ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ผู้มีบารมีนอกพรรค” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง พบว่า
เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนถึง “บารมีทางการเมืองของคุณทักษิณ ชินวัตร ต่อพรรคเพื่อไทย” พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 67.40 ระบุว่า มีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ มาก รองลงมา ร้อยละ 21.76 ระบุว่า ค่อนข้างมีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ ร้อยละ 5.88 ระบุว่า ไม่มีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ เลย ร้อยละ4.81 ระบุว่า ไม่ค่อยมีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ และร้อยละ 0.15 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
ด้าน “บารมีทางการเมืองของ คุณเนวิน ชิดชอบ ต่อพรรคภูมิใจไทย” พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ45.81 ระบุว่า มีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ มากรองลงมา ร้อยละ 34.35 ระบุว่า ค่อนข้างมีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ ร้อยละ 11.37 ระบุว่า ไม่ค่อยมีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ ร้อยละ 6.26 ระบุว่า ไม่มีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ เลย และร้อยละ 2.21 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่ทราบ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึง “บารมีทางการเมืองของ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต่อพรรคก้าวไกล” พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 40.99 ระบุว่า มีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ มาก รองลงมา ร้อยละ 36.11 ระบุว่า ค่อนข้างมีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ ร้อยละ 14.81 ระบุว่าไม่ค่อยมีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ ร้อยละ 6.72 ระบุว่าไม่มีบารมีทางการเมืองต่อพรรคฯ เลย และร้อยละ 1.37 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
1) การสำรวจนี้ น่าสนใจตรง “หัวข้อ” ที่ชี้ชัดว่า 3 พรรคการเมืองใหญ่ของไทย ดำเนินกิจกรรมแบบ“หน้าม่าน-หลังม่าน” คือ ไม่ใช่การเมืองแบบ “ตรงไปตรงมา”
2) ในบรรดา 3 พรรคการเมืองที่ว่านี้ พรรคเพื่อไทย มีลักษณะเป็น “พรรคหุ่นเชิด” หนักที่สุด เพราะนายทักษิณ ชินวัตร แสดงตนเป็น “ผู้ควบคุมพรรค”จนออกนอกหน้า แถมมีลูกสาว คือ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” “ผู้สืบสันดานและดีเอ็นเอ” มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค บวกกับ “น้องรัก” ที่เคยถูกข่าวลือเล่นงานว่าเป็น “น้องเขย” อย่างนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ
3) คนในพรรคเพื่อไทยเอง ก็ “พินอบพิเทา” ต่อทักษิณสูงสุด รองลงมาคือ อุ๊งอิ๊ง แต่แทบไม่เห็นหัวเศรษฐาเลย เศรษฐาจึงเป็นนายกฯ กระจอกๆ ไม่มีสง่าราศี เพราะขนาดคนในพรรคยังไม่ไยดี ไม่เคารพไม่เชิดชู ประชาชนคนนอกพรรคจะ “เห็นค่า” นายกฯ เศรษฐา ได้ตอนไหน
4) ทักษิณ เองก็ไม่เคยเหนียมอาย เคลื่อนไหวทางการเมืองเสียจนนายกฯ เศรษฐา กลายเป็น“ไอ้กระจอก” “ไอ้หุ่นเชิด” มากกว่าเป็น “ผู้มีอำนาจ/บารมี” ตัวจริง
5) 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทักษิณ-ยังเลือกสำแดงบารมีด้วยการจัดงานวันเกิด ในระยะประชิดกับงานเฉลิมฉลองของแผ่นดิน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม
6) ผู้คนไปงานวันเกิดของทักษิณ มากหน้าหลายตาทักษิณที่ก่อนหน้านี้ ในเวลาที่ควรจะนอนคุก กลับนอนโรงพยาบาลเพราะเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ป่วยวิกฤต เกิดแข็งแรงขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ในชั่วไม่กี่วัน-เดือน-ปี อีลูกสาวก็หน้าบาน ยืนเป็นเงาของพ่อ เหมืองดวงจันทร์รอแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ นายกฯ เศรษฐา ออกต่างจังหวัดเหมือนเคย เหมือนตอนสงกรานต์ ที่ไปยืนสวมกางเกงบ็อกเซอร์ใส่บาตรให้คนด่าอยู่ที่หัวหิน ขณะที่ สส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไปรดน้ำดำหัวทักษิณ
7) ดังนั้น วันที่ 14 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ต่อให้เศรษฐาต้องกระเด็นตกจากเก้าอี้นายกฯ ไป เพราะกรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี พ่อ-ลูก “ชินวัตร” ก็มิได้กังวลใจอะไร เพราะหมากการเมืองยังเดินต่อได้สบายๆ เนื่องจากเศรษฐานั้น ไม่มีดีอะไรให้ใคร หรือแม้แต่ประชาชนต้องอาลัยอาวรณ์
8) ถ้าเศรษฐาถูกถอดถอนโดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จนต้องพ้นเก้าอี้นายกฯ ไป ต้องตั้งรัฐบาลกันใหม่ พรรคเพื่อไทยบวกกับพรรคภูมิใจไทย ที่เพิ่งไปร้องเพลง ไปตีกอล์ฟกันมา โดยมีนายทุนด้านพลังงาน คือ กัลฟ์ และ ปตท. ไปยืนหัวร่อต่อกระซิกด้วย ก็เดินหน้าตั้งรัฐบาลด้วยกัน เพียงแต่จะดัน “อุ๊งอิ๊ง” หรือ “อนุทิน” ขึ้นเป็นนายกฯ ก็แค่นั้น
9) อีก 1 วันสำคัญ คือวันที่ 22 สิงหาคม “ทักษิณ” จะพ้นโทษ จะได้รับ “ใบบริสุทธิ์”หลังจากนั้น ทักษิณคงเดินหน้า “บัญชาการ” เกมการเมืองอย่างเต็มที่ แสดงตนเป็น “ผู้มีบารมี” ให้ยิ่งชัด ตำตาตำใจคนไทยมากขึ้นไปอีก
10) วันเกิดทักษิณที่ผ่านมา นายเทพไท เสนพงศ์อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า... “อวยพรวันเกิดคุณทักษิณ” ความว่า...
“เนื่องในโอกาสวันครบรอบวันเกิด 75 ปี ของคุณทักษิณ ชินวัตรในวันนี้ ในฐานะที่เป็นนักการเมืองด้วยกัน เคยเป็นนักโทษถูกจำคุกเหมือนกัน เพียงแต่ผมถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจนครบกำหนดโทษ ไม่ได้รับสิทธิ์พิเศษใดๆทั้งสิ้น ต่างกับคุณทักษิณที่ไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว
แต่เนื่องจากวันเกิดครบรอบ 75 ปี ถือว่าเป็นวันสำคัญ และมีความหมายต่อคุณทักษิณมาก ผมจึงขออนุญาตอวยพรให้คุณทักษิณดังนี้
1.ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัยทั้งปวง มนุษย์ทุกคนไม่ว่าร่ำรวยแค่ไหน ถ้ามีโรคภัยไข้เจ็บ ชีวิตจะไม่มีความสุข ดังคำพระที่กล่าวไว้ว่า อะโรคยาปรมาลาภาความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
2.ขอให้คุณทักษิณรักษาสัจจะวาจา คำมั่นสัญญาตอนที่หนีคดีอยู่ต่างประเทศว่า จะขอกลับมาเลี้ยงหลาน จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกแล้ว
3.ขอให้คุณทักษิณหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง และสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง
4.ขอให้คุณทักษิณได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสงบอยู่กับครอบครัว ตามที่เคยประกาศและตั้งความหวังไว้
5.คุณทักษิณเคยกล่าวไว้ว่า เป็นคนแก่แล้ว ขอต่างคนต่างอยู่ ก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่จริงๆ อย่าอยู่เบื้องหลังการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
6.ขอให้คุณทักษิณยึดมั่นในพระบรมราชโองการพระราชทานอภัยลดโทษ สำนึกในความผิดและยอมรับกระบวนการยุติธรรม
7.ขอให้คุณทักษิณได้พ้นโทษอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ ก่อนวันครบกำหนดโทษวันที่ 22 สิงหาคม 2567
เนื่องจากวันนี้เป็นวันดี ผมก็ขอส่งความปรารถนาดีและอวยพรด้วยสิ่งดีๆ เพื่อให้คุณทักษิณมีความโชคดีนะครับ
11) เช่นเดียวกับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี ที่ก็โพสต์เฟซบุ๊กว่า #75 ปี ทักษิณ ความว่า...
“เมื่อวานที่นายทักษิณ ครบรอบวันเกิด 75 ปี ลำพังถ้านายทักษิณ เป็นนักธุรกิจ มีเงินมีทอง จะโดยสุจริตหรือทุจริต ผมคงไม่ต้องเอ่ยถึง แต่นายทักษิณคือบุคคลสาธารณะ และมีอิทธิพลต่อ ความสงบสุขของประชาชน อย่างน้อยการกล่าวถึง 75 ปีของคุณ อาจจะเกิดประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
คุณต้องยอมรับว่าอายุ 75 ปี ถือว่าไม่น้อย ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทุกข์ผ่านสุขมาก็เยอะมาก แต่กลายเป็นว่า อายุ 75 ปี ของคุณ แทนที่คุณจะมีสำนึก แคร์ความรู้สึกประชาชน เคารพกฎเกณฑ์ กลับตรงกันข้ามเรื่องแบบนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่า คุณไม่เปลี่ยนเลย อายุ 75 ปีไม่ช่วยคุณเลย
ผมคิดไม่ถึงว่า คนที่มีอายุที่ใกล้ฝั่ง มีประสบการณ์มากมาย แต่ไม่เคยเอาประสบการณ์ มาเป็นบทเรียนของชีวิต ที่ผมต้องย้ำเรื่องนี้ เพราะคนที่แวดล้อมคุณ ก็คงป้อยอคุณ คงไม่มีใครกล้าตักเตือน ในทางตรงกันข้าม คนระดับคุณ ถ้าคิดได้อะไรถูกผิด อะไรควรไม่ควรคุณก็ควรคิดเองได้นานแล้ว
คุณรู้ไหม การที่คุณกลับมาสู่ประเทศไทย ในภาพรวมคนไทยให้โอกาสคุณ แต่คุณเป็นคนทำลายโอกาสนั้นเอง โดยเฉพาะการกลับบ้านแบบเท่ๆ ในตอนกลางวัน
และมาป่วยหนักสี่โรคในตอนกลางคืน แต่สุดท้ายเป็นส่งตัว ไปที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อป้องกันความเสี่ยง
ที่สำคัญตลอดระยะเวลา 180 วัน ที่อ้างว่าคุณป่วย ท่ามกลางข้อสงสัยของประชาชนว่า นี่คือการทำตัวเหนือกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้คุณหรือไม่ การที่คุณไม่ยอมกลับเรือนจำสักวันเดียว แต่พุ่งตรงไปที่บ้านในช่วงเช้าวันที่18 กุมภาพันธ์ 2567 หลังจากอยู่ชั้น 14 ครบ 6 เดือน เท่ากับว่า คุณทำลายโอกาสที่คนไทยให้อภัยคุณหมดสิ้น
จุดที่เลวร้ายก็คือการพักโทษกรณีพิเศษ ของนักโทษอายุเกิน 70 ปี และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรือได้น้อยของคุณ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำ การทำตัวเหนือกฎหมายหรือไม่ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว คนไทยที่เขารักความถูกต้อง เขาก็รับไม่ได้ต่อ การเอื้อประโยชน์ให้กับคุณ
จุดสำคัญอีกจุดที่ คำพูดคุณทำลายตัวคุณ คือการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ช่วงวันสงกรานต์ ที่คุณพูดถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ อยากกลับมาร่วมสงกรานต์ปีหน้า และกล่าวหาว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ถูกยัดข้อหาเดียว แต่ของคุณหนักหน่อย ถูกยัดหลายข้อหา
คุณรู้ไหมสิ่งที่คุณพูด มันช่างสะท้อนตัวตนจริงๆของคุณ คุณช่างพูดไม่อายปากตนเองเลยหรือ ที่มีพระบรมราชโองการ พระราชทานอภัยลดโทษให้คุณ จาก 8 ปี เหลือ 1 ปี เพราะคุณยอมรับผิด สำนึกผิด ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม แต่ตอนหลังยังกล้าพูดว่า ถูกยัดข้อหา
ที่ผมต้องเขียนให้คุณได้อ่าน เพราะผมเชื่อว่าคุณคงไม่มีสำนึก อย่างน้อยที่สุด 75 ปี คุณควรต้องอยู่กับความจริง พยายามวางหลักเกณฑ์ของชาติบ้านเมือง
สิ่งดีๆ ให้กับลูกหลาน ไม่ใช่ตอกย้ำกับการอยู่เหนือกฎหมาย เพราะสิ่งนี้ได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่ยั่งยืน
ผมคิดว่าด้วยสุขภาพที่เห็นคุณผ่านสื่อ ถ้าคุณเริ่มปลงบ้างน่าจะดี ควรทำในสิ่งที่เป็นหลักเกณฑ์ที่ดีให้กับบ้านเมือง คุณควรคิดถึงบ้านเมืองมากกว่าลูกสาว ประเทศนี้ไม่ใช่ของคุณ แต่เป็นของคนไทยทุกคนขอเตือนไว้ด้วยว่า ลูกสาวคุณยังเป็นแค่มะม่วงบ่มแก๊ส
ท้ายนี้ในโอกาสครบรอบ 75 ปี ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจคุณ ให้คิดดีต่อบ้านเมือง คิดถึงความถูกต้องคิดถึงหลักกฎหมาย เพราะถ้าคุณยังคิดและทำเหมือนเดิม วันนี้คนไทยเขารู้ทันคุณหมดแล้ว และขอเตือนด้วยว่า สิ่งที่คุณทำมาทั้งหมดที่ผมกล่าวถึงมันจะดึงให้คุณเสื่อมลงไปเรื่อยๆ ชนิดที่คุณไม่รู้ตัว....Happy Belated Birthday”
12) ขณะที่ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “อย่าให้กระแสเหนือความถูกต้อง” ความว่า...
“คปท.พักการชุมนุม แต่ไม่พักการเคลื่อนไหว เรายังต้องติดตาม ตรวจสอบต่อไป คิวลงต่างจังหวัด ตั้งเวทีในพื้นที่จะเข้มข้น เพื่อกลับมาแบบเต็มรูปแบบ
ปัญหาโกงความยุติธรรมก็เป็นเรื่องหนึ่ง ปัญหาปากท้องประชาชนก็สำคัญ ค่าของแพง น้ำมันแพงค่าไฟขึ้น แต่เงินในกระเป๋าประชาชนไม่มี แล้วกลับกลายเป็นว่า นักโทษเทวดาไปตีกอล์ฟร่วมกับ ผู้บริหาร ปตท.และเจ้าของทุนพลังงาน
พอวันเกิดนักโทษเทวดา ทั้ง สส.ทั้ง รมต.แห่แหนกันไปอวยพร โดยไม่สนว่านั่นคือนักโทษคดี ทุจริต คอร์รัปชั่น มันดูถูกประชาชน ดูถูกความยุติธรรมเกินไป
เอากระแสมากลบความจริงที่ ทักษิณ ชินวัตร ทำกับประเทศชาติ
วันนี้วันเกิด อีกไม่กี่วันก็จะได้ใบบริสุทธิ์ เป็นใบบริสุทธิ์สีดำที่ไม่เคยติดคุก
ระวัง จากใบบริสุทธิ์จะกลายเป็นบัตรเชิญให้ประชาชนไม่พอใจมากขึ้น
เจอกัน ชมัยมรุเชฐรอบหน้า จัดเต็มกว่าเดิมแน่ๆ”
สรุป : การเมืองไทย ทั้งงวด ทั้งข้น ทั้งสับสนและขัดแย้งอย่างหนักต่อไปแน่ หลังทักษิณจัดงานวันเกิด “แข่งบารมี” ไปจนถึงวันที่ทักษิณรับ “ใบบริสุทธิ์” โดยที่น่าสนใจมากกว่า ตลอดการรับโทษแบบไม่ต้องนอนคุก การพักโทษอยู่บ้าน ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองได้โดยไม่ต้องเกรงใจใคร ในหัวใจของคนชื่อ “ทักษิณชินวัตร” นั้น เคย “สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ”อย่างเต็มตื้นและบริสุทธิ์สักวินาที...หรือไม่!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี