วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')
คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

วันพุธ ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
Islamophobia: ความหวาดกลัว ความเกลียดชัง ที่นำไปสู่ความรุนแรง

ดูทั้งหมด

  •  

ไม่นานมานี้บนแพลตฟอร์ม X มีการแสดงความคิดเห็นที่ตั้งคำถามต่อหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม จากประเด็นดังกล่าวได้เกิดการรีโพสต์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเริ่มเปลี่ยนจากการตั้งคำถามกลับกลายเป็นการแสดงความคิดเห็นที่แสดงถึงความเกลียดชังหรืออคติต่อศาสนาอิสลามและชาวมุสลิม และหากไม่สามารถยับยั้งกระแสแห่งความเกลียดชังที่แผดเผาเป็นไฟลามทุ่งเช่นนี้ ก็อาจก่อให้เกิดความหวาดกลัวอิสลาม หรือที่เรียกว่า “Islamophobia” ในสังคมไทยก็เป็นได้

คอลัมน์ “คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen)” ในครั้งนี้ จะพาทุกท่านย้อนไปถึงที่มาที่ไปของภาวะความหวาดกลัวอิสลามที่เริ่มต้นมาจากโลกตะวันตก พร้อมทั้งสำรวจให้ลึกลงไป เพื่อให้เห็นว่าความหวาดกลัวที่ว่านั้นมันไม่ได้หยุดอยู่ที่เพียงความหวาดระแวง แต่มันยังนำไปสู่ความรุนแรงที่คาดไม่ถึงอีกด้วย!


จุดเริ่มต้นของความเกลียดชัง

จุดเริ่มต้นของ Islamophobia อาจมีที่มาเริ่มต้นจากการศึกษาประเด็นเกี่ยวกับศาสนาอิสลามที่มักดำรงอยู่คู่ขนานกับประวัติศาสตร์แห่งความขัดแย้งระหว่างชาวคริสต์และชาวมุสลิม จนนำไปสู่การสร้างเรื่องเล่า มายาคติและวาทกรรมที่ว่า “Islam theEnemy” ในแง่นี้ หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน ก็คล้ายคลึงกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เหตุการณ์การเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2310 และวาทกรรมพม่าเผาเมือง อันเป็นการสร้างสำนึกความรักชาติของคนไทยในขณะเดียวกันก็เป็นการปลูกฝังความเกลียดชังต่อพม่าด้วย

ความทรงจำในลักษณะของ Islamophobia ฝังลึกอยู่ในมโนสำนึกของผู้คนในโลกตะวันตกและถูกทำให้เป็นภาวะปกติของสังคม จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ 9/11ที่เป็นตัวกระตุ้นความทรงจำแบบ Islamophobia และแพร่กระจายแนวคิดนี้ไปสู่สังคมโลกด้วยน้ำมือของสื่อตะวันตก ทั่วโลกต่างพากันรุมประณามมุสลิมในฐานะ “ผู้ก่อการร้าย”จากเหตุการณ์ครั้งนี้ สื่อมีบทบาทสำคัญมากทีเดียวต่อการสร้างภาพลักษณ์เชิงลบแก่อิสลาม เนื่องจากสื่อต่างๆ ทั่วโลกต่างพากันพาดหัวข่าวเหตุวินาศกรรมโดยพร้อมเพรียง ชื่อของ “อุซามะฮ์ บินลาดิน” “อัลกออิดะฮ์” “ผู้ก่อการร้ายมุสลิม” ฯลฯ จึงถูกกล่าวย้ำและเขียนซ้ำอย่างต่อเนื่อง นับเป็นการตอกย้ำแนวคิดหรือทัศนะที่ว่าอิสลามเป็นศาสนาแห่งสงครามและความรุนแรงให้ชัดเจนมากขึ้นแก่สายตาชาวโลกด้วย

ความหวาดกลัวและความเกลียดชังที่นำไปสู่ความรุนแรง

กระแสความเกลียดชังอิสลาม นำไปสู่การหาผลประโยชน์ทางการเมือง เมื่อเริ่มมีนักการเมืองหาเสียงโดยชูนโยบายต่อต้านอิสลามหรือมุสลิมและปลุกกระแส
Islamophobia ขึ้น ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด คือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2017 เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปลุกกระแส Islamophobia ในสหรัฐอเมริกา โดยในช่วงระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี ทรัมป์ได้พูดถึงมาตรการห้ามไม่ให้มุสลิมเข้าสหรัฐอเมริกา ห้ามไม่ให้มีการชุมนุมของมุสลิมในมัสยิดทั่วประเทศ ซึ่งการชูนโยบายที่ว่านี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากพวกขวาจัดและกลุ่มคนนิยมคนผิวขาว นอกจากนี้ คำประกาศของทรัมป์ยังสะท้อนถึงการแบ่งแยกและเลือกปฏิบัติ เหยียดศาสนา และสร้างความแตกแยกในสังคมอเมริกัน ต่อมา ภายหลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งก็เกิดความชอบธรรมในการต่อต้านมุสลิมในสหรัฐอเมริกาและนำไปสู่ความรุนแรงในที่สุด มุสลิมถูกคุกคามและกระทำอาชญากรรมในหลายพื้นที่ เช่น มีการเผาศูนย์กลางอิสลามในรัฐเท็กซัส การยิงผู้นำศาสนาอิสลาม การยิงอิหม่ามเชื้อสายบังกลาเทศในมหานครนิวยอร์ก การทำร้ายร่างกาย การด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายของชาวผิวขาวต่อครอบครัวมุสลิม เป็นต้น

ยิ่งไปกว่านั้น ภาวะความหวาดกลัวอิสลามยังนำไปสู่ความรุนแรงถึงแก่ชีวิตของชาวมุสลิม จากกรณีของ Suzanne Barakat หญิงมุสลิมคนหนึ่งที่ได้พูดถึงประเด็น Islamophobia บนเวที TEDTalks เมื่อเธอต้องสูญเสียคนในครอบครัวของเธอเนื่องจากปัญหาความเกลียดชังมุสลิม โดยเธอได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เพื่อนบ้านบุกเข้ามาฆาตกรรมคนในครอบครัวของเธอเพียงเพราะว่าพวกเขาเป็นมุสลิม Suzanne Barakat ไม่สามารถปล่อยให้ความตายของคนในครอบครัวถูกลดค่าลง เธอจึงได้ออกมาพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับตั้งคำถามว่า หากเรื่องราวนี้เกิดกลับกันหากมีคนอาหรับ มุสลิม หรือคนที่เหมือนมุสลิมสักคนหนึ่งฆ่านักศึกษาผิวขาวในบ้านของพวกเขาจะเกิดอะไรขึ้น?ถ้าเป็นเหตุการณ์เช่นนี้ สื่อคงพากันพาดหัวข่าวว่าเป็น “การจู่โจมของผู้ก่อการร้าย” อย่างแน่นอน!

ในตอนจบของการบรรยาย Suzanne Barakat ได้กล่าวว่า ภาวะ Islamophobia กลายเป็นรูปแบบของความเกลียดชังที่สังคมยอมรับ ชาวมุสลิมล้วนต้องเผชิญกับการถูกเหยียดหรือถูกคุกคาม และความเกลียดชังนี้ไม่ควรถูกทำให้กลายเป็นเรื่องปกติ ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลง และยุติความเกลียดชัง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้นอีกดังเช่นครอบครัวของเธอ

จะเห็นได้ว่า จากอคติได้ก่อตัวกลายเป็นความหวาดระแวงและความเกลียดชัง และในท้ายที่สุดก็แปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรงและนำไปสู่ความสูญเสียอย่างเลี่ยงไม่ได้ สุดท้ายแล้ว Islamophobia หรือ ความหวาดกลัวอิสลาม จึงเป็นสภาวะความกลัวทางจิตอันเนื่องมาจากมายาคติที่ว่า ศาสนาอิสลาม คือ ศาสนาแห่งสงครามและความรุนแรง ความหวาดกลัวดังกล่าวได้ถูกพัฒนาต่อให้เกิดเป็นความเกลียดชังและกลายเป็นความรุนแรงในท้ายที่สุด ทว่าความเลวร้ายหรือความรุนแรงไม่ควรถูกผูกโยงเข้ากับกลุ่มคน เชื้อชาติ หรือศาสนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะปัญหาการก่อการร้ายไม่ได้มีที่มาจากพระคัมภีร์หรือแก่นของศาสนาอิสลาม เพียงแต่กลุ่มก่อการร้ายเหล่านั้นยกพระคัมภีร์มาเป็นข้ออ้างเพื่อกระทำผิด พูดง่ายๆ ก็คือ ศาสนาอิสลามไม่ได้ผลิตผู้ก่อการร้าย และไม่ใช่ศาสนาแห่งสงครามหรือความรุนแรง ดังนั้น เราทุกคนจึงควรยุติความหวาดกลัว ความเกลียดชัง และความรุนแรง ทั้งหลายเหล่านี้ลง ก่อนที่สังคมจะจมอยู่ในวังวนแห่งการตอบโต้และความหวาดระแวงจนยากแก่การสมานฉันท์เยียวยา

ธนากาญจน์ กันทอง

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
06:00 น. สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’
06:00 น. ปล่อยรัว 3 เพลงติด ‘loserpop’ กับเพลงรักคอมโบเซ็ท
06:00 น. ‘ใบเฟิร์น สุทธิยา’ สลัดลุคหวาน สาดความแซ่บ! พร้อมคัมแบ็กสุดปังในเพลงใหม่ ‘นัดฟิน’
06:00 น. ‘เอิร์น’ปล่อยซิงเกิลใหม่ ‘ซัพพอร์ตผู้หญิงคนนี้ได้ไหมคะ’ แนวน่ารัก สดใส เอาใจสาวไร้คู่
06:00 น. ‘จุฬาฯ’ จับมือ ‘ช่อง 7HD’ส่งรายการใหม่ ‘THE CRACK HUNTER หน่วยล่ารอยร้าว’
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
'แก้ว อภิรดี'ควงลูกสาวเปิดสถานะหัวใจ เผยเตรียมสละโสดก่อนอายุ 35
ดูทั้งหมด
แวดวงการเงิน : 10 พฤษภาคม 2568
หุ้นเด่น : 10 พฤษภาคม 2568
จีนแนะอเมริกาแสวงจิตวิญญาณอเมริกันแทนเป็นอันธพาลโลก
เตรียมหาช่องทางธรรมชาติไว้หนีคดี
บุคคลแนวหน้า : 10 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'โฆษก​ มท.'แจงแล้ว! ​ปมเรียก​สรรพนาม'คุณลูกค้า'แทน'คุณลุง​-​คุณป้า'

มิตรภาพแน่นแฟ้น! 'ปูติน-สี จิ้นผิง'ร่วมชมขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะ

ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'

อดทนต่อคำปรามาส! 'นิพิฏฐ์'ขอบคุณทุกฝ่าย ยืนหยัดต่อสู้'คดีชั้น 14'

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

สุดกลั้น! 'นุ่น ดารัณ'เปิดบทเรียนเข้มงวดจนลูกหนีออกจากบ้าน

  • Breaking News
  • สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’ สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’
  • ปล่อยรัว 3 เพลงติด ‘loserpop’ กับเพลงรักคอมโบเซ็ท ปล่อยรัว 3 เพลงติด ‘loserpop’ กับเพลงรักคอมโบเซ็ท
  • ‘ใบเฟิร์น สุทธิยา’ สลัดลุคหวาน สาดความแซ่บ!  พร้อมคัมแบ็กสุดปังในเพลงใหม่ ‘นัดฟิน’ ‘ใบเฟิร์น สุทธิยา’ สลัดลุคหวาน สาดความแซ่บ! พร้อมคัมแบ็กสุดปังในเพลงใหม่ ‘นัดฟิน’
  • ‘เอิร์น’ปล่อยซิงเกิลใหม่ ‘ซัพพอร์ตผู้หญิงคนนี้ได้ไหมคะ’ แนวน่ารัก สดใส เอาใจสาวไร้คู่ ‘เอิร์น’ปล่อยซิงเกิลใหม่ ‘ซัพพอร์ตผู้หญิงคนนี้ได้ไหมคะ’ แนวน่ารัก สดใส เอาใจสาวไร้คู่
  • ‘จุฬาฯ’ จับมือ ‘ช่อง 7HD’ส่งรายการใหม่  ‘THE CRACK HUNTER หน่วยล่ารอยร้าว’ ‘จุฬาฯ’ จับมือ ‘ช่อง 7HD’ส่งรายการใหม่ ‘THE CRACK HUNTER หน่วยล่ารอยร้าว’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

The Corruption ระบบแท้ คนเก๊: วิเคราะห์ปัญหาคอร์รัปชันที่ประเทศไทยไม่มีทางแก้?

The Corruption ระบบแท้ คนเก๊: วิเคราะห์ปัญหาคอร์รัปชันที่ประเทศไทยไม่มีทางแก้?

30 เม.ย. 2568

การกลับคืนสู่อำนาจของทรัมป์: ผลกระทบต่อกระแสความคิดและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การกลับคืนสู่อำนาจของทรัมป์: ผลกระทบต่อกระแสความคิดและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

23 เม.ย. 2568

สงกรานต์เป็นเทศกาลแห่งความสุขของใครกันแน่

สงกรานต์เป็นเทศกาลแห่งความสุขของใครกันแน่

16 เม.ย. 2568

เมื่อชีวิตมีแค่ทางเลือกที่แย่กับแย่น้อยกว่า : ปัญหามลพิษในประเทศไทยหนักแค่ไหน?

เมื่อชีวิตมีแค่ทางเลือกที่แย่กับแย่น้อยกว่า : ปัญหามลพิษในประเทศไทยหนักแค่ไหน?

9 เม.ย. 2568

6 ปี ACT Ai - เครื่องมือสู้โกงของประชาชน

6 ปี ACT Ai - เครื่องมือสู้โกงของประชาชน

26 มี.ค. 2568

เมื่อจีนใช้ AI ช่วยสะสางการคอร์รัปชันอย่างได้ผล ไทยจะเรียนรู้อะไรได้บ้าง

เมื่อจีนใช้ AI ช่วยสะสางการคอร์รัปชันอย่างได้ผล ไทยจะเรียนรู้อะไรได้บ้าง

19 มี.ค. 2568

ราโชมอนและคอร์รัปชัน : เมื่อภาพยนตร์มีหลายมุมมอง แต่คอร์รัปชันมีความจริงเพียงหนึ่งเดียว

ราโชมอนและคอร์รัปชัน : เมื่อภาพยนตร์มีหลายมุมมอง แต่คอร์รัปชันมีความจริงเพียงหนึ่งเดียว

12 มี.ค. 2568

หากเงินซื้อความปลอดภัยได้ แล้วเงินเท่าไหร่ถึงจะซื้อความปลอดภัยที่มากพอสำหรับผู้หญิงได้

หากเงินซื้อความปลอดภัยได้ แล้วเงินเท่าไหร่ถึงจะซื้อความปลอดภัยที่มากพอสำหรับผู้หญิงได้

26 ก.พ. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved