วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
ชาติจะอยู่รอด ผู้นำจะต้องเก่งและซื่อสัตย์

ดูทั้งหมด

  •  

เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ พระเจ้าอู่ทอง จากราชวงศ์อู่ทอง สถาปนากรุงศรีอยุธยาและขึ้นครองราชย์ในปีพุทธศักราช ๑๘๙๓ นั้น พระองค์ได้โปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระราเมศวรซึ่งเป็นพระราชโอรสไปครองเมืองลพบุรี และขณะเดียวกันก็โปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ (ขุนหลวงพะงั่ว) ซึ่งเป็นพระเชษฐาธิราชของพระมเหสีที่มาจากราชวงศ์สุพรรณภูมิไปครองเมืองสุพรรณบุรี

หลังจากครองราชย์ไม่นานนัก พระองค์ทรงเห็นว่าขอมแปรพักตร์ อาณาจักรอยุธยาจึงควรจะเข้าไปปราบปรามและยึดครองอาณาจักรกัมพูชาที่ขอมปกครองอยู่ จึงให้สมเด็จพระราเมศวรยกทัพมีกำลังพล ๕,๐๐๐ คนไปตีนครธมซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรกัมพูชาที่เจริญรุ่งเรืองมายาวนาน เพื่อเป็นการแสดงพระราชอำนาจและขยายอาณาจักรให้กว้างใหญ่ยิ่งขึ้น


สมเด็จพระราเมศวรจึงยกทัพเพื่อไปรบกับอาณาจักรกัมพูชา แต่กลับปรากฏว่าทัพของพระองค์ได้ถูกโจมตีโดยพระยาอุปราช พระราชโอรสในพระบรมลำพงษ์ราชาพระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดี จนทัพหน้าของกรุงศรีอยุธยาแตกพ่าย แล้วเข้าปะทะกับทัพหลวงของสมเด็จพระราเมศวร

สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ พระเจ้าอู่ทองจึงมีพระบรมราชโองการให้ไปเชิญขุนหลวงพะงั่วให้ยกทัพไปช่วยสมเด็จพระราเมศวร การศึกครั้งนี้ยืดเยื้อเป็นระยะเวลา ๑ ปี จึงสามารถเอาชนะทัพของกรุงกัมพูชาได้สำเร็จ  กวาดต้อนชาวกัมพูชาเข้ามาอยู่ในกรุงศรีอยุธยาได้เป็นจำนวนมาก

หลังจากพระเจ้าอู่ทองสวรรคตในปีพุทธศักราช ๑๙๑๓ สมเด็จพระราเมศวรได้เสด็จจากเมืองลพบุรีมายังกรุงศรีอยุธยา และกระทำพิธีราชาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงศรีอยุธยา ในขณะที่มีพระชนมพรรษาได้ ๓๐ พรรษา

ความขัดแย้งภายในระหว่างราชวงศ์อู่ทองและราชวงศ์สุพรรณภูมิคงจะมีอยู่ และน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หลังจากที่สมเด็จพระราเมศวรครองราชย์ได้เพียง ๑ ปี ขุนหลวงพะงั่วผู้เป็นพระมาตุลาก็ได้ยกกองทัพจากเมืองสุพรรณบุรีมายังกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากเห็นว่าสมเด็จพระราเมศวรมีปัญหาในเรื่องการเมือง การปกครอง ประชาชนเกิดความแตกแยก เกิดความวุ่นวายไม่มีความสงบสุข ทั้งยังไม่มีความสามารถในด้านการรบเพื่อจะรักษาบ้านเมือง  จึงเข้ายึดอำนาจจากพระราเมศวรแล้วขึ้นครองราชย์แทน โดยให้พระราเมศวรเสด็จกลับไปครองเมืองลพบุรีตามเดิม

สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ ขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนมพรรษา ๖๓ พรรษา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ฉลาด เป็นกษัตริย์นักปกครองที่มีหัวใจนักรบ มีความเก่งกล้าสามารถในการรบ ดูแลทหารเป็นอย่างดี รวมทั้งการดูแลประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุขด้วย พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ฉลาดมีโวหารดี เคร่งครัดในศาสนา อุทิศตนให้ศาสนาเป็นอย่างมาก ตลอดจนรักความก้าวหน้า เมื่อขึ้นมาปกครองกรุงศรีอยุธยานั้น พระองค์ทรงสามารถปราบปรามเหตุร้ายต่างๆ ในบ้านเมืองได้อย่างเด็ดขาดราบคาบ ทำให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้พระราชอำนาจของพระองค์ โดยมีการเสียเลือดเนื้อเพียงเล็กน้อย

ในระหว่างที่พระองค์ครองราชย์อยู่นั้นบ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองถึงที่สุด ไม่มีการอดอยากขาดแคลนในบ้านเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเพราะพระบุญญาธิการของพระองค์

พระองค์ เป็นพระมหากษัตริย์ที่ได้กระทำศึกสงครามด้วยความเก่งกล้าสามารถหลายครั้ง โดยตั้งแต่ก่อนที่จะขึ้นครองราชย์ก็ได้ทรงยกทัพไปช่วยพระราเมศวรในการรบกับกองทัพกัมพูชาและเอาชนะได้ จนกรุงกัมพูชาตกเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา

หลังจากขึ้นครองราชย์ในปีพุทธศักราช ๑๙๑๖ พระองค์ได้ยกทัพจากกรุงศรีอยุธยาไปตีเมืองชากังราวหรือกำแพงเพชรในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านที่อยู่ภายใต้การดูแลของอาณาจักรสุโขทัย ได้สู้รบกับพระยาใสแก้วและพระยารามคำแหงซึ่งเป็นเจ้าเมือง  ทำให้พระยาใสแก้วเสียชีวิตในการรบ หลังจากนั้น ๒ ปี พระองค์ก็ยังยกทัพไปตีเมืองชากังราวอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกวาดต้อนเอาผู้คนทั้งหลายกลับมายังกรุงศรีอยุธยา และต่อมาอีก ๓ ปีพระองค์ทรงยกทัพไปตีเมืองกำแพงเพชรเป็นครั้งที่ ๓ และครั้งนี้ได้สู้รบกับพระมหาธรรมราชาที่ ๒ พระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๗ แห่งกรุงสุโขทัย พระมหาธรรมราชาทรงเพลี่ยงพล้ำ เห็นว่าจะสู้ทัพจากกรุงศรีอยุธยาไม่ไหว จึงยอมถวายบังคมยอมรับในอำนาจของกรุงศรีอยุธยา โดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชยังทรงให้พระมหาธรรมราชาปกครองเมืองสุโขทัยต่อไป แต่ให้ขึ้นกับกรุงศรีอยุธยาในฐานะเมืองประเทศราช

นอกจากนี้พระองค์ ยังเคยเสด็จขึ้นไปทำสงครามกับหัวเมืองฝ่ายเหนือหลายเมืองเช่นเมืองพิษณุโลก เวียงเชียงใหม่ รวมทั้งเมืองนครลำปาง

ในด้านการศาสนา พระองค์ทรงเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมพระพุทธศาสนา ได้ทรงสร้างเจดีย์พระศรีรัตนมหาธาตุสูง ๑๙ วา มียอดนพศูลสูง ๓ วา ในพระอารามหลวงที่อยู่กลางกรุงศรีอยุธยา คือวัดพระศรีมหาธาตุที่ถูกสร้างขึ้นในปีพุทธศักราช ๑๙๑๗

ต้องถือว่าสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ (ขุนหลวงพะงั่ว) ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถเป็นเลิศทั้งในด้านการศึกสงคราม การเมือง การปกครอง การศาสนา และการค้ากับต่างประเทศ จึงเป็นช่วงเวลาที่อาณาจักรอยุธยามีความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมาก มีการขยายพระราชอาณาจักร และเข้มแข็งจนไม่มีศัตรูมารุกรานเป็นระยะเวลายาวนานพอสมควร พระองค์ครองราชย์เป็นระยะเวลา ๑๘ ปี จนกระทั่งเสด็จสวรรคตในปีพุทธศักราช ๑๙๓๑ พระชนมพรรษา ๘๑ พรรษา

จึงเห็นได้ว่า ในการปกครองบ้านเมืองนั้นผู้ที่จะนำพาประเทศ ให้เจริญก้าวหน้า และอยู่ดีมีสุขได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการบริหารหลายด้าน มีความเป็นผู้นำ เป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรักชาติ สามารถสร้างความสมัครสมานสามัคคีให้เกิดขึ้นกับประชาชนในชาติได้ ส่งเสริมด้านการศาสนาเพื่อสร้างสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจให้กับประชาชน  และสำหรับปัจจุบันนี้ จะต้องเป็นผู้ที่เคารพเทิดทูนต่อพระมหากษัตริย์และสถาบันกษัตริย์ ซึ่งได้ก่อร่างสร้างเมืองมาเป็นระยะเวลายาวนานร่วม ๘๐๐ ปี

ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาเป็นเวลา ๙๐ ปี แล้ว มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารสูงสุดโดยได้รับการโปรดเกล้าฯจากการเลือกตั้งมาจากผู้แทนราษฎร หรือบางครั้งอาจจะมาจากการมีเหตุการณ์พลิกผัน อันทำให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะผู้นำในยุคนั้นๆ ไม่สามารถจะบริหารบ้านเมืองได้ และที่สำคัญยิ่งเป็นผู้ปราศจากความซื่อสัตย์สุจริต กระทำการอันชื่อได้ว่าโกงกินบ้านเมือง

จนถึงปัจจุบันนี้ ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีมาแล้วทั้งสิ้นจำนวน ๓๐ คน โดยคนที่ ๓๐ ต้องยุติบทบาทโดยคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงในการนำเสนอผู้ที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี จนทำให้ต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ขณะนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า ผู้ที่จะได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศคือสตรีเพศนางหนึ่ง ผู้เป็นเชื้อสายโดยตรงของอดีตนายกฯ ซึ่งได้รับพระราชทานอภัยลดโทษและตามมาด้วยการพระราชทานอภัยโทษจนพ้นจากการเป็นนักโทษ จากการกระทำทุจริตคอร์รัปชั่นในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ

ประเทศไทยมีเรื่องแปลกประหลาดอย่างนี้เกิดขึ้นได้ เป็นความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่แปลกประหลาดเพราะผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นผู้ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่เข้ามาเป็นนักการเมืองจากอำนาจอิทธิพลดั้งเดิมของเครือญาติ และอำนาจเงินที่มีอยู่อย่างล้นเหลือ พอที่จะซื้อหลายอย่างในระบบการเมืองไทยได้ ซึ่งเงินส่วนหนึ่งนั้นน่าจะมาจากการกระทำทุจริตประพฤติมิชอบ  โดยไม่เคยมีประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมืองแม้แต่นิดเดียว

หากประเทศไทยของเราจะล่มสลายในอนาคต ก็อย่าโทษเพียงผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ต้องกล่าวโทษไปยังนักการเมืองทั้งหลาย ทั้งที่มาจากระบบการเลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่ได้ช่วยกันลงมติเห็นชอบให้สตรีเพศนางนี้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:05 น. 'วิรังรอง'ยกย่องแพทย์ไทย! โพสต์ซึ้งถึงเกียรติภูมิแพทยสภา
08:10 น. 'พุทธิพงษ์'โพสต์ซึ้งถึง'แพทย์ 365 วัน' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ
07:56 น. สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ
07:50 น. เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้
07:45 น. จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ
ดูทั้งหมด
'แพทยสมาคมฯ'มาแล้ว!!! ออกแถลงการณ์ประกาศจุดยืนสนับสนุนมติแพทยสภา
‘เซเลบผ้าท้องถิ่น’จัดหนัก! ถล่ม‘อิ๊งค์’ไร้กาลเทศะ ไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติการทูต
ประวัติศาสตร์!เชลซี ทีมแรกกวาดทุกแชมป์ถ้วยยุโรป
ทุบเปรี้ยง!ยก 5 เหตุผล‘ทักษิณ’ไม่หนี หวั่น‘ปิดประตูตาย’
‘แม่ทัพภาคที่ 2’ฮึ่ม! หากเขมรไม่ถอนกำลังออกไปจาก‘ช่องบก’ ทหารไทยไม่ถอยเช่นกัน
ดูทั้งหมด
แวดวงการเงิน : 31 พฤษภาคม 2568
หุ้นเด่น : 11 พฤษภาคม 2568
สงครามการค้าที่ไทยไม่ควรหวั่นไหวตามความบ้าของสหรัฐ
หากภูมิใจไทย ไม่ได้ครองมหาดไทย
บุคคลแนวหน้า : 31 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ

'เจิมศักดิ์'บอก'ออกอาการแล้ว' หลัง'ทูตรัศม์'โพสต์ป่วยจิตวิปลาส ปลุกหมอล้มรัฐบาลเลือกตั้ง

ชวนชมไลฟ์สดงานเสวนา'Why Nations Fail บทเรียนที่ประเทศไทย ต้องไม่ล้มเหลว'พรุ่งนี้

‘พิสดาร’ระวังเป็น‘ปมด้อย’ แนะพ่อแม่ตั้งชื่อลูกขอให้ยึด‘ประโยชน์สูงสุดของเด็ก’

พปชร.ร่วมปกป้องเกียรติภูมิ-ศักดิ์ศรีแพทยสภา ชื่นชมทำอย่างตรงไปตรงมา

(คลิป) 'สมศักดิ์'แจงยิบ! ปมวีโต้มติแพทยสภา ไม่หวั่นถูกล่าชื่อถอดถอน ปัดคุย'ทักษิณ' ยันไม่มีเอื้อ

  • Breaking News
  • \'วิรังรอง\'ยกย่องแพทย์ไทย! โพสต์ซึ้งถึงเกียรติภูมิแพทยสภา 'วิรังรอง'ยกย่องแพทย์ไทย! โพสต์ซึ้งถึงเกียรติภูมิแพทยสภา
  • \'พุทธิพงษ์\'โพสต์ซึ้งถึง\'แพทย์ 365 วัน\' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ 'พุทธิพงษ์'โพสต์ซึ้งถึง'แพทย์ 365 วัน' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ
  • สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ
  • เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้ เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้
  • จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

12 พ.ค. 2568

เศรษฐกิจไทย จะล่มสลายหรือไม่

เศรษฐกิจไทย จะล่มสลายหรือไม่

5 พ.ค. 2568

รัฐบาลที่รุกรบไม่เป็น ก็ยอมแพ้เถอะ

รัฐบาลที่รุกรบไม่เป็น ก็ยอมแพ้เถอะ

28 เม.ย. 2568

ไทย ต้องไม่ทำตัวเป็นประเทศราช

ไทย ต้องไม่ทำตัวเป็นประเทศราช

21 เม.ย. 2568

ของขวัญปีใหม่ไทย ต้องไม่ใช่บ่อนกาสิโน

ของขวัญปีใหม่ไทย ต้องไม่ใช่บ่อนกาสิโน

13 เม.ย. 2568

แผ่นดินไหว ลางร้ายของรัฐบาลหรือ

แผ่นดินไหว ลางร้ายของรัฐบาลหรือ

7 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved