วันอังคาร ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันศุกร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
ผู้ว่าฯกทม.ปล่อยดอกเบี้ยสายสีเขียวเพิ่มทุกวัน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ?

ดูทั้งหมด

  •  

จากกรณีที่ศาลปกครองสูงสุด ได้มีพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ร่วมกันชำระเงินแก่บีทีเอส ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท


ประกอบด้วย หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 (ส่วนต่อขยายสายสีสม สะพานตากสิน-บางหว้า และสายสุขุมวิท อ่อนนุช-แบริ่ง) จำนวน 2,348.65 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย

และหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 (ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ) จำนวน 9,406.41 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย

โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันนั้น

1.ประเด็นสำคัญ นอกจากยอดหนี้ตามที่บีทีเอสฟ้องแล้ว คือ การที่ศาลปกครองสูงสุดชี้ว่า สัญญาระหว่างบีทีเอสกับทาง กทม.นั้น ชอบด้วยกฎหมาย มีผลผูกพันสมบูรณ์

นั่นหมายความว่า ถ้าบีทีเอสทำตามสัญญาเดินรถ กทม.ก็มีหน้าที่จะต้องจ่ายเงินตามสัญญาเช่นกัน

ก้อนที่บีทีเอสฟ้อง และศาลปกครองสูงสุดพิพากษาชี้ขาดไปแล้วนั้น เป็นเพียงก้อนแรกของการเดินรถช่วงเดือนพ.ค. 2562 – พ.ค. 2564 เท่านั้น

แต่การเดินรถในช่วงหลังจากนั้น จนถึงปัจจุบัน บีทีเอสก็ทำตามสัญญาเดียวกันนั่นเอง เพราะฉะนั้น กทม.ก็มีภาระจะต้องจ่ายตามสัญญาเช่นกัน

เรียกว่า อำนาจต่อรอง เทมาทางเอกชน คือ บีทีเอสเต็มประตู!

2.นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบีทีเอส แถลงน้อมรับคำตัดสินของศาล

ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง และเป็นวันที่รอคอยนานแสนนาน ด้วยความกดดันกับทุกสิ่งที่ลงทุนไป และการหาทุนเพื่อไม่ให้การเดินรถหยุดชะงัก

เพราะการหยุดเดินรถไม่ได้เป็นประโยชน์กับใคร ทั้งบริษัทก็เกิดความเสียหาย กทม. ก็เกิดความเสียหาย รวมไปถึงคนที่ใช้งานประจำก็เกิดความเสียหายที่จะต้องหาระบบอื่นรองรับการเดินทาง

ตั้งแต่ไม่ได้รับเงินค่าจ้างเดินรถ เราต้องควักเงินให้กับทุกอย่าง โดยเงินพวกนี้ถือว่าใหญ่มาก และตนก็มีนโยบายแน่นอนที่จะไม่ให้เดือดร้อนประชาชน และโชคดีที่บริษัทได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินธนาคาร ในการรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นและได้รับกำลังใจจากผู้ถือหุ้นในการต่อสู้

“บีทีเอสได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง จนได้รับความเป็นธรรมจากศาลปกครองสูงสุด ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 3 ปี ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า เราทำงานอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้พยายามชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ ให้กับหน่วยงานภาครัฐ และประชาชน รับทราบมาโดยตลอด

และ ณ วันนี้ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ความพยายามที่บีทีเอสทำมาตลอดนั้นไม่สูญเปล่า และยังเป็นการยืนยันคำพูดของตนว่า “บีทีเอสทำงานบนพื้นฐานความถูกต้อง และได้ปรึกษาทีมกฎหมายอย่างครบถ้วน ถ้าสัญญาไม่พร้อมหรือไม่ถูกต้อง ตนย่อมไม่ลงนามอย่างแน่นอน..

...ที่สำคัญ คำพิพากษาเกี่ยวกับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงของศาลปกครองสูงสุดในคดีนี้ จะเป็นแนวทางในการพิจารณาคดีในหนี้ส่วนที่เหลือต่อไป

ยืนยัน ผมทำอะไรตรงไปตรงมาที่สุด และไม่ยอมรับในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” – นายคีรีกล่าว

3.ระหว่างการแถลงข่าว บีทีเอสได้แจกแจงยอดหนี้ทั้งหมด

ระบุว่า อยากให้กทม. และ KT คำนึงถึงยอดหนี้ในส่วนที่เหลือด้วย เนื่องจากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน

สำหรับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงสิ้นสุด ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 มีจำนวนกว่า 39,402 ล้านบาท แบ่งเป็น

• ยอดหนี้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ที่ให้กทม. และ KT ร่วมกันชำระให้กับบีทีเอสเป็นเงินจำนวนกว่า 11,755 ล้านบาท

• ยอดหนี้ที่บีทีเอสได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ให้กทม. และ KT ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงให้กับบีทีเอสของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 (หนี้ค่าจ้างตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ถึง ตุลาคม 2565) เป็นเงินจำนวนกว่า 11,811 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง

• ยอดหนี้ค่าจ้างงานเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ถึง มิถุนายน 2567 ที่ยังค้างชำระ เป็นเงินจำนวนกว่า 13,513 ล้านบาท

• ค่าจ้างงานเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ในอนาคต ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงสิ้นสุดสัมปทาน ปี พ.ศ. 2585

เท่ากับว่า ยอดรวมเป็นจำนวนเงินเกือบ 4 หมื่นล้านบาท

หากล่าช้า ก็จะมีดอกเบี้ยอีกต่างหาก เพิ่มทุกวัน

4.ประธานบีทีเอส นายคีรี เปิดเผยในการแถลงข่าวว่า บีทีเอส ยินดีและพร้อมที่จะเจรจากับกทม. และ KT ในการหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้บริการสาธารณะเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป

ทั้งนี้ หากทั้งสองหน่วยงานมีแนวทางอื่นๆ ที่อยากให้พิจารณา บีทีเอสก็ยินดี และพร้อมที่จะเจรจา หากข้อเสนอเหล่านั้นมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พร้อมขอให้ กทม. เห็นใจเอกชน

โดยคำสั่งศาลได้ให้กทม.และเคทีชำระเงินเอกชนภายใน 180 วัน

“ตนรู้สึกดีใจ และเป็นชัยชนะให้กับตัวเองที่ต่อสู้อย่างบริสุทธิ์มาโดยไม่ยอมแพ้ เชื่อว่าลูกหนี้เข้าใจ เพราะสัญญาและการจัดซื้อจัดจ้างไม่มีอะไรผิด

ฉะนั้น สิ่งที่เราทำมา หรือสิ่งที่ตนเคยพูด พวกเราทำอะไรตรงไปตรงมา และทำในสิ่งที่ถูกต้องตลอดเวลา หวังว่ากทม. และ KT จะเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของเอกชนอย่างเรา ที่ไม่เคยหยุดให้บริการเดินรถ และควรให้ฝ่ายกฎหมายเร่งพิจารณาแนวทางการชำระหนี้แก่บีทีเอสโดยเร็ว” นายคีรีกล่าว

5.ล่าสุด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทางบีทีเอส พร้อมเจรจาเรื่องมูลหนี้ที่เกิดขึ้น

ยืนยันว่า กทม. พร้อมทำตามคำสั่งศาล แต่ขอให้การประชุมสภากทม.จบสิ้นเสียก่อน ซึ่ง ขณะนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ย่อยข้อมูลคำพิพากษากว่า 100 หน้าอยู่ และยินดีทำตามคำสั่งศาลปกครองทุกอย่าง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีความชัดเจนในเรื่องนี้มากขึ้น ทำให้ กทม. สามารถเดินไปอย่างมั่นใจมากขึ้น

ทางกทม. จะต้องดำเนินการตั้งเรื่องเพื่อส่งเข้าสู่การพิจารณาของสภากทม. โดยจะต้องมีรายงานสภากทม.ให้รับทราบ ซึ่งคาดว่าจะใช้ไทม์ไลน์ประมาณ140 วัน และจะพยายามให้การดำเนินการทั้งหมดเสร็จสิ้นก่อน 180 วันตามคำสั่งศาลฯ ยอมรับว่า นอกจากคำสั่งศาลฯ แล้วยังมีเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่กดดันให้ กทม.เร่งดำเนินการ เนื่องจากเงินที่นำมาใช้เป็นเงินของประชาชน กทม. จึงต้องพยายามใช้ให้มีประโยชน์มากที่สุด

นักข่าวถามว่า มูลหนี้ที่เกิดขึ้น ทางกทม. จะมีการจ่ายหนี้ทั้งก้อนที่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท หรือจำนวนเท่าใด?

นายชัชชาติ ระบุว่า ในการจ่ายหนี้ให้บีทีเอสนั้น ต้องว่าไปตามคำสั่งศาลคดีแรกก่อน ส่วนคดีที่ค้างอยู่ในศาลฯ จะต้องหารือกันอีกครั้งว่าจะจ่ายหนี้อย่างไร โดยจะต้องดำเนินทีละขั้นตอนและดูฐานะทางการเงินของกทม.ประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กทม. พยายามจะทำให้ดีที่สุด และที่ผ่านมา กทม. ก็ได้จ่ายหนี้ค่า E&M จำนวน 2.3 หมื่นล้านบาทดังนั้น เมื่อมีคำสั่งศาลฯมาต้องดำเนินการหนี้ก้อนแรกก่อน ส่วนหนี้ก่อนอื่นจะต้องพิจารณาจ่าย ส่วนมูลหนี้ทั้งหมดก็จะทยอยจ่ายให้เอกชน

6.สิ่งที่ กทม.ควรทำอย่างแรก คือ รีบเข้าไปเจรจากับทางบีทีเอส เพื่อขอหยุดอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อนได้หรือไม่

เพราะดอกเบี้ย น่าจะตกวันละกว่า 2 ล้านบาท

ทุกวันที่ผ่านไป คือ ความเสียหายที่ใครรับผิดชอบ?

ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่?

หากผู้ว่าฯกทม.ดึงเช็ง ยังไม่ยอมจ่ายหนี้ ทั้งๆ ที่ ทราบว่า เอกชนคู่สัญญาได้เดินรถตามสัญญาถูกต้องแล้ว (ศาลปกครองสูงสุดชี้แล้ว) แต่กลับจะรอให้มีคดีขึ้นไปให้ศาลตัดสินเสียก่อน

ปกติ เมื่อ กทม.จ้างเอกชนทำงาน และเอกชนทำงานเสร็จ กทม.ก็ต้องจ่ายเงินตามสัญญา

ถ้าผู้ว่าฯ ชัชชาติ จะใช้วิธี รอให้เอกชนไปฟ้อง รอศาลตัดสินเสียก่อนทุกก้อน ทุกงวด แบบนี้จะเป็นธรรมกับเอกชนหรือไม่?

ถ้าทำแบบนี้ทุกสัญญา ใครมันจะทำงานกับ กทม. ?

ประการสำคัญ เวลาที่ผ่านไป ทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มไปเรื่อยๆ ใครจะรับผิดชอบ

จะถือว่าผู้ว่าฯกทม. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จนเกิดความเสียหายเพิ่มเติมอีกมหาศาล หรือไม่?

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
06:47 น. ‘เขมร’ตอแยไม่เลิก ขน BM-21 รุกรานไทย ยิงเข้า‘ซำแต-ภูผี-ช่องตาเฒ่า-ปราสาทตาควาย’
06:00 น. ทะลุล้าน ‘โต๋นแตร-ทินกร’ โปรโมทซีรีส์กลางสยาม ‘I Promise I Will Come Back ฉันคอยเธอ’ รีรัน
06:00 น. LG ร่วมกับ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ สร้างโอกาสทางการเรียนรู้ ส่งมอบ ‘ห้องหนังเพื่อการเรียนรู้’ ห้องที่ 79
06:00 น. ‘แผนรักฉบับร้าย’ คึกคัก ‘มิกค์-พิ้งค์พลอย’ นำทีม ชวนทัพนักแสดงเมาท์ฉ่ำ รับกระแสสุดปัง
06:00 น. ‘นิว นภัสสร’ เปิดตัว Bibbidii Line Up 2026 ผุดโปรเจ็กต์ใหม่เอาใจแฟนๆ สายซีรีส์
ดูทั้งหมด
ทรงเป็นแบบอย่าง! สมเด็จพระราชินี เก็บขยะเกาะราชาใหญ่ หลังแข่งคิงส์คัพรีกัตต้า (คลิป)
จับตา พายุลูกใหม่ กำลังก่อตัวช่วง 8-10 ธ.ค. บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 5-11 ธ.ค.68
ทนายแก้ว เสียใจอย่างสุดซึ้ง หากเป็นไปตามข่าว ผิดถึงขั้นประหารชีวิต
กรมอุตุนิยมวิทยา เผย เตรียมรับมือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้
ดูทั้งหมด
ราชาอินเดียนแดงผู้ถูกทรยศ
จบเขมรด้วยสงคราม-จับ‘ฮุนเซน’ฟ้องศาล ICC
ไม่มีคำตอบ
สงครามไทยรบเขมร
ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการในพระองค์ ฝ่ายทหารชั้น นายพล นั่งรองผู้บัญชาการ รร. ทม. รอ.

เปิดคลิปนาทีทหารไทย ยิงถล่ม อนุสาวรีย์ม้าทอง สัญลักษณ์กองพลสนับสนุนที่ 3 กัมพูชา

ห้ะ คิดได้ไง? สฤณี แขวะไทยรบเขมร เพราะ ฮุนเซ็น มีน้ำใจ

นิกรเดช บรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชา ให้แก่คณะทูตานุทูต

รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงความกังวล หลังสถานการณ์ไทย-กัมพูชากลับมาตึงเครียด

ในหลวง พระราชินี พระราชทานดอกไม้และตะกร้าสิ่งของให้พลทหารที่บาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชา

  • Breaking News
  • ‘เขมร’ตอแยไม่เลิก ขน BM-21 รุกรานไทย ยิงเข้า‘ซำแต-ภูผี-ช่องตาเฒ่า-ปราสาทตาควาย’ ‘เขมร’ตอแยไม่เลิก ขน BM-21 รุกรานไทย ยิงเข้า‘ซำแต-ภูผี-ช่องตาเฒ่า-ปราสาทตาควาย’
  • ทะลุล้าน ‘โต๋นแตร-ทินกร’ โปรโมทซีรีส์กลางสยาม ‘I Promise I Will Come Back ฉันคอยเธอ’ รีรัน ทะลุล้าน ‘โต๋นแตร-ทินกร’ โปรโมทซีรีส์กลางสยาม ‘I Promise I Will Come Back ฉันคอยเธอ’ รีรัน
  • LG ร่วมกับ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ สร้างโอกาสทางการเรียนรู้  ส่งมอบ ‘ห้องหนังเพื่อการเรียนรู้’ ห้องที่ 79 LG ร่วมกับ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ สร้างโอกาสทางการเรียนรู้ ส่งมอบ ‘ห้องหนังเพื่อการเรียนรู้’ ห้องที่ 79
  • ‘แผนรักฉบับร้าย’ คึกคัก ‘มิกค์-พิ้งค์พลอย’ นำทีม ชวนทัพนักแสดงเมาท์ฉ่ำ รับกระแสสุดปัง ‘แผนรักฉบับร้าย’ คึกคัก ‘มิกค์-พิ้งค์พลอย’ นำทีม ชวนทัพนักแสดงเมาท์ฉ่ำ รับกระแสสุดปัง
  • ‘นิว นภัสสร’ เปิดตัว Bibbidii Line Up 2026 ผุดโปรเจ็กต์ใหม่เอาใจแฟนๆ สายซีรีส์ ‘นิว นภัสสร’ เปิดตัว Bibbidii Line Up 2026 ผุดโปรเจ็กต์ใหม่เอาใจแฟนๆ สายซีรีส์
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้

ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้

9 ธ.ค. 2568

รัฐอันธพาลวางทุ่นระเบิดใหม่ ดื้อด้าน ปากแข็ง  รัฐผู้เสียหายมีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธโต้ตอบ

รัฐอันธพาลวางทุ่นระเบิดใหม่ ดื้อด้าน ปากแข็ง รัฐผู้เสียหายมีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธโต้ตอบ

8 ธ.ค. 2568

รูปถ่ายเก่า ไม่ชัดเท่าการกระทำ และเส้นเงิน

รูปถ่ายเก่า ไม่ชัดเท่าการกระทำ และเส้นเงิน

5 ธ.ค. 2568

พูดแล้วทำ  กล้าทำกับสายการบิน หรือไม่?

พูดแล้วทำ กล้าทำกับสายการบิน หรือไม่?

4 ธ.ค. 2568

ตรรกะสักแต่จะด่าหาแสง

ตรรกะสักแต่จะด่าหาแสง

3 ธ.ค. 2568

ลดเพดานค่าโดยสารเครื่องบินในประเทศ  ลดพื้นที่ขูดรีดประชาชน

ลดเพดานค่าโดยสารเครื่องบินในประเทศ ลดพื้นที่ขูดรีดประชาชน

2 ธ.ค. 2568

เพดานค่าโดยสารเครื่องบินสูงเกินไป  ย่อมเปิดช่องให้ขูดรีดประชาชน

เพดานค่าโดยสารเครื่องบินสูงเกินไป ย่อมเปิดช่องให้ขูดรีดประชาชน

1 ธ.ค. 2568

รถไฟฟ้าราคาไม่เกิน 40 บาทต่อวัน

รถไฟฟ้าราคาไม่เกิน 40 บาทต่อวัน

28 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved