วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันศุกร์ ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
สาวไส้‘ดิจิทัล วอลเล็ต’ใครได้ใครเสีย?

ดูทั้งหมด

  •  

เรื่องการแจกเงิน“ดิจิทัล 1 หมื่นบาท” ที่ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน  เพียงแค่รู้ว่ารัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยที่ไปหาเสียงกับชาวบ้านเอาไว้ เหมือนสัญญาว่าจะแจก  ด้วยการขูดเงินงบประมาณรายจ่ายของแผ่นดินปี 2567 และ 2568 รวมทั้งเงินของ ธ.ก.ส. นำมาแจก เพื่อไม่ต้องสุ่มเสี่ยงกับการที่จะต้องเดินเข้าคุกกันเป็นแถวจากการออก พ.รบ.เงินกู้ นั้น  มีเรื่องให้ต้องขบคิดมากทีเดียว 

เพราะเงิน 5 แสนล้านบาทที่จะเอามาหว่านแจกเหมือนทิ้งโก๋กระจาดในงานประจำปีของโรงเจ  เป็นเงินภาษีอากรของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่เงินของนักโทษเด็ดขายทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นทั้งเจ้าของคอกพรรคเพื่อไทยตัวจริง และเป็นดีเอ็นเอของ“ระบบทักษิโณมิกส์”หรือ“ระบบประชานิยมแบบทักษิณ” ซึ่งร่ำรวยติดอันดับ 1 ใน 10 มหาเศรษฐีไทยที่มั่งคั่งตามที่นิตยสาร“ฟอร์บส”(Forbes) จัดอันดับ ว่าปี 2566 ทักษิณมีทรัพย์สินสุทธิ 2,100 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7.7 หมื่นล้านบาท จากการทำธุรกิจการเงินและการลงทุน


ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น เงินก้อนมหาศาล 5 แสนล้านบาท  ที่ไป“รีด”มาจากงบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นรายจ่ายประจำและรายจ่ายสำหรับการลงทุนของรัฐ  เพื่อนำมาแจกตามนโยบาย“ประชานิยมแบบทักษิณ”นี้  ก็ไม่ใช่เงินของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตพ่อค้าบ้านจัดสรร“บริษัทแสนสิริ” และอดีตหุ้นส่วนใหญ่“บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)” หรือ “XSpring”  ที่เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร  โดยเฉพาะบริการทางการเงินดิจิทัล หรือ “Digital Financial Service” รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย

ยิ่งพอเห็นชื่อ“XSpring” ก็ทำให้ต้องร้อง“เอ๊ะ !”ขึ้นมาทันที   เพราะบริษัทนี้ก่อนที่นายเศรษฐา ทวีสิน จะผันตัวเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยจนกระทั่งเป็นนายกรัฐมนตรี“หุ่นเชิด”ขัดตาทัพอยู่ในเวลานี้นั้น 

ในปี 2564 บริษัทแสนสิริที่นายเศรษฐา  ทวีสิน เป็นประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่  ได้ขยายธุรกิจจากภาคอสังหาริมทรัพย์สู่ธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ ด้วยการซื้อหุ้น“บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอลฯ”  โดยบริษัทแสนสิริฯเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง ในสัดส่วน 15 เปอร์เซ็นต์ จากเงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท

เมื่อค้นข้อมูลต่อไปได้ตามพบว่า นายเศรษฐา ทวีสิน เคยกล่าวถึงการเข้าไปลงทุนใน“XSpring” ไว้ว่า   “แสนสิริเห็นโอกาสและเทรนด์การเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจการเงินดิจิทัลทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก จึงได้เข้าลงทุนใน XSpring บริษัทการเงินครบวงจรที่กำลังจะนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาเชื่อมโลกการเงินปัจจุบันและโลกอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน...ซึ่งการรุกเข้าสู่ธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ รวมถึงธุรกิจทางด้านการเงินสำหรับดิจิทัลอีโคโนมีหรือ Digital Financial Service ของ แสนสิริ จะเพิ่มโอกาสการเติบโตของรายได้จากแหล่งอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ตลอดจนเพิ่มความแข็งแรงทางการเงินและการดำเนินธุรกิจของแสนสิริที่ดีอยู่แล้วให้แข็งแรงยิ่งขึ้น" (กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, 14 พฤษภาคม 2564)

แม้นายเศรษฐา ทวีสิน จะเป็นอดีตประประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทแสนสิริ ในทางนิตินัยจากการโอนหุ้นทั้งหมดของ“SIRI”จำนวน 661 ล้านหุ้นให้แก่นางสาวชนัญดา ทวีสิน บุตรที่บรรลุนิติภาวะโดยเสน่หาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 ไปแล้วก็ตาม  แต่ในทางพฤตินัย  นายเศรษฐากับลูกสาวซึ่งมีสถานภาพโสดก็ยังพักอาศัยบ้านเดียวกัน หรือแม้แต่รถยนต์ส่วนบุคคลของบุตรสาว   นายเศรษฐาก็ยังเคยนำมาใช้อยู่บ่อยๆ  และยิ่งถ้าจะใช้คำของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร มาใช้   ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเกี่ยวกับ“ดีเอ็นเอ”ระหว่างทักษิณกับอุ๊งอิ๊ง และนายเศรษฐากับนาสาวชนัญดา ที่มิสามารถตัดขาดจากกันได้

ถ้าจะต่อภาพให้เห็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งแยกกันไม่ออกเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน  ก็คือคณะรัฐมนตรีเพิ่งจะมีมติเห็นชอบ 7 มาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งเป็นการเตรียมการเพื่อรองรับการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) จากการประชุมเมื่อวันอังคารที่ 9 เมษายนที่ผ่านมานี้เอง

หนึ่งในมาตรการนั้น คือ“การหักลดหย่อนภาษี–ลดค่าธรรมเนียม” ทั้งปรับปรุงมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย เช่นลดค่าจดทะเบียนโอนจาก 2 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 0.01 เปอร์เซ็นต์ และลดค่าจดทะเบียนการจำนองจาก 1 เปอร์เซ็นต์เหลือ 0.01 เปอร์เซ็นต์ เฉพาะที่จดทะเบียนโอนในคราวเดียวกัน  ทั้งนี้ ก็เพื่อประโยชน์สำหรับการซื้อขายอาคารที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ ที่ดินพร้อมอาคาร ห้องชุดที่จดทะเบียนอาคารชุด โดยมีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อสัญญา

การออกมาตรการนี้ของรัฐบาลโดยการเสนอของกระทรวงการคลังที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงยากที่จะเลี่ยงไม่ให้คนทั่วไปมองได้ว่าเป็น“ผลประโยชน์ทับซ้อน”  โดยกระทรวงการคลังอ้างเหตุผลว่า  เนื่องจากได้เห็นสัญญาณการหดตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา (ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566) โดยมีบ้านที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม เหลือขายจำนวน 2.5 แสนหน่วย และหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระยะยาวได้ จึงเป็นที่มาของการเสนอมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ 7 มาตรการดังกล่าว

ใน 7 มาตรการดังกล่าวยังมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องโดยผ่านธนาคารไม่ต่างจากโครงการ“ดิจิทัล วอลเล็ต”ที่ใช้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.)  แต่มาตรการนี้ใช้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง  ภายใต้โครงการสินเชื่อบ้าน “Happy Home” วงเงินโครงการ 2 หมื่นล้านบาท

โครงการ“ดิจิทัล วออลเล็ต”ที่จะต้องนำเงิน 5 แสนล้านบาทที่เป็นเงินสดไปแลกแปลี่ยนเป็น“เงินดิจิทัล”เพื่อมาผ่าน “Super App”แจกแก่ประชาชน 50 ล้านคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปนั้น  ถ้าไม่ใช่กลุ่มธุรกิจการเงินที่ให้การบริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลได้ประโยชน์แล้ว ถามว่าใครจะได้ประโยชน์  เช่นเดียวกับ“7 มาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์” ผู้ได้รับประโยชน์เต็มๆ ก็คือกลุ่มทุนด้านอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง

สำหรับโครงการแจกเงิน“ดิจิทัล 1 หมื่นบาท” คนที่จะได้ประโยชน์ นอกจากกลุ่มธุรกิจการเงินที่ให้การบริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลแล้ว  อีกกลุ่มหนึ่งก็คือทุนใหญ่ที่ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภคซึ่งอยู่ในเงื่อนไขของโครงการนี้ ประชาชนผู้กำเงินดิจิทัลหรือเงินกงเต็กไปซื้อสินค้าจากร้านค้าขนาดเล็กระดับอำเภอก็ไม่ต่างจากต้นทางของท่อลำเลียงส่งเงิน ผ่านร้านค้าขนาดเล็ก ขนาดกลางไปสู่ปลายทางคือทุนใหญ่ ส่วนรัฐได้แค่เศษเงินที่เป็นภาษีจากเงิน 5 แสนล้านบาทเท่านั้น

สงสารประเทศไทยและรู้สึกสังเวชใจในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทย-เห็นคนโกงคนชั่วรุมทึ้งชาติบ้านเมืองไม่รู้จักจบสิ้น

 

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
17:28 น. ทบ.ย้ำอีกครั้ง! ทุ่นระเบิดบังเกอร์ทหาร ไม่ได้ถูกวางใหม่
17:18 น. ‘ผู้ว่าฯชัชชาติ’ย้ำไม่น่าห่วง! น้ำเจ้าพระยาผ่านจุดสูงสุดแล้ว พร้อมรับมือน้ำเหนือ-น้ำหนุน
17:06 น. 'เขมร'ป่วนไม่เลิก! รัวปืน 10 นาทีใกล้'บ้านหนองหญ้าแก้ว'ยั่วยุไทย
17:03 น. ผู้ว่าฯนนทบุรีประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 3 อำเภอ ในหลายพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
16:53 น. ริเป็นโจร! รวบเยาวชน 13 ปี ชิงถังเงินร้านชำกลางดึกอ้าง'ติดเกมหนัก'ต้องหาเงินเติมเกม
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 8-14 พ.ย.68
'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์ไอจีล่าสุด! ประกาศสถานะชัดทำชาวเน็ตแห่คอมเมนต์
สาวชุดหวือโชว์รอยสัก 'ของลับโผล่' ชี้แจงแล้ว 'ไม่ได้ตั้งใจ-ที่แปะหลุด-ดื่มหนัก'
โพสต์นี้มีสะเทือน! 'เพลง ชนม์ทิดา'แชร์ข้อคิดถึงการโกหกกับความสัมพันธ์
แฟนบอลเตรียมตัว! เปิดช่องทางชมสด'หมอนทองวิทยา'ดวล'อบจ.ชัยนาท'
ดูทั้งหมด
จะโกงแม้กระทั่งการติดคุก รัฐบาลอนุทินล้อมคอกด่วน
Bitcoin กับนโยบายแจกเงิน $2,000 ของทรัมป์ : เม็ดเงินใหม่ที่อาจหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดคริปโต
เทียบกำลังรบ‘สงครามไทย-กัมพูชา’
หยุดโกงใน 100 วัน (ตอนที่ 2) ถ้ามี ‘คู่มือรัฐบาลที่อยากโปร่งใสจริง’ มันจะดีไหม?
ขี้มรณะ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทบ.ย้ำอีกครั้ง! ทุ่นระเบิดบังเกอร์ทหาร ไม่ได้ถูกวางใหม่

‘ผู้ว่าฯชัชชาติ’ย้ำไม่น่าห่วง! น้ำเจ้าพระยาผ่านจุดสูงสุดแล้ว พร้อมรับมือน้ำเหนือ-น้ำหนุน

ผู้ว่าฯนนทบุรีประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 3 อำเภอ ในหลายพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

มทภ.2 ลงพื้นที่ตรวจที่ห้วยตามาเรีย จุดทหารเหยียบทุ่นระเบิด สั่งเพิ่มมาตรการสูงสุด

ทบ.ชี้ข่าวปลอม เหตุปะทะช่องตาเฒ่า ทหารไทยถูกยิงที่ขา เจ็บ 1 นาย

โดนคนไหนก็คนนั้น! นายกฯโยนกฎหมายจัดการ'ชนนพัฒฐ์'

  • Breaking News
  • ทบ.ย้ำอีกครั้ง! ทุ่นระเบิดบังเกอร์ทหาร ไม่ได้ถูกวางใหม่ ทบ.ย้ำอีกครั้ง! ทุ่นระเบิดบังเกอร์ทหาร ไม่ได้ถูกวางใหม่
  • ‘ผู้ว่าฯชัชชาติ’ย้ำไม่น่าห่วง! น้ำเจ้าพระยาผ่านจุดสูงสุดแล้ว พร้อมรับมือน้ำเหนือ-น้ำหนุน ‘ผู้ว่าฯชัชชาติ’ย้ำไม่น่าห่วง! น้ำเจ้าพระยาผ่านจุดสูงสุดแล้ว พร้อมรับมือน้ำเหนือ-น้ำหนุน
  • \'เขมร\'ป่วนไม่เลิก! รัวปืน 10 นาทีใกล้\'บ้านหนองหญ้าแก้ว\'ยั่วยุไทย 'เขมร'ป่วนไม่เลิก! รัวปืน 10 นาทีใกล้'บ้านหนองหญ้าแก้ว'ยั่วยุไทย
  • ผู้ว่าฯนนทบุรีประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 3 อำเภอ ในหลายพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ผู้ว่าฯนนทบุรีประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 3 อำเภอ ในหลายพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
  • ริเป็นโจร! รวบเยาวชน 13 ปี ชิงถังเงินร้านชำกลางดึกอ้าง\'ติดเกมหนัก\'ต้องหาเงินเติมเกม ริเป็นโจร! รวบเยาวชน 13 ปี ชิงถังเงินร้านชำกลางดึกอ้าง'ติดเกมหนัก'ต้องหาเงินเติมเกม
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เทียบกำลังรบ‘สงครามไทย-กัมพูชา’

เทียบกำลังรบ‘สงครามไทย-กัมพูชา’

12 พ.ย. 2568

‘แต่ถึงรบไม่ขลาด’ต้องเด็ดขาดกับเขมร

‘แต่ถึงรบไม่ขลาด’ต้องเด็ดขาดกับเขมร

11 พ.ย. 2568

ต้องบั่นหัว‘ไอ้โม่ง’สั่งให้ทหารไทยหยุดยิงกับเขมร

ต้องบั่นหัว‘ไอ้โม่ง’สั่งให้ทหารไทยหยุดยิงกับเขมร

10 พ.ย. 2568

อีนุงตุงนัง

อีนุงตุงนัง

7 พ.ย. 2568

‘หนู-อนุทิน’คำรามอย่าง‘ราชสีห์’

‘หนู-อนุทิน’คำรามอย่าง‘ราชสีห์’

6 พ.ย. 2568

‘ทุกขลาภ’ของ‘อนุทิน’

‘ทุกขลาภ’ของ‘อนุทิน’

5 พ.ย. 2568

‘อภิสิทธิ์’จำเลยศาลเตี้ยของ‘เด็กน้อย’

‘อภิสิทธิ์’จำเลยศาลเตี้ยของ‘เด็กน้อย’

4 พ.ย. 2568

ถอนราก‘สแกมเมอร์’งานท้าทาย‘อนุทิน’

ถอนราก‘สแกมเมอร์’งานท้าทาย‘อนุทิน’

3 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved