วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
สหรัฐอเมริกาซึ่งให้ความสำคัญสูงสุดต่อเวียดนาม ด้านหุ้นส่วนยุทธ์ศาสตร์ อินโด-แปซิฟิก สนองตอบต่อกรณีประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน เยือนเวียดนามเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน โดยการยืนยันว่า วอชิงตันยังคงแสวงหาความสัมพันธ์แนบแน่นกับฮานอยเพื่อต่อต้านจีนคู่ปรับสำคัญ
สำนักข่าวเอพี รายงานว่าหนึ่งวันหลังทำข้อตกลงความมั่นคงร่วมกันกับเกาหลีเหนือ ปูตินได้รับเกียรติสูงสุด ในฐานะประมุขรัฐ เมื่อเวียดนาม ยิงสลุต 21 นัด ต้อนรับในฮานอย ที่ปูตินกล่าวว่า “เขาต้องการ สร้างสถาปัตย์ความมั่นคงที่ไว้ใจได้ในภูมิภาคนี้”
การเยือนสองประเทศในเอเชีย ถูกมองว่าเป็นการท้าทายมาตรการแซงก์ชั่นของสหรัฐและตะวันตก เมื่อเวียดนามต้อนรับเขาอย่างยิ่งใหญ่ทำให้วอชิงตันควันออกหูกล่าวว่าผู้นำรัสเซียไม่ควรได้รับโอกาสบนเวทีไหนที่ใช้ปกป้องการสงครามรุกรานยูเครน
โฆษกที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว จอห์น เคอร์บี้ ถูกสื่อมวลชนถามว่า ปูตินไปขอให้เวียดนามสนับสนุนสงครามในยูเครนหรือไม่ และวอชิงตันคิดว่าฮานอยยังยึดมั่นหลักการยูเอนในประเด็นที่เคารพบูรณภาพแห่งดินแดนไหม?
เคอร์บี้ เน้นว่า “สหรัฐยกระดับความสัมพันธ์กับเวียดนามเมื่อปีกลาย เราโฟกัสที่ความสัมพันธ์แนบแน่นในวงกว้างและทำให้ดีขึ้นในสิ่งมีผลประโยชน์ร่วมกันในภูมิภาค” และไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นวอชิงตันประกาศว่าจะส่ง แดเนียล คริเตนบริ่งนักการทูตระดับสูงสำหรับเอเชียตะวันออก ไปเวียดนามวันศุกร์และวันเสาร์เพื่อไปยืนยันว่า วอชิงตันยังยึดมั่นในหลักการ “ฟรีและเปิดกว้างในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก”
สหรัฐซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของเวียดนามที่กระทรวงต่างประเทศระบุว่าคริเตนบริ่ง จะเน้นย้ำ “การสนับสนุนอย่างมั่นคงในความเป็นอิสระ ยืดหยุ่นและเน้นย้ำถึงการยึดมั่นของสหรัฐในการปฏิบัติจริงประเด็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ครอบคลุมของสหรัฐ-เวียดนาม”
รัสเซียกับเวียดนาม ได้ลงนามในข้อตกลงต่างๆ รวมทั้งด้านพลังงาน เน้นย้ำถึงความพยายามปักหมุดเอเชีย หลังจากสหรัฐและตะวันตกแซงชั่นรัสเซียพยายามกดดันให้รัสเซียโดดเดี่ยว จากนานาชาติจากประเด็นขัดแย้งในยูเครน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สหรัฐกังวลเรื่องที่เวียดนามต้อนรับปูตินอย่างยิ่งใหญ่ แต่นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า ทางฮานอยดีดลูกคิดรางแก้วแล้วเชื่อว่าการให้ความสำคัญกับรัสเซียจะไม่กระทบความสัมพันธ์กับสหรัฐมากนัก ด้วยความเชื่อที่ว่า สหรัฐยังต้องพึ่งพาความสัมพันธ์กับเวียดนามในการเผชิญหน้ากับคู่ปรับจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และนโยบายไผ่ลู่ลมของเวียดนามทำให้มหาอำนาจที่ขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ทั้ง สหรัฐ จีน และรัสเซีย ยังให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนาม ปี 2013 นายเหวียนฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้มีโอกาสต้อนรับประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง บางที ปูติน อาจเป็นหนึ่งในความพลิ้วของไผ่ลู่ลมเวียดนามถึงเชิญผู้นำรัสเซียที่สหรัฐพยายามโดดเดี่ยวมาเยือน
“อย่างไรก็ตาม ฮานอยยังต้องคอยดูการตัดสินใจสำคัญของสหรัฐที่จะมีขึ้นวันที่ 26 ก.ค.ว่าจะยกระดับสถานะตลาดเศรษฐกิจกับเวียดนามหรือไม่”อเล็กซานเดอร์ วูวิ่ง ผู้เชี่ยวชาญเวียดนามและเอเชียแห่งศูนย์เอเชีย-แปซิฟิกศึกษา กล่าวว่า การต้อนรับปูตินถ้าจะมีกระทบบ้างอาจเป็นทางด้านการค้าเนื่องจากสหรัฐมักใช้สิทธิพิเศษทางการค้าเป็นเงื่อนไขการต่อรอง..
“ผมคิดว่า การเยือนของปูตินทำให้เวียดนามไว้ใจได้น้อยลงในสายตาของสหรัฐ มันอาจมีผลทางในการตัดสินใจของอเมริกา” เขากล่าว และอธิบายว่าการยกระดับการค้าที่ฮานอยใฝ่หาอาจถูกต่อต้านโดยผู้ผลิตในเหล็กอเมริกา ผู้ผลิตกุ้งสดในอ่าวไทย และผู้ผลิตน้ำผึ้ง เวียดนามอาจกระทบหากสหรัฐใช้มาตรการทางการค้า
ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์รัฐมนตรีคลัง เจเน็ต เยลเลน ไม่ได้ตอบคำถามที่ว่า ความสัมพันธ์ที่แน่นขึ้นของเวียดนามกับรัสเซียจะกระทบต่อการตัดสินใจของกระทรวงพาณิชย์ในการยกระดับการค้ากับเวียดนามหรือไม่ เธอกล่าวว่า วอชิงตันกับเวียดนามมีความพยายามร่วมกันหลากหลาย ด้านซัพพลายเชนและลดการพึ่งพาจากจีน เธอกล่าวเสริมว่า การยกระดับหุ้นส่วนไม่จำเป็นให้เวียดนามตัดความสัมพันธ์กับจีนหรือรัสเซีย และเวียดนามมีนโยบายทำงานร่วมกันหลากหลายกับหลายประเทศ
กระทรวงการคลังซึ่งจัดให้เวียดนามอยู่ในบัญชีต้องจับตาพิเศษประเด็นปฏิบัติการทางการเงิน กล่าวว่า พึงพอใจในความคืบหน้าของเวียดนามและยังคงประสานงานกับธนาคารกลางอย่างใกล้ชิดในการรายงานกึ่งทางการของตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม กระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า เวียดนามซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนในสี่ไตรมาสตลอดปี 2023 มูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.5% ของ จีดีพีต่ำกว่า 2% เส้นแบ่งสำหรับการกำหนดค่าเงิน กระทรวงการคลัง แถลงด้วยว่า สถิติการค้าทวิภาคีกับสหรัฐเวียดนามได้ดุลการค้า 103 พันล้านดอลลาร์
เป็นธรรมชาติของสหรัฐที่มักใช้สิทธิพิเศษทางการค้าเป็นเงื่อนไขในการกดดันให้ประเทศกำลังพัฒนาเลือกข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนามที่ได้ดุลการค้าสหรัฐ 103 พันล้านดอลลาร์ อาจเป็นเงื่อนให้วอชิงตันกดดันให้เลือกข้าง แต่หากมองจากสถานการณ์เป็นจริงในปัจจุบันจะพบว่า มาตรการแซงก์ชั่นทางเศรษฐกิจการค้าและการเมืองที่สหรัฐใช้กับรัสเซีย แทบไม่ได้ผลในทางปฏิบัติ
ในยุคที่สหรัฐ ไม่ได้เป็นมหาอำนาจโลกเพียงชาติเดียว ประเทศต่างๆ มีทางเลือกเศรษฐกิจหลากหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประธานาธิบดีปูตินประธานกลุ่ม Brics ที่กำลังเติบใหญ่เกินความสามารถของอเมริกาและตะวันตกจะโดดเดี่ยวรัสเซียได้ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและความมั่นคง
ประธานาธิบดีปูตินเยือนเกาหลีเหนือ และเวียดนาม เป็นสัญญาณชัยชนะทางทูตต่ออเมริกานั้น เป็นเพียงภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ออกมาให้นานาชาติเห็นว่า มาตรการของอเมริกาใช้ไม่ได้ในยุคที่มีมหาอำนาจหลายขั้ว นอกจากเกาหลีเหนือ กับ เวียดนามแล้ว ยังมีอีกกว่า 40 ประเทศสมาชิก และชาติต่างๆที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มบริกส์ ที่พร้อมจะร่วมหัวจมท้ายทางเศรษฐกิจ การค้า การเมือง และความมั่นคงกับรัสเซีย
ในเดือนต.ค. 2024 รัสเซียจะเป็นเจ้าภาพในการประชุมสุดยอด Brics ประจำปีที่เมืองคาซาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวว่า เขาจะใช้การดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มบริกส์ในครั้งนี้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์3 ประการคือ
• เพิ่มบทบาทของกลุ่มบริกส์ในเวทีการเงินระหว่างประเทศ
• พัฒนาความร่วมมือระหว่างภาคธนาคารและขยายการใช้เงินสกุลท้องถิ่นของสมาชิกกลุ่มบริกส์
• ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านสรรพากร (ภาษี) และศุลกากร
ปี 2549 การรวมตัวอย่างไม่เป็นทางการของ 4 ประเทศ ได้แก่ บราซิล (Brazil) รัสเซีย (Russia) อินเดีย (India) และจีน (China) 4 ประเทศ ซึ่งเป็นเจ้าของตัวย่อของชื่อกลุ่ม BRIC ในปี 2553 ประเทศแอฟริกาใต้ (South Africa) เข้าร่วมจึงมีตัว S เติมเข้าไป จากนั้นเมื่อต้นปี 2567 อียิปต์ เอธิโอเปีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน ได้รับการตอบรับเข้าร่วมกลุ่มเพิ่มเติม ทำให้ปัจจุบันกลุ่ม BRICS มีสมาชิกรวม 10 ประเทศและในปัจจุบันมีประเทศต่างๆ ต้องการเข้าร่วมกลุ่มมากกว่า40 ประเทศ
ดังนั้นในเดือนตุลาคมนี้จะมีเครือข่ายบริกส์ หลายสิบประเทศเดินทางไปร่วมประชุมกับ ปูติน ซึ่งสวนทางกับความพยายามโดดเดี่ยว ปูติน ของสหรัฐและตะวันตก
สุทิน วรรณบวร

‘กมธ.ต่างประเทศ’ยกคณะฯล่องใต้ หนุน‘ภูเก็ต’เมืองต้นแบบมรดกโลก
ผู้ปกครองต้องตั้งสติ! 'หมอเด็ก'แนะวิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อ'ลูก'มีไข้สูง-ชัก
สวรรค์เปิดฟ้า ตื่นตา!เมฆสีรุ้งเหนือกว๊านพะเยา
‘ในหลวง-พระราชินี’ทอดพระเนตร การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ รอบปฐมทัศน์ ตอน‘สัตยาพาลี’ สืบสานพระราชปณิธาน‘พระพันปีหลวง’
5 ทศวรรษ รอยพระบาทที่ยาตรา พระราชกรณียกิจใน 'สมเด็จพระพันปีหลวง' ณ คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี