“อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” ออกมาพูดเรื่องบิดาของเธอกับคดีมาตรา112..เมื่อวันเสาร์ที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา..ฟังแล้วยิ่งพูดยิ่งพังไม่เป็นผลดีต่อนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตรเลยแม้แต่น้อย..ถือว่าไม่เป็นคุณกลับมีแต่โทษ
เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่“พ่อเข็น”..เนื่องจากเป็นดีเอ็นเอสืบทอดอำนาจทางการเมืองโดยตรงของ“ทักษิณ ชินวัตร”คนนี้..สติปัญญา“กลวงโบ๋”และยังอ่อนด้อยอ่อนหัด--ไม่ประสีประสาในทางการเมือง
ถ้าหากในวันหน้าเธอได้เป็นนายกรัฐมนตรีขึ้นมาจริงๆและก็มีโอกาสมากด้วย..เพราะยังมีคนไทยถึงสิบล้านคนหลงเชื่อพรรคไทยดูจากคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ที่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งจำนวน 10.9ล้านเสียง เลือกสส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย—ถึงวันนั้น..คงพูดได้คำเดียวว่า“จบเห่ประเทศไทย”
“แพทองธาร ชินวัตร”แยกแยะไม่ออกระหว่างความเป็นผู้นำพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำพรรรคร่วมรัฐบาล..กับการเป็น“ลูกคุณหนู”ที่เติบโตมาบนกองเงินกองทองของบิดา..โดยบางส่วนก็เป็นเงินที่ได้มาจากการที่ทำให้บิดาของเธอต้องกลายเป็นนักโทษเด็ดขาดคดีโกงบ้านกินเมืองอยู่จนทุกวันนี้
“จริงๆ คุณพ่อก็ไม่ได้กังวลในเรื่องนี้มาก” แพทองธาร ชินวัตรกล่าวกับผู้สื่อข่าวและว่า “เพราะคดีนี้เกิดขึ้นตอนที่มีปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาลยิ่งลักษณ์ชินวัตร..ซึ่งอัยการสูงสุดในขณะนั้น ถูกแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)”
อ่านระหว่างบรรทัดที่“แพทองธาร ชินวัตร”พูดคงแปลความหมายเป็นอย่างอื่นไม่ได้..นอกจากหมายถึงบิดาของเธอถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองและก็เป็นสูตรสำเร็จของนักการเมืองพรรคเพื่อไทย..ซึ่งถ้าหากเรื่องใดที่ไม่เป็นคุณกับตน ก็จะท่อง“คาถา”บทเดียวกันว่า—ถูกกลั่นแกล้งและถูกยัดความผิด
หรือแม้แต่นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง..ที่เคยพูดถึงโทษทัณฑ์ในคดีทุจริตประพฤติมิชอบที่ตนเ
องต้องตกเป็นนักโทษอยู่ทุกวันนี้โดยให้สัมภาษณ์ที่จังหวัดเชียงใหม่..ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา..เรื่องการกลับประเทศไทยของน้องสาว คือ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ว่า..“คดีของนายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ซับซ้อนเหมือนผม ของผมเขายัดให้เยอะของนายกฯยิ่งลักษณ์มีคดีเดียว”
นี้คือดีเอ็นเอเดียวกันของ“พ่อลูกคู่นี้”..และแพร่เชื้อเข้าสู่กระแสเลือดของนักการเมืองพรรคเพื่อไทย เช่นที่“โคลงโลกนิติ”เขียนไว้ว่า“โทษท่านผู้อื่นเพี้ยง..เมล็ดงาฯ”..คือความผิดของตนใหญ่หลวงแค่ไหนกลับ(แกล้ง)มองไม่เห็น..แต่โยนความผิดไปให้ผู้อื่น
“ทักษิณ ชินวัตร”กล่าวคำเท็จเพื่อบิดเบือนให้มวลชนคนเสื้อแดงหลงเชื่อทั้งที่ตอนทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยลดโทษจนได้รับพระมหากรุณาธิคุณทรงพระราชทานอภัยลดโทษให้จาก 8 ปี เหลือเพียง 1ปี..ทักษิณเองเป็นคนยอมรับผิดว่าตนเองทุจริตประพฤติมิชอบในทุกคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาตัดสิน
ดังข้อความที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา “พระราชทานอภัยลดโทษ” ลงวันที่ 1กันยายน 2566 ว่า..“ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิดจึงขอรับโทษตามคำพิพากษาฯ”
ดังนั้น การที่“อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร”ให้สัมภาษณ์ว่า..คดีมาตรา 112 ของบิดาเธอเกิดขึ้นในช่วงการยึดอำนาจของ คสช.เมื่อปี 2557 และถูกสั่งฟ้องในปี 2559เพราะอัยการสูงสุดในขณะนั้น (ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร) ถูกแต่งตั้งโดยคสช.—อุ๊งอิ๊ง จะโดยบิดเบือนหรือเพราะด้อยปัญญามิอาจทราบได้แต่เธอพูดผิดอยู่สองประเด็น
ผิดแรกคือ..สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่ใช้อำนาจกึ่งตุลาการซึ่งตำแหน่งอัยการสูงสุดจะเริ่มจาก..ขั้นตอนแรก ประธานคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) จะเป็นผู้เสนอชื่อของผู้สมควรดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด โดยคํานึงถึงอาวุโสความรู้ความสามารถ ความรับผิดชอบ ประวัติ การปฏิบัติราชการและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลนั้น ต่อ ก.อ.
และเมื่อ ก.อ.หรือคณะกรรมการอัยการมีมติเห็นชอบ..ทางสำนักงานอัยการสูงสุดก็จะเสนอชื่อบุคคลผู้นั้นไปยังวุฒิสภา(สว.)เพื่อขอความเห็นชอบโดยประธานวุฒิสภาเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ในประเด็นนี้—เชื่อว่าปัญญาความรอบรู้ของ“อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร”หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย..น่าจะไม่มีเพราะการที่เธอเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้รวมทั้งเป็นแคนดิเดตนายกฯ..ก็เนื่องจากเธอเป็นทายาทในสายเลือดของ“ทักษิณ ชินวัตร”เจ้าของคอกเพื่อไทย..หาใช่เพราะมีสติปัญญาและความรอบรู้แต่อย่างใด
เมื่อเธอไม่รู้ จึงทำให้เกิด“ผิดที่สอง”..คือโยนความผิดเป็นการใส่ความไปที่ คสช.อันเป็นสูตรสำเร็จของนักการเมืองพรรคเพื่อไทย..ประเภท“วัวสันหลังหวะ”ที่ทั้งเกลียดกลัวและอาฆาตแค้นกับการรัฐประหารโดยที่ไม่ได้ส่องกระจกดูตนเองว่า..เพราะคอร์รัปชันโกงกินกันจน“ปากมันเยิ้ม”ชนิดที่ไม่รู้จักอิ่ม จึงต้องถูกโค่นลงจากอำนาจถึงสองครั้ง..คือรัฐบาลพรรคไทยรักไทย (ปี2549) และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย (ปี 2557)
ดีแล้วที่“อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร”กล่าวกับสื่อโดยอ้างคำพูดของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตรผู้เป็นบิดาว่า..“การขึ้นศาลก็ดีเหมือนกัน เพราะจะได้พูดถึงข้อเท็จจริงได้”
คุณหนูอุ๊งอิ๊งและนักการเมืองพรรคเพื่อไทยที่มีเธอเป็นหัวหน้าพรรค..จงจำใส่กะโหลกไว้ด้วยว่าเมื่อบิดาของเธอได้ให้การต่อศาลโดยใช้“ข้อเท็จจริง”ทุกถ้อยกระทงความแล้วไม่ว่าผลการพิพากษาตัดสินของศาลจะออกมาเป็นประการใด
เธอและนักการเมืองพรรคเพื่อไทยทุกคนจะต้องยอมรับ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี