ดร.วิษณุ เครืองาม นั้นอยู่ดีไม่ว่าดี..จะด้วยเหตุจูงใจอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ต้องตระบัดสัตย์..ยอมรับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีให้แก่นายเศรษฐา ทวีสิน
บางคนว่าลงจาก“เรือแป๊ะ”ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนขึ้นฝั่งไปแล้วโดยสวัสดิภาพ..แต่จู่ๆ ก็หวนกลับมาลงเรือ“โจร”ให้เสียคนในตอนแก่อีก
อันที่จริงปฐมเหตุที่ทำให้ ดร.วิษณุ เครืองาม แจ้งเกิดทางการเมือง..จากอาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ แล้วย้ายโอนข้ามฟากมาเป็นรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในปี 2534..จนขึ้นเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในเวลาต่อมา..กระทั่งก้าวขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยของ“ทักษิณ ชินวัตร” ในปี 2545 ..และยาวมาจนถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น..ก็เพราะรับใช้ใกล้ชิดกับ“ยุทธจักรสีเขียว”
เริ่มแจ้งเกิดจากรายการ“สนทนาปัญหาบ้านเมือง”ในปี 2524 หลังเหตุการณ์“กบฏเมษาฮาวาย” หรือ“กบฏยังเติร์ก”..ที่ผู้ก่อการซึ่งเป็นนายทหารระดับผู้การกรมและผู้บังคับกองพัน นำโดย “จปร.รุ่น 7”..โดยมี พ.อ.มนูญรูปขจร (เปลี่ยนชื่อเป็น‘มนูญกฤต’) และ พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร เป็นหัวขบวน..พยายามก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ระหว่างวันที่ 1- 3 เมษายน 2524..แต่ไม่ประสบความสำเร็จต้องกลายเป็น“กบฏ”
พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ซึ่งเวลานั้นเป็นรองแม่ทัพภาค 2..ถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการปราบกบฏจนสำเร็จ.. และได้รับการปูนบำเหน็จเป็นแม่ทัพภาค 1 และผู้บัญชาการทหารบกในเวลาต่อมา..ด้วยระยะเวลาเพียง 1 ปี กับ 6 เดือน ซึ่ง พล.อ.อาทิตย์ หรือ“บิ๊กซัน”ผู้มากบารมีใน พ.ศ.นั้น..คือผู้ริเริ่มให้มีรายการ“สนทนาปัญหาบ้านเมือง”..ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 5 และช่อง 7 มี ดร.วิษณุ เครืองาม เป็นพิธีกร
รายการนี้เป็นรายการสนทนาเชิงข่าว..ประเภทสนทนาแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเหตุการณ์ หรือประเด็นปัญหาต่างๆ ในสังคมที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางออกให้แก่บ้านเมือง..รวมทั้งสร้างความเข้าใจระหว่างกองทัพกับประชาชน—จึงทำให้“ดร.วิษณุ เครืองาม” ฉายประกายแวววาวขึ้นมานับแต่บัดนั้น..และในปี 2535 ยังเคยรักษาการตำแหน่งโฆษกของรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร อีกด้วย
ตามปกติในอดีตที่ผ่านมานั้น..ทุกรัฐบาลจะต้องมีรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯฝ่ายกฎหมาย..ที่เจนจบครบเครื่อง ซึ่งต้องรอบรู้และมีประสบการณ์เกี่ยวกับกฎหมายมหาชน..ตลอดจนกฎหมาย, กฎกระทรวง, คำสั่ง และระเบียบ..อันเป็นเรื่องเฉพาะของแต่ละ“กระทรวง-กรม-กอง”
รัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์, พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ, นายอานันท์ ปันยาชุน และ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ได้นายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นมือกฎหมาย..หรือสมัยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และนายบรรหาร ศิลปอาชา..มีนายโภคิน พลกุล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯฝ่ายกฎหมาย เป็นต้น
แต่ทั้งหมดที่ว่ามา ก็ไม่มีใครเกินนายมีชัย ฤชุพันธ์ และดร.วิษณุ เครืองาม สอง“เนติบริกร” ที่รัฐบาลไหนก็ต้องการได้ตัวมาไว้ใช้งาน
สำหรับรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน..หากนายพิชิต ชื่นบาน ไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ..และเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องกฏหมายให้แก่รัฐบาลต่อไปได้..ก็ถือว่ามือยังไม่ถึง..และอาจจะทำให้รัฐบาลพลาดท่ากลายเป็นปลาตายน้ำตื้นได้ง่ายๆ
พรรคเพื่อไทยที่ชูคำขวัญว่า“คิดใหญ่ ทำเป็น”นั้น..เอาเข้าจริงขาดมือกฎหมายที่มีความเจนจบ..และการที่ ดร.วิษณุ เครืองาม ยอมรับลง“เรือโจร”ด้วย..ก็เพราะนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร..ไม่ใช่ใครที่ไหนอื่น--เป็นเรื่องของ“บุญคุณต้องทดแทน”
เพราะในอดีตนั้น..ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เคยช่วยเหลือครอบครัว“เครืองาม”มาไม่น้อย..สามารถยืนยันได้จากหนังสือ“โลกนี้คือละคร”..ที่ ดร.วิษณุเล่าเป็นบันทึกเอาไว้เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตในวังวนการเมือง
การเข้ารับตำแหน่ง“ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี”..โดยปฏิเสธไม่รับตำแหน่งรองนายกฯหรือรัฐมนตรี ของ ดร.วิษณุ เครืองาม ครั้งนี้..อาจจะจบไม่สวย และทำให้เสียคนตอนแก่..เพราะอย่างน้อยก็ทำให้สังคมเกิดข้อกังขา..ดังที่ ดร.วิษณุชี้แจงว่า..“ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวเกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สิน”..ซึ่งการที่ ดร.วิษณุไม่อยากยื่น เป็นเพราะ“มีเงินก้อนโต”งอกเพิ่มขึ้นมาใหม่หรืออย่างไร ?
ประเด็นนี้ นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ไปแล้วเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา..ให้สอบสวน ดร.วิษณุ เครืองาม ว่าส่อร่ำรวยผิดปกติหรือไม่..ตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกฯสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร จนถึงสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา..อันสืบเนื่องมาจาก ดร.วิษณุแจ้งบัญชีทรัพย์สินเมื่อคราวพ้นตำแหน่งไว้ที่ ป.ป.ช. จำนวน 118 ล้านบาทเศษ
ทีนี้ก็ยาวเลย-ถ้าหาก ป.ป.ช.ตรวจสอบพบว่า..บัญชีทรัพย์สินของ ดร.วิษณุ เครืองาม มีงอกขึ้นมาจริง..จะกี่บาทกี่สตางค์ก็แล้วแต่-คุกสถานเดียว
แต่จะอย่างไรก็ตาม..ดังที่ ดร.วิษณุ เครืองาม ยกคำพระมาตอบผู้สื่อข่าวถึงกรณีการกลับเข้าสู่แวดวงการเมืองอีกครั้ง..หลังเคยประกาศวางมือทางการเมืองว่า..."สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง นาญโญ อัญญัง วิโสธเย :บริสุทธิ์ หรือ ไม่บริสุทธิ์ใจ ย่อมรู้แก่ตัวเอง"
โชคดีครับอาจารย์—ขอฝากไว้เป็นข้อคิด..”คบคนพาล..พาลพาไปหาผิด..คบบัณฑิต..บัณฑิตพาไปหาผล” !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี