ทุกวันนี้ไม่มีใครปฏิเสธว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่าเลวร้ายมาก โดยบางธุรกิจอยู่ในระดับเลวร้ายแสนสาหัส บางธุรกิจเลวร้ายระดับเบาะๆ แต่ก็ยังพอมีบางธุรกิจที่ยังเฟื่องฟูอยู่พอประมาณ แต่ก็ต้องย้ำว่าสภาพโดยรวมของเศรษฐกิจไทยไม่ดี และต้องย้ำอีกที่ว่าไม่ดีเอามากๆ เสียด้วย
ธุรกิจที่อยู่ในระดับแสนสาหัสที่เห็นชัดในปัจจุบันคือ ธุรกิจเต็นท์รถมือสอง หรือ Used Cars ธุรกิจต่อมาคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนธุรกิจที่ยังค่อนข้างจะเฟื่องฟูก็คือธุรกิจด้านความสวยความงาม ด้านศัลยกรรมส่วนต่างๆของร่างกาย และอีกหนึ่งธุรกิจคือ ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเพราะในยามที่คนเครียดเพราะต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ คนบางกลุ่มก็หันไปหาเครื่องบำรุงบำเรอใจด้วยการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง แล้วคนกลุ่มนี้ก็ยังคงทุ่มเทเพื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักของตนเอง เพราะเห็นว่าสัตว์เลี้ยงเป็นเครื่องชุบชูใจให้ตนมีกำลังใจและมีความสุขท่ามกลางความทุกข์ยากในชีวิตประจำวัน อันเนื่องมาจากพิษภัยเศรษฐกิจ
ส่วนคำถามที่ว่า แล้วเหตุใดตลาดหลักทรัพย์ของไทยในยุครัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งนับเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีประสบการณ์การเมืองโดยตรงแม้แต่น้อย ยกเว้นแค่เพียงการมีพ่อเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี แล้วพ่อก็เป็นผู้ผลักดันให้แพทองธารได้กินตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อย่างมหัศจรรย์จนเกินบรรยาย ย้อนกลับไปที่ประเด็นทำไมดัชนีหุ้นไทยจึงเพิ่มขึ้นอย่างสุดแสนอัศจรรย์ ทำไมอยู่ๆ จึงมีเงินจำนวนมหาศาลจนเกินจะหาคำตอบชัดๆ ได้ชัดเจน หลั่งไหลล้นทะลักเข้าตลาดหุ้นไทย ทั้งๆ ที่ยังไม่มีปัจจัยบวกตัวใดที่ช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ต้องย้ำว่าไม่มีปัจจัยตัวใดหนุนส่งให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นแม้แต่น้อย แต่จู่ๆ ดัชนีหุ้นก็เด้งขึ้นไปอย่างพิสดาร จนไม่สามารถหาคำอธิบายได้อย่างสมเหตุสมผล ยกเว้นเพียงแค่มีนายกรัฐมนตรีใหม่ชื่อ แพทองธาร ลูกสาวของทักษิณ
ถามว่า ทำไมกับแค่เพียงแพทองธารเข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วจู่ๆ ดัชนีหุ้นไทยกระเด้งกระดอนขึ้นไปกว่าร้อยจุดในเวลาไม่กี่วัน แล้วทำไมจู่ๆ เงินจึงไหลเข้าตลาดหุ้นในบางวันสูงเกิน 1 แสนล้านบาท ถามย้ำๆ ว่าเงินมาจากไหน ทำไมแค่เพียงมีนายกรัฐมนตรีชื่อแพทองธารแล้วหุ้นขึ้น แต่ก่อนจะตอบคำถามนี้ชัดเจนได้ก็ต้องรู้ก่อนว่า แพทองธาร คือลูกของทักษิณ แล้วก็ต้องรู้ต่อไปด้วยว่าเมื่อครั้งที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อประมาณ 20 ปีเศษๆ มาแล้ว ก็เคยปรากฏภาพดัชนีตลาดหุ้นไทยกระเด้งขึ้นไปอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ซึ่งหลายคนวิพากษ์ตรงกันว่าก็ในเมื่อนายทุนใหญ่เข้าไปรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ใช่เรื่องประหลาดใจที่จะเห็นภาพดัชนีหุ้นไทยเด้งขึ้นอย่างสุดแสนพิสดาร แล้วก็มีผู้วิพากษ์ต่อไปว่า ก็นับเป็นเรื่องปกติที่นายทุนที่ได้กินตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องแสดงอิทธิฤทธิ์ให้ปรากฏชัดด้วยการส่งแรงไปยังตลาดหุ้น เพราะตลาดหุ้นคือแหล่งระดมทุนได้สารพัด ไม่ว่าจะเป็นทุนเพื่อการลงทุนจริงๆ หรือทุนเพื่ออำนาจการเมือง
วันนี้ลูกสาวทักษิณได้กินตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีคนรับรู้กันทั่วประเทศว่า เป็นนายกรัฐมนตรีที่ถูกครอบครองโดยทักษิณ เพราะทักษิณคือพ่อของแพทองธารคราวนี้มีคำถามต่อไปว่า แล้วทำไมเมื่อแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี จึงต้องเกิดภาพดัชนีหุ้นไทยเด้งขึ้นราวกับมีแรงฉุดจากสวรรค์หรือแรงดันจากนรกก็สุดจะบรรยายให้ชัดเจนได้
การเด้งขึ้นของดัชนีหุ้นไทยอย่างสุดแสนพิสดาร ทำให้คนบางคน บางกลุ่มได้ผลดีในชั่วพริบตา เพราะมีเงินไหลเข้ากระเป๋าอย่างอู้ฟู่ ถามย้ำว่าเงินจากไหนไหลเข้าตลาดหุ้น เรื่องนี้หากไปถามแพทองธารกับทักษิณก็น่าจะได้คำตอบบางอย่างได้ แต่จะเป็นคำตอบที่น่าเชื่อถืออย่างจริงจังได้หรือไม่ ก็ต้องใช้ดุลพินิจไตร่ตรองและใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วน
แต่อีกประเด็นที่ต้องจับตามองคือ เมื่อสภาพเศรษฐกิจเลวร้าย แต่กลับมีภาพดัชนีหุ้นไทยเด้งขึ้นทุกวันๆ ก็ต้องเตือนสติคนอยากรวย แต่ทว่าขาดความรู้พื้นฐานด้านเศรษฐกิจ การเงิน และด้านเศรษฐศาสตร์และขาดข้อมูลเศรษฐกิจที่แท้จริง หรืออาจจะพูดโดยรวบรัดคืออยากรวยเร็วๆ ด้วยการเข้าไปหาความมั่งคั่งจากตลาดหุ้นขอเตือนสติว่า โปรดระวังให้จงหนัก เพราะในยามที่เศรษฐกิจไม่ดี แต่หุ้นไทยกลับฟูจนเกินจริง จงระวังไว้ว่าอาจจะได้พบซาตานในตลาดหุ้น ส่วนซาตานจะเป็นนักธุรกิจแท้ๆ หรือเป็นนักธุรกิจการเมืองจอมโกงหรือไม่ ต้องตามดูกันต่อไป และอย่าลืมว่า ในยามที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีไร้ประสบการณ์ แต่มีพ่อเป็นนักธุรกิจการเมืองผู้คุยเขื่องว่า เงินลอยอยู่ในอากาศ จะคว้ามาเข้ากระเป๋าเมื่อไรก็ได้ เมื่อเป็นแบบนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะทุจริตเชิงนโยบาย และการทำให้ตลาดหุ้นฟูจนขนหัวลุก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี