วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / อ่านระหว่างบรรทัด
อ่านระหว่างบรรทัด

อ่านระหว่างบรรทัด

สันติสุข มะโรงศรี
วันจันทร์ ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ไม่น่าจะทันปีนี้ ปีหน้าว่ากันใหม่?

ดูทั้งหมด

  •  

โครงการ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ถูกชะลอไว้ก่อน


ล่าสุด กำลังจะถูกทบทวน ว่าจะไปต่อ หรือพอแค่นี้? หรือจะมีมาตรการเสริมเพิ่มอะไร อย่างไรอีก?

1.เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลยอมฟังเสียงท้วงติง วิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน

โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง หากแม้นจะมีเจตนาดี แต่ก็มีจุดอ่อนที่เป็นปัญหาจริงๆ

และประการสำคัญ ชาวนาจำนวนมากมองว่า การให้ชาวนาต้องออกเงินครึ่งหนึ่งเพื่อซื้อปุ๋ยตามเมนูที่ภาครัฐคัดมาให้นั้น ไม่ตอบโจทย์ ชาวนาอยากได้เงินสดเข้าบัญชีแบบโครงการไร่ละพันยุคลุงตู่มากกว่า

ชาวนาจำนวนมาก ระบุว่า อยากได้โครงการไร่ละ 1,000 บาทมากกว่า เพราะสามารถนำเงินที่รัฐบาลให้มานำไปบริหารจัดการต้นทุนได้เอง แต่หากเป็นโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ชาวนาต้องหาเงินมาจ่ายค่าปุ๋ยครึ่งหนึ่ง ซึ่งชาวนาบางคนอาจจะไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อปุ๋ยได้ อยากให้รัฐบาลทบทวนนโยบายนี้

2.ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ย้ำว่า

“โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เป็นโครงการที่จะนำไปสู่โครงการปุ๋ยแม่นยำ เพื่อใช้ปุ๋ยให้ถูกสูตร ถูกที่ ถูกเวลาเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น

โดยโครงการปุ๋ยคนละครึ่งนี้ เป็นคนละโครงการกับโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท จึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดการประชุมเพื่อหารือโครงการปุ๋ยคนละครึ่งเพิ่มเติมต่อไป…”

3.ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2567 นายประยูรอินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยความคืบหน้า “โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง” ระบุว่า

ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวระดับประเทศครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2567 และคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต วันที่ 19 ก.ค.2567 ได้ร่วมพิจารณารายละเอียด ข้อเสนอแนะ ข้อสังเกตที่รับทราบ และรวบรวมความเห็นจากทุกฝ่าย

ได้พิจารณาอย่างรอบด้านให้สอดคล้องกับสถานการณ์และช่วงเวลา ณ ปัจจุบันของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ซึ่งพบว่าปัจจุบันมีเกษตรกรปลูกข้าวและขึ้นทะเบียนเกษตรกร ปี 2567/68 กับกรมส่งเสริมการเกษตรไปแล้วจำนวน 2.91 ล้านครัวเรือน พื้นที่ 39.60 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 63.23 ของพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด

โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ได้ใส่ปุ๋ยในนาข้าวไปแล้ว

ประกอบกับข้อมูลที่ได้รับจากเกษตรกรส่วนใหญ่มีข้อจำกัดในเรื่องเงินสมทบที่จะต้องนำเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามเงื่อนไขโครงการ

รวมทั้งกลไกดำเนินงาน โดยเฉพาะสหกรณ์ที่ต้องทำหน้าที่เป็นจุดกระจายปุ๋ยสู่เกษตรกร พบว่าสหกรณ์ที่สมัครเข้าร่วมโครงการไม่ครอบคลุมทุกจังหวัด และมีข้อจำกัดที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจปกติของสหกรณ์ในการจำหน่ายปุ๋ยของสหกรณ์เอง

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเกษตรกรที่จะเสนอขอเข้าร่วมเป็นจุดกระจายปุ๋ยสู่เกษตรกร แต่ไม่มีกำหนดไว้ในแนวทางของคู่มือปฏิบัติ จึงไม่สามารถเข้าร่วมและดูแลสมาชิกกลุ่มเกษตรกรได้

“...ดังนั้น จากข้อจำกัดและข้อเสนอแนะที่ได้จากการประชุมข้างต้น ประกอบกับระยะเวลาเพาะปลูกข้าวที่ได้ล่วงเลยมานานพอสมควรแล้ว และเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างแท้จริงในฤดูเพาะปลูกปีถัดไป ที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต จึงดำเนินการเสนอข้อคิดเห็นตามมติที่ประชุม เพื่อเร่งทบทวนโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2567/68 นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในลำดับต่อไป”

4. ปีนี้ ไม่น่าจะทัน ปีหน้าว่ากันใหม่?

จากข้อมูลข้างต้น ก็น่าจะชัดเจนว่า โครงการปุ๋ยคนละครึ่งผ่านการเสนอขึ้นมาโดย นบข. แม้ ครม.จะเห็นชอบแล้ว แต่เมื่อปรากฏปัญหาในขั้นตอนดำเนินโครงการ กระทรวงเกษตรฯก็ให้เสนอกลับไปที่ นบข.เพื่อพิจารณาทบทวน ก่อนจะเสนอเข้าไปให้ ครม.ได้พิจารณาต่อไป

อันที่จริง โครงการปุ๋ยคนละครึ่งได้ผ่านมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ครม.เห็นชอบหลักการโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68

ช่วงต้นปี 2567 ก่อนจะนำเสนอเข้า ครม. รมว.เกษตรฯร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เคยเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตครั้งที่ 1/2567

มีผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ สภาเกษตรกรแห่งชาติ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เข้าร่วม ณ ห้องประชุมธารทิพย์ กรมชลประทาน และประชุมออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting

ในครั้งนั้น รมว.ธรรมนัสยืนยันชัดเจน ระบุว่า ที่ผ่านมาภาครัฐได้พยายามให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2562 – ปัจจุบัน ใช้งบประมาณเพื่อดำเนินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ประมาณปีละ 54,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้เงินตามมาตรา 28 ของนโยบายการเงินการคลังของประเทศ เป็นการบริหารจัดการสภาพคล่องของประเทศ เพื่อสนับสนุนการลดต้นทุน การผลิตและค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ (ไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท) ซึ่งถือเป็นการจ่ายเงินสนับสนุนให้กับเกษตรกรโดยตรง โดยไม่ต้องมีการติดตามว่าเกษตรกรจะนำไปใช้จ่ายที่ตรงเป้าหมายที่รัฐกำหนดหรือไม่ ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมากตลอดระยะเวลา แสดงให้เห็นว่าโครงการและมาตรการต่าง ๆ ของรัฐ ยังไม่สามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้อย่างยั่งยืน

ดังนั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และการสร้างความเข้มแข็งจากการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในพื้นที่ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้ดำรงชีพอยู่ได้ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตจึงมีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68

โดยสนับสนุนปุ๋ยที่เหมาะสมตามความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในรูปแบบ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” (ภาครัฐและเกษตรกรจ่ายคนละครึ่ง) มีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการซื้อปุ๋ย เพื่อเพิ่มโอกาสและบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเข้าถึงปัจจัยการผลิตให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวลดความเดือดร้อนในการใช้ปุ๋ยสูตรต่างๆ และปริมาณที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ช่วยในการลดต้นทุนการผลิตข้าว รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดสภาวะดินเสื่อมสภาพ ตลอดจนเพื่อเพิ่มผลผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว

เป้าหมายโครงการฯ สนับสนุนค่าปุ๋ยในอัตราปุ๋ยไร่ละ 50 กิโลกรัม ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ (ไม่เกินครัวเรือนละ 1,000 กิโลกรัม) ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่จะปลูกข้าวในปีการผลิต 2567/68 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ประมาณ 4.68 ล้านครัวเรือน แยกเป็น 1) เกษตรกรที่ปลูกข้าวทั่วไป 4.48 ล้านครัวเรือน (ใช้ปุ๋ยสูตรที่มีความเหมาะสมกับการปลูกข้าว) และ 2) เกษตรกรที่ปลูกข้าวอินทรีย์ 0.20 ล้านครัวเรือน (ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำและชนิดเม็ดและขึ้นบัญชีนวัตกรรม)

กรอบวงเงิน 33,530 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินทุน ธ.ก.ส. สำรองจ่ายการดำเนินงานตามความโครงการฯ 33,422.950 ล้านบาท และงบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปี 2567 จำนวน 108.006 ล้านบาท และมอบหมายกรมการข้าว ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต จัดทำข้อมูลเพื่อนำเสนอโครงการต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) และเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการและงบประมาณต่อไป

“..สำหรับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ถือเป็นโครงการที่ตอบโจทย์เพื่อให้เกษตรกรมีส่วนร่วม โดยเกษตรกรออกครึ่งหนึ่ง รัฐเป็นผู้ดำเนินการจัดหาปุ๋ยที่มีความเหมาะสมต่อการผลิตข้าว ใช้ปัจจัยการผลิตตรงตามเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนอย่างจริงจัง ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวสามารถเข้าถึงปุ๋ยคุณภาพในราคาถูก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว และยกระดับคุณภาพข้าวให้สนองความต้องการของตลาด อีกทั้ง ยังสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐได้ถึงปีละ 20,770 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้งบประมาณช่วยเหลือชาวนา ตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (โครงการไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน20 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท) ซึ่งใช้เงินปีละประมาณ 54,300 ล้านบาท” - รมว.ธรรมนัส กล่าว

นี่คือที่มาที่ไป

หลังจากนั้น นบข.ก็พิจารณาเห็นชอบ

จากนั้น เสนอต่อ ครม. ครม.ก็เห็นชอบ

แต่มาชะลอโครงการเพื่อพิจารณาทบทวนล่าสุด

เพราะฉะนั้น เชื่อแน่ว่า คงจะต้องเร่งมาตรการช่วยเหลือชาวนาออกมาแทน เร็วๆ นี้

5.น่าสนใจว่า ถ้ารัฐบาลยังจะทำโครงการไร่ละพันด้วย ก็จะต้องใช้เงินกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท

รวมกับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง อีก 29,980 ล้านบาท

จะเอาเงินจากที่ไหน? .

งบกลาง ในงบประมาณแผ่นดิน ปี 2567 ถูกกันไว้ทำโครงการเติมเงินหมื่นกระเป๋าดิจิทัล วอลเล็ต อยู่กว่า4 หมื่นล้านบาท ?

ถ้าจะใช้เงิน ธ.ก.ส. ถ้าจะทำทั้งสองโครงการ จะเกินกรอบเพดานหรือไม่? เหมาะสมหรือไม่ เพราะ ธ.ก.ส.ก็ต้องดูแลเกษตรกรส่วนอื่นด้วยเช่นกัน?

สำหรับประเด็น ข้อดี-ข้อเสีย รวมถึงจุดตายของโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ท่านผู้อ่านสามารถย้อนกลับไปอ่านบทความในคอลัมน์นี้ อ่านระหว่างบรรทัด เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว 15 ก.ค. 2567

สันติสุข มะโรงศรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
06:00 น. ‘ต้าห์อู๋ พิทยา’ ส่ง OFFICIAL VISUALIZER ซิงเกิลลำดับที่ 5
06:00 น. รบ.เร่งฟื้นฟู‘สงขลา’ เก็บขยะได้1.18แสนตัน
06:00 น. โพลชี้‘อนุทิน’เต็ง ผู้นำจัดตั้งรัฐบาลใหม่
06:00 น. เตือน6จว.ใต้ รับมือฝนถล่ม ช่วง15-16ธ.ค.
06:00 น. ‘อนุทิน’ชัดเจน!ไทยเดินหน้าลุย ไม่มีแผนหยุดยิง เผย‘อันวาร์’แค่ขอให้ยุติยั่วยุ
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 12-18 ธ.ค.68
หนาวมาแน่! มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จ่อถล่มอีสาน เหนือ-ใต้รับมือฝนตก-คลื่นสูง
(คลิป) สีหศักดิ์ย้ำ! กัมพูชา มีทางเลือกแค่ 2 ทาง
เขมรหน้าแหกคาบ้าน! โพสต์ชวน'ลาว-เมียนมา-มาเลย์'มาสู้ไทย แต่เจอคอมเมนต์สวนกลับหงายเงิบ
ในหลวง พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกฯ-นายกสภาจุฬาฯ นำ คณะผู้บริหารเฝ้าฯ
ดูทั้งหมด
ขณะที่มีศึกนอก อย่าให้ศึกในทำร้ายประเทศ
‘ธนาธร-พิธา’กับสงครามเขมร
การสร้างสังคมไทยให้เป็นประชาธิปไตย โดยผ่านการปฏิรูประบบและกระบวนการกฎหมาย 5 อวสาน
จบเมื่อไร?
ตอบโต้ป้องกันตนเอง อย่างได้สัดส่วน ไม่ใช่มัดมือ-มัดเท้าตัวเองแบบโง่ๆ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เกลือเป็นหนอนหรือไม่? รถบรรทุกน้ำมันจ่อคิวยาวเหยียด'ด่านช่องเม็ก' หลังมีคำสั่ง'งดส่งออก'

'มทภ.2'ออกคำสั่ง คุมเข้ม'ด่านช่องเม็ก' งดส่งออกน้ำมัน-ยุทธภัณฑ์ มีผลเที่ยงคืน 14 ธ.ค.

ฮุนเซน รีบแก้ตัว บอกเหตุผลยังไม่ปล่อยคนไทยกลับทางด่านปอยเปต

'โฆษกทร.'รับ'เขมร'แทรกซึมเข้าพื้นที่ จ.ตราด พยายามก่อวินาศกรรมสถานที่ทางทหาร-ราชการ

วัย10ขวบ! 'น้องมินิ'สร้างสถิติซีเกมส์คว้าทองสเก็ตบอร์ด

สะพัดเขมรจ้างทหารรัสเซียแทรกซึมหวังทำลายจุดยุทธศาสตร์ ขอปชช.ช่วยตรวจสอบตามที่พัก

  • Breaking News
  • ‘ต้าห์อู๋ พิทยา’ ส่ง OFFICIAL VISUALIZER ซิงเกิลลำดับที่ 5 ‘ต้าห์อู๋ พิทยา’ ส่ง OFFICIAL VISUALIZER ซิงเกิลลำดับที่ 5
  • รบ.เร่งฟื้นฟู‘สงขลา’  เก็บขยะได้1.18แสนตัน รบ.เร่งฟื้นฟู‘สงขลา’ เก็บขยะได้1.18แสนตัน
  • โพลชี้‘อนุทิน’เต็ง  ผู้นำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โพลชี้‘อนุทิน’เต็ง ผู้นำจัดตั้งรัฐบาลใหม่
  • เตือน6จว.ใต้  รับมือฝนถล่ม  ช่วง15-16ธ.ค. เตือน6จว.ใต้ รับมือฝนถล่ม ช่วง15-16ธ.ค.
  • ‘อนุทิน’ชัดเจน!ไทยเดินหน้าลุย  ไม่มีแผนหยุดยิง  เผย‘อันวาร์’แค่ขอให้ยุติยั่วยุ ‘อนุทิน’ชัดเจน!ไทยเดินหน้าลุย ไม่มีแผนหยุดยิง เผย‘อันวาร์’แค่ขอให้ยุติยั่วยุ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เยือนถิ่นอีสาน  เตรียมไปเที่ยวเส้นทางสายยุทธบดินทร์

เยือนถิ่นอีสาน เตรียมไปเที่ยวเส้นทางสายยุทธบดินทร์

15 ธ.ค. 2568

ทำอย่างไรให้คนทำงานดี ได้ทำงานต่อ?

ทำอย่างไรให้คนทำงานดี ได้ทำงานต่อ?

8 ธ.ค. 2568

ฟื้นชีวิตหลังน้ำท่วม  ภารกิจที่รัฐบาลแพ้ไม่ได้

ฟื้นชีวิตหลังน้ำท่วม ภารกิจที่รัฐบาลแพ้ไม่ได้

1 ธ.ค. 2568

ปิดฉากมหากาพย์ระบอบทักษิณ

ปิดฉากมหากาพย์ระบอบทักษิณ

24 พ.ย. 2568

ไทยยืนหยัด  ในสงครามล่าเมืองขึ้น ด้วย Reciprocal Tariffs

ไทยยืนหยัด ในสงครามล่าเมืองขึ้น ด้วย Reciprocal Tariffs

17 พ.ย. 2568

ปรากฏการณ์ ‘หมอนทอง... วิทยา’

ปรากฏการณ์ ‘หมอนทอง... วิทยา’

10 พ.ย. 2568

ปิดฉากมหากาพย์  ค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ปิดฉากมหากาพย์ ค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว

3 พ.ย. 2568

ถ้าลงนามแล้ว กัมพูชาไม่ทำ?

ถ้าลงนามแล้ว กัมพูชาไม่ทำ?

27 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved