฯ ไปแล้ว 5 คน ทำให้เงินเฟ้อ 161 เปอร์เซ็นต์ ดอกเบี้ยสูง 40 เปอร์เซ็นต์
ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องผิดที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต แต่ก็ต้องย้ำว่าเป็นความผิดมหันต์ที่นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจโดยขาดสติ สิ้นปัญญาในการเแทรกแซงกิจการของธนาคารกลางของประเทศ เพราะต้องไม่ลืมว่านายกรัฐมนตรีที่ขาดปัญญาก็มักจะหลงตัวเองว่าตนเองนั้นเก่งฉกาจ มีอำนาจมากล้น ทั้งๆ ที่อำนาจที่ตนเองอ้างว่ามีนั้น เป็นอำนาจที่เกิดจากการถูกชักใยโดยจอมบงการอยู่เบื้องหลัง ในความเป็นจริง นายกรัฐมนตรีต้องสำเหนียกตนเองเสมอๆ ว่าตนเองมีอำนาจแท้จริงหรือไม่ ตนเองเป็นเพียงหุ่นชักหุ่นเชิดของเจ้าของพรรคการเมือง ใช่หรือไม่ แล้วตนเองมีฐานเสียงการเมืองของตนเองแท้จริงหรือไม่
การที่อุตส่าห์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็จำเป็นต้องรู้ตัวไว้เสมอว่าตำแหน่งนี้มีไว้เพื่อสร้างความเจริญให้กับประเทศชาติโดยรวม อย่าคิดว่าเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะใช้ตำแหน่งและอำนาจรัฐไปสร้างความมั่งคั่งให้กับกิจการของตนเอง หรือของพวกพ้องจงสำเหนียกไว้ว่า นายกรัฐมนตรีที่ใช้อำนาจโดยไม่สุจริต เพื่อฉ้อฉล โกงบ้านกินเมือง ปล้นประเทศชาติ ในที่สุดแล้วจะต้องระเห็จออกจากแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอน ไปร่อนเร่เป็นสัมภเวสี ผีไม่มีหลักแหล่ง เหมือนดังนายกรัฐมนตรีบางคน แม้นายกรัฐมนตรีบางคนจะได้กลับประเทศหลังจากหนีคดีอยู่นานแสนนาน แต่เมื่อกลับไปประเทศที่ตนเองเกิดแล้ว ชีวิตก็มีแต่ความย่อยยับ แม้จะสามารถหนีคุกหนีตะรางได้ก็ตามที
ประเทศไทยหนา ที่มีนายกรัฐมนตรีโคตรห่วย ไร้ปัญญาไร้ความรับผิดชอบ ไร้สำนึก และไร้ความละอาย แล้วมีคำถามด้วยว่า ประเทศนั้นมีอัตราดอกเบี้ยแพงจริงๆ หรือ หรือว่าเป็นมุมมองจากนายกรัฐมนตรีห่วยๆ ที่มองแล้วเชื่อไปเอง โดยไม่ดูบริบทแท้ๆ ของการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศและของโลก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี