ชาวยิวกำเนิดขึ้นมาบนโลกอย่างยาวนาน มีประวัติศาสตร์ยาวไกลกว่า 4,000 ปี เป็นชนชาติเก่าแก่ที่รักสันติ และเคยถูกชาติอื่นย่ำยีและถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างสุดโหดมาหลายครั้ง
เมื่อกว่า 4,000 ปีก่อน ชาวอิสราเอล หรือชาวยิวหรือชาวฮิบรู ซึ่ง “เป็นชนเผ่าเซมิติก (Semitic)”ที่สืบเชื้อสายมาจากชาวเตมิโลเนียน เช่นเดียวกับชาวอาหรับ โดยชาวยิวเป็นชนเผ่าเร่ร่อนอยู่ในทะเลทรายอาหรับที่กว้างใหญ่ไพศาล
ต่อมาชาวยิวเกิดความ “มุ่งมั่น” จะเดินทางไปสู่ “แผ่นดินแห่งพระจันทร์เสี้ยวอันรุ่งเรือง (Fertile Cresent)” ที่ชาวยิวบอกกันต่อๆ ว่า “เป็นแผ่นดินที่พระเจ้าให้คำมั่นสัญญาว่าจะมอบให้แก่ชาวฮิบรู (Philistia)”
การเดินทางเพื่อไปตั้งถิ่นฐานใน “แผ่นดินแห่งคำมั่นสัญญาจากพระเจ้า (Philistia)” นั้น ชาวยิวได้เดินหลงทางล่วงล้ำเข้าไปในเขตแดนอียิปต์ ซึ่งเป็นอาณาจักรที่มีอารยธรรมเจริญรุ่งเรืองมาแล้วกว่า 1,500 ปีมีฟาโรห์ปกครองอาณาจักร ชาวยิวทั้งหมดจึงถูกจับเป็นทาสใช้งานหนักในการสร้างพีระมิด
“ชาวยิวเป็นทาสในอียิปต์ยาวนานถึง 430 ปี” แล้วก็มีผู้นำชื่อ “โมเสส” หรือ “โมเซ่”ในขณะที่มีวัย 80 ปี ได้เป็นผู้พาชาวยิวทั้งหมดหนีรอดจากอียิปต์ได้สำเร็จ แล้วเดินทางไปถึง“แผ่นดินสัญญาจากพระเจ้า” ซึ่งก็คือ “แผ่นดินปาเลสไตน์” นั่นเอง (ฮอลลีวู้ดได้สร้างเป็นหนังในเรื่อง บัญญัติ 10 ประการ)
หลังจาก “โมเสส” ได้พาชาวยิวสร้างเมืองอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์เป็นที่เรียบร้อย และได้ลาจากโลกนี้ไปอาณาจักรอิสราเอลก็มีกษัตริย์ที่เป็น “มหาบุรุษ” ทำการปกครองมาถึงสามพระองค์ ได้แก่
“กษัตริย์ซาอูร์ กษัตริย์ดาวิด และกษัตริย์โซโลมอน” (ฮอลลีวู้ดได้สร้างเป็นหนังทุกกษัตริย์) โดยเฉพาะกษัตริย์โซโลมอนในหนังเรื่อง “Solomon and Sheba” สร้างในปีค.ศ.1959 นำแสดงโดย ยูล บรีนเนอร์ เป็นหนังสุดดังไม่แพ้เรื่อง “บัญญัติ 10 ประการ”
หลังจากกษัตริย์ “โซโลมอน” สิ้นพระชนม์ อาณาจักรอิสราเอลในปาเลสไตน์ซึ่งขณะนั้นกว้างใหญ่กว่าปัจจุบันถึง 5 เท่า ก็แตกแยกเป็นสองประเทศ “ฝ่ายเหนือ” ยังเรียกตัวเองเป็นอาณาจักรอิสราเอล”ด้าน “ฝ่ายใต้” เรียกว่า “อาณาจักรยูดาห์” แล้วเกิดความขัดแย้ง “รบกันเอง” อย่างยาวนาน
ในที่สุด “อาณาจักรอิสราเอล” ก็ถูก “อัสซีเรียยึดครองในปี 730 ก่อนคริสต์ศตวรรษ” และ “อาณาจักรยูดาห์” ก็ถูก “อัสซีเรียยึดครองในปี 701 ก่อนคริสต์ศตวรรษ”
หลังจากนั้น “อัสซีเรียรบแพ้เปอร์เซีย ดินแดนยิวก็ตกเป็นของเปอร์เซีย และเป็นของอาณาจักรกรีก” ตามลำดับ จนถึง “ปีที่ 66 ก่อนคริสต์ศตวรรษโรมันก็ได้ครอบครองปาเลสไตน์แทนกรีก” แล้ว “โรมันได้ขับไล่ยิวทุกคนให้พ้นจากปาเลสไตน์”
นับแต่นั้นมา “ยิวทุกคนจึงกลายเป็นคนไร้ประเทศ” ต้องกระจัดกระจายไปทั่วตะวันออกกลาง กระจายไปทุกประเทศทั่วยุโรปและทั่วโลกในลำดับถัดมา
แม้จะสิ้นชาติไปกว่า 2,000 ปี “ยิวก็ยังรักษารากเหง้าแห่งความเป็นยิวไว้ได้อย่างเหนียวแน่นสุดอัศจรรย์”
ชาวยิวไร้ประเทศมายาวนาน แต่ชาวยิวจำนวนไม่น้อยในยุโรปและที่ยังมีถิ่นฐานอยู่ในตะวันออกกลาง ต่างใฝ่ฝันที่จะมี “แผ่นดินที่เป็นประเทศของตนเอง” โดยมีองค์กรไซออนิสต์ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1860 หาทางให้เป็นจริงตลอดมา จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2องค์กรไซออนิสต์ ได้แตะมือกับรัฐบาลอังกฤษและสหรัฐ ผลักดันให้เกิดประเทศอิสราเอลจนสำเร็จ โดยแผ่นดินดังกล่าวมีชาวอาหรับตั้งถิ่นฐานมายาวนานร่วม 2,000 ปีเช่นกัน
ดังนั้น ปัญหาแย่งแผ่นดินปาเลสไตน์ จึงกลายเป็น “ตำนานสงครามอมตะ” ที่ “จบไม่ได้”
สงครามยิว - ฮามาส ตั้งแต่เดือนตุลาคม ค.ศ.2023 รบกันมาจนถึงวันนี้ คือ “สงครามล่าสุด”
ตลอด 4,000 ปีของประวัติศาสตร์ยิว ไม่เคยมีครั้งใด ยิวเคยปฏิบัติการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”กับชาติใด แม้ยิวจะถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นประจำ ตั้งแต่ฝีมือฟาร์โรห์ ฝีมือโรมัน ฝีมือชาติต่างๆ ในยุโรปและครั้งรายแรกที่สุด คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดจากนาซีที่ฆ่ายิวในยุโรปตายไปกว่า 6 ล้านคน ในสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่วันนี้ จู่ๆ วิญญาณโหดของฮิตเลอร์ กลับเข้าสิงผู้นำยิวทำให้กองทัพยิวเริ่มฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ดินแดนฉนวนกาซาอย่าง สุดเหลือเชื่อ”?
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี