เฟซบุ๊ก “ปู จิตกร บุษบา” โพสต์บทความสั้น เรื่อง “มีทหารไว้ทำไม” ความว่า...
อุทกภัยในภาคเหนือครั้งนี้ ต้องยอมรับว่า บทบาทของทหารและกองทัพ ชัดเจนมาก ในการเข้าช่วยเหลือประชาชน จน “ได้ใจคน” ทั้งประเทศ อ้อ! อาจต้องหมายเหตุไว้ด้วยว่า คนปกติ, คนที่มีสติ นะครับ ส่วนคนที่มีอคติ ดูเหมือนยังรักษาไม่หาย
ยังจะเอาเรือประมงออกรบอยู่ไหมครับ ยังจะยกเลิกเกณฑ์ทหารอยู่ไหมครับ ยังจะตัดงบฯกองทัพอยู่ไหมครับ ยังจะเชิดชู สส. ที่อวดใบ สด.43 (ใบรับรองผ่านการเกณฑ์ทหาร) ปลอมๆ อยู่ไหมครับ
ผมคิดว่า กองทัพยังต้องถูกตรวจสอบ ทหารยังต้องตรวจสอบได้ แต่ต้องกระทำอย่างให้เกียรติ ทำด้วยหลักการ “ตรวจสอบ ถ่วงดุล” ไม่ใช่ทำด้วยอคติ ทำไปดูแคลนไป ทำเพราะทำกับสถาบันอื่นไม่ได้ จึงใช้ทหารเป็นที่ระบายอารมณ์
ทหาร...ก็คนครับ
มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
ทหารทำดี สังคมควรยกย่อง ทหารทำชั่ว สังคมควรตำหนิ และทุกๆ สาขาอาชีพ มีทั้งคนดีและคนชั่ว
แม้เหตุอุทกภัยและอีกหลายๆ เหตุ เราจะชื่นใจ ซึ้งใจในสิ่งที่ทหารทำ แต่ไม่ได้แปลว่า เราจะเห็นชอบให้โกงค่าอาหารของทหารเกณฑ์ได้ ไอ้ประเภท “ผักสิบไร่ ไก่สิบโล”พอเถอะครับ เอาลูกเขาไปฝึกในนาม “ทหารเกณฑ์”ก็ให้เขาได้กินอิ่ม นอนหลับ ได้รับการปฏิบัติอย่างมีศักดิ์ศรี ประเภทซ้อมจนตาย ฝึกจนตาย อย่าให้เกิด อย่าให้มี ประเภทไปซักกางเกงใน ยกทรงบ้านนายก็หยุดได้แล้ว
การจัดซื้อใดๆ ก็ขอให้กระทำอย่างสุจริต มีเหตุมีผล เช่นเดียวกับคนตรวจสอบ ก็อย่าคึกคะนอง สนุกกับการสร้างซีนสร้างชื่อ ว่า กูเล่นงานกองทัพได้
อยู่ด้วยกันอย่างคนด้วยกัน
มีหน้าที่ รู้หน้าที่ ทำหน้าที่
ทำด้วยความซื่อสัตย์ ซื่อตรง
ทำด้วยความรักและศรัทธาในหน้าที่ ไม่เอาหน้าที่ไปกดข่มกัน ไปอวดไปโชว์ ไปหาคะแนนนิยม หรือหาผลประโยชน์ บนท่าทีเหยียดหยามศักดิ์ศรีของกันและกัน
มีทหารไว้ทำไม คนไทยมีคำตอบแล้ว
“มีนักการเมืองไว้ทำไม” คือคำถามถัดไปที่ “นักการเมือง” ต้องให้คำตอบ
ในการหาคำตอบ ประชาชนก็อย่าสุดโต่งไม่จำเป็นว่ารักคนหนึ่งแล้วต้องเกลียดคนหนึ่ง
รักทหารแล้วต้องเกลียดนักการเมือง รักนักการเมืองแล้วต้องเกลียดทหาร เชิดชูพรรคการเมืองพรรคหนึ่งแล้วต้องเหยียดหยาม ต่อต้าน หรือถึงขั้นจะล้มล้างสถาบัน
ทุกคน ทุกองค์กร สร้างประโยชน์ได้ อยู่ร่วมกันได้ เกื้อกูลกันได้ กลายเป็น “พลังปกป้องแผ่นดิน ปกป้องประชาชน” ได้ และดีด้วย
ไม่เห็นหรือ..
• ถุงยังชีพพระราชทาน ไปพร้อมกับถุงยังชีพที่เราๆ จัดหาแล้วส่งไป ในนามของภาคเอกชน-ประชาชน และหน่วยงานรัฐ
• โรงครัวพระราชทาน ไปพร้อมกับโรงครัวประชาชน โรงครัวมูลนิธิ โรงครัวดารา และโรงครัวนักการเมือง
• ทหารบก ทหารเรือ หน่วยซีล กองบัญชาการทหารสูงสุด เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพ นักเจ๊ตสกี อาสาสมัครเพื่อนพึ่งภาฯ จิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ มูลนิธิฯกระจกเงา ฝันดีฝันเด่น ท็อปไทด์ บุ๋ม ปนัดดา องค์กรเครือข่ายมุสลิม วัด รีสอร์ทเปิดให้จอดรถนพพล-ปรียานุช รับดูแลสัตว์เลี้ยง กัน จอมพลัง ส่งทีมเข้าช่วยคนและสัตว์ ฯลฯ
ทั้งหมดที่พร้อมใจกันทำ ทั้งหมดที่ลงไปในเวลาเดียวกันนั้น คือ “พลังที่สอดประสาน”
โปรดเห็นความงามของมัน ส่งเสริม รักษา มากกว่ายุยงให้แตกแยก และด้อยค่ากัน
ประเทศชาติรอดมาได้
ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขได้
ล้วนเป็นเพราะพลังที่ประสานกัน ของสถาบันพระมหากษัตริย์ ทหาร พลเรือน พ่อค้าพาณิชย์ ประชาชน สามัญชน นักบวช ฯลฯ ในทุกยุคทุกสมัย
คราเมื่อพระพุทธเจ้าหลวง ทรงรวมแว่นแคว้นแดนไทยกลายเป็นสยามประเทศ ตราแผ่นดินที่เกิดขึ้น จึงมีคาถากล่าวว่า ... “สพฺเพสํ สงฺฆภูตานํ สามคฺคี วุฑฺฒิสาธิกา”
แปลว่า “ความพร้อมเพรียงแห่งหมู่ชนทั้งหลาย ยังความเจริญวัฒนาถาวรให้สำเร็จ”
ดังนั้น เมื่อวางใจไว้ถูกต้องแล้ว วางอคติลงเป็นแล้ว คิดและรู้สึกอย่าง “เพื่อนมนุษย์” ได้แล้ว มายิ้มให้กับเหตุการณ์ต่อไปนี้ด้วยกัน
1) วันที่ 11 กันยายน 2567 มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย นำทีมเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) อาสา ปฏิบัติการภัยพิบัติ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่บ้านเกาะทราย หมู่ 7 อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่เกิดน้ำท่วมหนัก เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ทำให้มีประชาชนติดอยู่ในบ้านเรือนเป็นจำนวนมาก
โดยทีมเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) อาสา ปฏิบัติการภัยพิบัติ นำเรือเข้าไปในพื้นที่ ได้เข้าช่วยเหลือผู้สูงอายุทั้งชายอายุ 94 ปี และหญิงอายุ 88 ปี ที่ติดอยู่ในบ้านชั้นเดียว โดยคุณตาคุณยายทั้ง 2 คน อยู่ในสภาพอิดโรย ทางเจ้าหน้าที่ให้น้ำดื่ม และช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งนำอาหารและน้ำดื่มแจกจ่ายให้แก่เด็กที่อดอาหารมา 1 วันเต็มๆ
ส่วนเครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ตำบลเกาะขันธ์ อำเภอชะอวด ได้เข้าให้ความช่วยเหลืออพยพประชาชนที่หมู่ 1 2 3 4 บ้านเหมืองแดงใต้ อำเภอแม่สาย ที่ขอความช่วยเหลือเร่งด่วน เนื่องจากมีทั้งผู้ป่วย และเด็กเล็กจำนวน 40 คน รอความช่วยเหลือ ไม่มีอาหารรับประทานเช่นกัน
2) เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 ที่ จ.เชียงราย พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พร้อมด้วย พล.อ.ธีรยุทธ จินหิรัญ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) พล.ต.อนุมาศ พินิจชอบ ผอ.สำนักงานพัฒนาภาค 3หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สนภ.3 นทพ.) เข้าประชุมรับฟังบรรยาย สถานการณ์น้ำท่วมใน 3 ตำบลพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ปลัดกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ารับฟังสถานการณ์พร้อมแบ่งงานรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่
จากนั้น พล.อ.ทรงวิทย์ และ ผบ.นทพ.ลงพื้นที่อพยพช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านปิยะพร ซอย 3-5 อำเภอแม่สาย จำนวนกว่า 800 คน ที่ติดอยู่ภายในบ้านออกจากพื้นที่ภายหลังน้ำท่วมบ้านเรือน เสียหายหนัก ภายในหมู่บ้าน ซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อนจึงต้องเร่งอพยพออกจากบ้านเรือนอย่างเร่งด่วนพร้อมได้แจกจ่ายอาหารกล่อง และน้ำดื่ม บก.ทท.ช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น
ทั้งนี้ น.อ.ณัฐพัชร หนองแสง ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 (นพค.35) พร้อมชุดบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 30 นาย พร้อมรถยนต์ตรวจการณ์ จำนวน 2 คัน เรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำและ รยบ. (ขนาดเล็ก) จำนวน 1 คัน ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.แม่สาย อ.แม่สาย โดยทำการขนย้ายผู้สูงอายุ เด็ก และสิ่งของมีค่า ออกไปยังพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
3) วันที่ 11 กันยายน 2567 เพจ “กองทัพเรือRoyal Thai Navy” โพสต์ภาพกองทัพเรือส่งชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยซีล พร้อมจัดยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) ให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ทั้งการลำเลียงประชาชน และทรัพย์สิน ออกจากพื้นที่ประสบภัยและพื้นที่เสี่ยง พร้อมระบุข้อความว่า “#กองทัพเรือ ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยซีล เข้าสนับสนุน นรข.เขตเชียงราย ช่วยชาวเชียงรายที่กำลังเผชิญวิกฤตการณ์น้ำท่วมหนักในเวลานี้ #ThaiNavySEAL #มนุษย์กบ”
4) วันที่ 12 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กองทัพเรือได้สั่งการให้ “หน่วยซีล” หรือหน่วยสงครามพิเศษทางเรือให้ลงพื้นที่ เพื่อเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ถูกอุทกภัยน้ำท่วมในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยเมื่อไปถึงพื้นที่อำเภอแม่สายที่ถูกน้ำป่าท่วมและไหลเชี่ยวกราก ทางหน่วยซีลได้ร่วมวางแผนในการเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน หลังจากนั้นเริ่มทำงานทันทีเลย โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำท่วมสูง และน้ำป่าไหลเชี่ยวกราก ที่หน่วยอื่นเข้าถึงได้ยาก หน่วยซีลได้ลุยน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ลุยโคลน เข้าไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร เพื่อเข้าไปช่วยประชาชนที่ติดอยู่ภายในบ้านได้ 10 ครัวเรือน มีทั้งคนชรา ผู้หญิง และเด็กหญิงเพิ่งคลอดอายุ 3 เดือน โดยสามารถช่วยเหลือทุกคนออกมาได้อย่างปลอดภัย จนกระทั่งรุ่งเช้าก็ยังเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องเพื่อนำประชาชนที่ติดค้างออกมาให้หมด
5) วันที่ 13 กันยายน 2567 ส่วนล่วงหน้า มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำส่งถุงยังชีพพระราชทาน เครื่องอุปโภค-บริโภคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงราย เพิ่มเติม จำนวน 2,000 ชุด โดยรถบรรทุกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เดินทางไปส่งไว้ที่ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 62 อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายโดยครู และนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 62 ช่วยกันเร่งบรรจุถุงยังชีพพระราชทาน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพิ่มเติมอีก จำนวน 2,000 ชุด รวมมอบถุงยังชีพพระราชทานในพื้นที่จังหวัดเชียงรายไปแล้ว 5,000 ชุด
6) จิตอาสาจาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผนึกกำลังร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังอยู่ในพื้นที่ประสบภัย เพื่อส่งมอบอาหาร ช่วยเหลือพี่น้องอำเภอแม่สาย ภายใต้ โครงการ “CP-CPF ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม” โดยมี นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือซีพีและผู้ช่วยบริหารสำนักประธานคณะกรรมการบริหารซีพีเอฟ นำทีมพนักงานจิตอาสาลงพื้นที่นำอาหารสดและถุงยังชีพ รวมถึงสิ่งของที่จำเป็น ส่งมอบให้แก่ โรงครัวพระราชทาน ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย เพื่อช่วยคลายความเดือดร้อนเบื้องต้น
ล่าสุด พล.ต.บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ค่ายเม็งรายมหาราช และนายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย รับมอบ ไข่ไก่ 3,000 ฟอง หมูบด 50 กิโลกรัม เนื้อสะโพกไก่เเช่เเข็ง 72 กล่อง เนื้อสะโพกเป็ดเเช่เเข็ง 72 กิโลกรัม ไก่บด 50 กิโลกรัม เพื่อส่งต่อไปยัง โรงครัวพระราชทาน ที่ว่าการอำเภอแม่สาย
7) วันที่ 14 กันยายน 2567 บริเวณตลาดชายแดนด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม ส่งผลให้บ้านเรือน ร้านค้า และอาคารได้รับความเสียหายและหลังจากน้ำลดได้ทิ้งโคลนดินและตะกอนจำนวนมากบนถนนสายหลักและท่อระบายน้ำ ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ กองทัพบก โดยกองพลพัฒนาที่ 3 และกรมการทหารช่าง ได้จัดส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รถเกรด รถตักบรรทุก รถบรรทุกขนาด 10 ตันและรถฉีดล้างน้ำ เพื่อทำความสะอาดและจัดการขยะดินโคลน โดยการสนับสนุนจากมณฑลทหารบกที่ 37 กองทัพภาคที่ 3 พร้อมกำลังทหารจิตอาสาและประชาชน ร่วมกันทำบิ๊กคลีนนิ่ง โดยจะปฏิบัติต่อเนื่องในวันที่14-16 กันยายน 2557 เพื่อเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
8) เพจ “กันจอมพลัง ช่วยสู้” โพสต์ข้อความและภาพประกอบว่า “ADDA มอบรองเท้า 10,000 คู่รวม 2,000,000 บาท ให้กันจอมพลัง นำไปมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ขอบคุณมากๆเลยครับผมอนุโมทนาสาธุครับ รองเท้าสำคัญจริงของผมเองไปกับน้ำตั้งแต่วันแรก”
สรุป :
เห็นความงามของความร่วมไม้ร่วมมือเหล่านี้ไหม มันน่ารักไหม มันชื่นใจไหม
ใครช่วยตรงไหนได้ ช่วย
ใครทำตรงไหนได้ ทำ
ดีกว่าหมกมุ่นอยู่กับอคติระยำ กระทำและพูดจาในสิ่งที่ “หนักแผ่นดิน” เยอะเลย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี