วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
คนเราเมื่อบ้าอำนาจมากๆ ก็จะขาดสติ แล้วเมื่อขาดสติ ก็จะยิ่งบ้าอำนาจไปเรื่อยๆจนสุดท้ายต้องหมดอำนาจ แล้วต้องร่อนเร่พเนจร เป็นสัมภเวสี เป็นผีไม่มีที่สิง ต้องพลัดที่นา คาที่อยู่ ต้องร้องแรกแหกกระเชอว่า ต้องการกลับบ้าน ต้องการกลับมาเลี้ยงหลาน พลางตะโกนว่า แก่แล้วไม่ยุ่งกับการเมืองอีกแล้ว ต้องการกลับมาใช้ชีวิตสงบแล้วเลี้ยงหลานที่มีเป็นฝูง
แล้วครั้นเมื่อคนบ้าอำนาจได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน หลังจากต้องหนีคดีอาญา จนพลัดบ้านพลัดเมืองไปเกือบ 20 ปี โดยเป็นการกลับบ้านแบบมีข้อตกลงพิเศษ ซึ่งหลายคนเรียกว่า helly deal หรือดีลนรกแต่เมื่อกลับมาได้แล้วก็ยังคงแสดงพฤติกรรมกร่าง บ้าอำนาจ เหลิงอำนาจไม่ต่างจากเดิมจนทำให้มีผู้รับรองว่าอีกไม่นาน คนบ้าอำนาจก็จะต้องพลัดบ้านพลัดเมืองอีก แล้วหากต้องพลัดพรากในครั้งนี้ ก็จะไม่มีโอกาสกลับบ้านเกิดเมืองนอนโดยยังมีลมหายใจ
อำนาจเป็นสิ่งเสพติดชั้นเยี่ยมสำหรับคนบ้าอำนาจผู้ขาดสติ แต่สำหรับคนมีสติ มีความยั้งคิด จะรู้ตัวเสมอว่าจะต้องใช้อำนาจในระดับใด ใช้แค่ไหน แล้วเมื่อไรต้องหยุดใช้อำนาจแบบสุ่มเสี่ยง เพราะอำนาจนั้น หากใช้โดยขาดสติ ก็เหมือนกับการอยู่ร่วมกับอสรพิษที่มีพิษสงร้ายกาจอย่างยิ่งยวด การอยู่กับงูพิษหลายร้อยหลายพันตัว ก็ย่อมเสี่ยงกับพิษของงูอย่างมหันต์ ดังนั้น เมื่อเหลิงอำนาจ ก็ต้องตายเพราะพิษงู ฉันใดก็ฉันนั้น คนบ้าอำนาจที่เหลิงอำนาจ ใช้อำนาจโดยขาดสติ ไม่บันยะบันยังก็จะต้องตายเพราะใช้อำนาจผิดพลาด เนื่องจากคนบ้าอำนาจมักหลงคิดเข้าข้างตัวเองว่า ตนมีอำนาจเหนือกว่าใครๆ ทั้งปฐพี แต่ลืมไปว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า และยังมีคนมีอำนาจเหนือกว่าตนเอง
การเสพติดอำนาจแบบคนบ้าอำนาจผู้ขาดสติ คือหนทางแห่งความพินาศฉิบหาย นำมาซึ่งหายนะที่สุดแสนสาหัสต่อผู้บ้าอำนาจ แต่ก็เป็นเรื่องเข้าใจได้สำหรับคนที่เคยมีอำนาจมาก่อน แล้ววันหนึ่งต้องกระเด็นตกจากอำนาจไปเกือบ 20 ปี แล้วเมื่อกลับมาได้ แทนที่จะเกิดความสำนึกสำเหนียก แต่ก็กลับเหลิงอำนาจเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น จุดจบของชีวิตจึงไม่สวย และจุดจบครั้งใหม่จะยิ่งทรมานทรกรรมหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าเดิมหลายสิบหลายร้อยเท่า
ความทะยานอยาก ความกระหายอำนาจ ความโลภและตะกละในอำนาจ คือหนทางแห่งความวิบัติฉิบหาย และก็เป็นความจริงที่คนบ้าอำนาจทุกคนต้องประสบกับความฉิบหายไปแล้ว แต่แม้คนมีอำนาจทุกคนจะรู้และเข้าใจในเรื่องนี้ดี แต่ก็ยังคงมีคนบ้าอำนาจรายแล้วรายเล่า โดยเฉพาะคนตะกละอำนาจต้องได้พบกับวิบัติฉิบหายทุกรายไป
สาธารณชนผู้มีสติกำลังเฝ้ารอดูกันว่าวันใดผู้เฒ่าเลี้ยงแกะ ผู้ตะกละหิวกระหายอำนาจจะต้องประสบกับความหายนะครั้งใหม่ ซึ่งจะสาหัสและรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่าในเมื่อผู้เฒ่าเลี้ยงแกะต้องการพาน้องสาวกลับบ้านแบบเท่ๆ แล้วดันให้ลูกสาวขึ้นไปมีอำนาจรัฐ โดยลืมคิดไปว่าลูกสาวคือมะม่วงเร่งบ่ม โดยที่มะม่วงนั้นเป็นมะม่วงเน่ามาตั้งแต่ต้น การเดินเกมด้วยหนทางแห่งการบ้าอำนาจคือตัวเร่งให้เกิดความวิบัติกับผู้เฒ่าเลี้ยงแกะ และญาติพงศ์วงศาทั่วหน้ากัน
สาธารณชนควรจะร่วมกันแผ่เมตตาให้ หรือว่าต้องร่วมกันสาปแช่งผู้เฒ่าเลี้ยงแกะ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสังคมจะแผ่เมตตาให้ หรือจะสาปแช่งก็ตาม แต่หากผู้เฒ่าเลี้ยงแกะยังพยายามจะลากตัวเองไปลงนรกอเวจี ก็คงไม่มีใครลากผู้เฒ่าเลี้ยงแกะกลับขึ้นมาให้พ้นจากนรกอเวจีได้ เพราะผู้เฒ่าเลี้ยงแกะมีจุดจบอยู่ในอเวจี โดยไม่มีทางเลี่ยงอื่นอีกแล้ว ทั้งหมดทั้งปวงนี้ ล้วนมาจากพฤติกรรมตะกละอำนาจของตนเองโดยแท้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี