วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
สงคราม-รัสเซีย-ยูเครน และสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปาเลสไตน์ในชนวนกาซามีทีท่าจะจบลงได้เมื่อทุกฝ่ายที่ห้ำหั่นกัน หันมาใช้ทางการทูตเจรจา หาทางยุติสงครามล้างผลาญ ซึ่งหลายฝ่ายมีหวัง เมื่อทางทูตเพื่อสันติภาพเริ่มเคลื่อนไหวเตรียมพร้อมรับวันประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่ง ในทำเนียบขาววันที่ 20 มกราคม 2025
วันที่ 14 พฤศจิกายน ทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวว่า รัสเซียเปิดกว้างสำหรับการเจรจาเพื่อยุติสงครามหากว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ริเริ่ม แต่การเจรจาต้องอยู่บนพื้นฐานความจริงความคืบหน้าของรัสเซีย ทรัมป์วิจารณ์การช่วยเหลือตะวันตกให้เคียฟ และสัญญาจะหยุดสงครามให้เร็วที่สุด โดยที่ไม่ได้ให้รายละเอียดแต่พูดเป็นนัยว่า ยูเครนต้องเสียสละพื้นที่บางส่วนเพื่อสันติภาพ
การชนะเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของทรัมป์ได้สร้างความกังวลแก่เคียฟและยุโรปถึงอนาคตที่สหรัฐให้สัญญาจะช่วยเหลือยูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวหลังทราบผลเลือกตั้งสหรัฐว่า “เคียฟ อยากยุติสงครามกับรัสเซียปีหน้า ผ่านวิธีทางการทูต” เขาให้สัมภาษณ์สื่อยูเครน Suspile ว่า“สงครามจะจบลงในไม่ช้า” เมื่อทรัมป์เป็นประธานาธิบดี“เชื่อว่าสงครามจะสิ้นสุดลงเร็วกว่าด้วย ขณะนี้ทีมนโยบายทำเนียบขาวได้เริ่มทำตามสัญญาต่อประชาชนพวกเขา” เซนเลนสกีกล่าว
นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีผู้ใกล้ชิด ทรัมป์ ได้พบปะหารือกับทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติกรุยทางเจรจาลดความตึงเครียด อิหร่าน-อิสราเอล สองมหาอำนาจทางทหารในภูมิภาคตะวันออกกลาง
แต่จู่ๆ มีรายงานจากที่ประชุมสภาความมั่นคงสหประชาชาติว่าสหรัฐวีโต้ญัตติหยุดยิงในกาซา และตามมาด้วยรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศเช่นกันว่า กองทัพอิสราเอลถล่มทางเหนือฉนวนกาซา ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ชาวปาเลสไตน์ ถูกสังหาร 43 คน
ในวันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ายูเครนยิงขีปนาวุธพิสัยไกลที่ผลิตในสหรัฐฯ 6 ลูกเข้าใส่แคว้นไบรอานส์กของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่กองทัพกรุงเคียฟ ใช้ขีปนาวุธโจมตีระยะไกลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ นับตั้งแต่สงครามครบรอบ1,000 วัน
ผู้บัญชาการกองทัพยูเครน กล่าวว่า ขีปนาวุธได้ทำลายคลังกระสุนแห่งหนึ่ง ในแคว้นไบรอานส์กของรัสเซีย ก่อให้เกิดไฟไหม้ และระเบิดหลายครั้งสร้างความเสียหายให้กับกระสุนปืนใหญ่จำนวนมาก แต่มิได้ยืนยันว่าเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯหรือไม่
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่าสามารถทำลายขีปนาวุธ ATACMS ที่ยูเครนยิงมาได้ 1 ลำ และยิงตกลงมาอีก 5 ลำ โดยชิ้นส่วนตกลงในพื้นที่ทางการทหารของรัสเซีย และเกิดไฟไหม้ แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด
รายงานเรื่องยูเครนใช้ขีปนาวุธเชิงยุทธวิธีกองทัพบก ATACMS (Army Tactical MissileSystem) มีขึ้นในขณะที่ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีมีร์ ปูติน ประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อลดระดับข้อจำกัดการใช้อาวุธนิวเคลียร์กับชาติที่มีอาวุธนิวเคลียร์คุกคามรัสเซีย รวมทั้งประเทศที่ใช้ขีปนาวุธของชาติมีอาวุธนิวเคลียร์คุกคามรัสเซีย หมายความว่าปูตินพร้อมตอบโต้ หรืออาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ถล่มยูเครนและนาโต้หากมีความจำเป็น
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลยิงถล่มรัสเซียได้ หลังจากห้ามใช้ยิงใส่รัสเซียมา 3 ปี ยูเครนเคยใช้ขีปนาวุธของสหรัฐในเขตที่ถูกยึดครองเท่านั้น รัฐบาลไบเดนจึงถูกประณามว่า พยายามยั่วยุให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สาม เป็นการดิ้นรนเฮือกสุดท้ายก่อนหมดอำนาจในเวลาไม่ถึงสองเดือนข้างหน้า
นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า ไบเดนตกอยู่ใต้อาณัติของ Deep State หรือ รัฐพันลึก คือนิติบุคคล หรือองค์กรที่มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลวอชิงตันเช่นสภา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Council Of Foreign Relation= CFR) CFR เป็นองค์กรจัดตั้งโดยไซออนิสต์ ที่มีทุนใหญ่ยิวจากหลายสาขารวมทั้งทุนใหญ่ผลิตขายอาวุธสงครามครอบงำ
กระทรวงกลาโหมอเมริกันออกมาสรุปถึง “การลงทุน” ในลักษณะดังกล่าว หรือการช่วยเหลือยูเครนตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.2022 จนตราบเท่าทุกวันนี้ มีมูลค่าถึง 182,000 ล้านดอลลาร์ ที่การช่วยเหลือเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกแปรสภาพให้กลายเป็น “ผลกำไร” ของบรรดาบริษัทธุรกิจอเมริกัน ดังที่รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย นายดิมิตรีเมดวีเดฟ ได้แจกแจงเอาไว้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
การกลับเข้าทำเนียบขาวของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในอีกเพียง 2 เดือนข้างหน้า จึงทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตการสนับสนุนยูเครนของสหรัฐฯ และเห็นได้ชัดเจนว่าประธานาธิบดีไบเดน กระตือรือร้นที่จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยยูเครน ในช่วงเวลาอันสั้นก่อนที่เขาจะพ้นจากตำแหน่ง มีการประเมินกันว่า การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางทหารให้ยูเครน อาจทำให้ยูเครนมีอำนาจต่อรองมากขึ้นในการเจรจาสันติภาพใดๆ ที่รออยู่ข้างหน้า
อดีตนักวิเคราะห์อาวุโสด้านนโยบายความมั่นคงของอเมริกัน มิเชล มาลูฟ ระบุว่า “ไบเดนใช้เล่ห์เพทุบาย” ผิดพลาด ที่สมควรได้รับการประณามจากการวางกับดักประธานาธิบดีทรัมป์.. “เขายกระดับปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียจนอาจทำให้ประธานาธิบดีรายใหม่ ต้องประสบความล้มเหลวในการจัดการกับปัญหาดังกล่าวตามทิศทาง แนวทาง ที่ประธานาธิบดีคนใหม่เคยได้ประกาศเอาไว้”...
ด้วยเหตุนี้...จึงไม่ถึงกับน่าแปลกใจ ที่บรรดาผู้ให้การสนับสนุนประธานาธิบดีคนใหม่ทั้งหลาย ไม่ว่า CEO-Space X อย่าง อีลอน มัสก์ ซึ่งใกล้ชิดสนิทสนมกับทรัมป์ ระหว่างช่วงการหาเสียง หรือ ริชาร์ด เกรเนลล์ ที่ปรึกษาส่วนตัวของทรัมป์ตลอดถึงลูกชายคนโต อย่างทรัมป์ จูเนียร์ ต้องออกมา ทวีตในโซเชียลมีเดีย ด้วยการด่า การประณามรัฐบาลโจ ไบเดน และพวก ลิเบอรอล แห่งพรรคเดโมแครต ตลอดถึงบรรดา “อุตสาหกรรมอาวุธ” ที่ถือเป็น “Deep State” ซึ่งกระเหี้ยนกระหือรือปรารถนาที่จะให้ใครต่อใครฆ่าล้างผลาญกันและกันให้มากๆ เข้าไว้ ดังที่ทรัมป์ จูเนียร์ โพสต์ไว้ในแพลตฟอร์ม “X” ว่า
... “พวกอุตสาหกรรมอาวุธต้องการที่จะให้แน่ใจว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่บิดาบังเกิดเกล้าของกระผมจะมีโอกาสมาสร้างสันติภาพและช่วยเหลือชีวิตผู้คน” ขณะที่ อีลอน มัสก์ สรุปไว้สั้นๆ แต่ออกจะมีความหมาย ว่า “พวกลิเบอร่านทั้งหลาย ก็คือพวกที่กระหายสงคราม”
แม้แต่หัวหน้า “พรรคฝรั่งเศสรักชาติ” อย่าง “นายฟลอเรียน ฟิลิพพอต ยังอดไม่ได้ที่จะต้องออกมาร่วมประณาม ด้วยข้อความที่ว่า... “พวก Deep State และ ไบเดนหุ่นเชิดของพวกมันพยายามที่จะจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่ทรัมป์จะขึ้นสู่อำนาจ”
ฟิลิพพอต กล่าวด้วยว่า การใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ฝ่ายตะวันตกมอบให้กับยูเครน ไม่ว่าจะ “ATACMS” ของอเมริกา “Storm Shadow” ของอังกฤษ “SCALP-EG” ของฝรั่งเศส หรือ “Taurus” ของเยอรมนี ยิงเข้าไปในดินแดนรัสเซียนั้น ก็เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า เจ้าหน้าที่ทางทหารของยูเครน ไม่มีขีดความสามารถพอที่จะเล็งเป้าไม่มีความสามารถพอที่จะยิงได้เลยแม้แต่น้อย เนื่องจากไม่เพียงต้องใช้ความเชี่ยวชาญของผู้ที่ผลิตขีปนาวุธแต่ละประเภท แต่ยังต้องอาศัยข้อมูลข่าวกรอง จากดาวเทียมบนอวกาศ ในการควบคุมวิถีทางและการกำหนดเป้าหมาย มีแต่บรรดาเจ้าหน้าที่อเมริกันและ “NATO” เท่านั้น ที่มีขีดความสามารถเหล่านี้อยู่ในมือ ดังนั้น...ผู้ที่จะใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลทั้งหลายไม่ใช่ทหารยูเครน
นอกจาก Deep State กดดันให้ ไบเดน ยื้อสงครามในยูเครนให้นานที่สุด แล้วทุนใหญ่ในอเมริกาที่ได้ประโยชน์มหาศาลจากการแซงชั่นรัสเซีย การส่งพลังงานไปยุโปเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งแก๊สเหลว หรือ “LNG” ถึงกับเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัว แม้แต่สินค้าประเภทปุ๋ยที่เคยมีมูลค่าใกล้เคียงกัน สำหรับการส่งออกไปยังยุโรปกลับเพิ่มขึ้นไปกว่า 666,000 ตัน ล้วนแต่ผลกำไรของบริษัทธุรกิจอเมริกัน ที่ได้มาจากการต่อต้านรัสเซีย หากนับรวมไปถึงผลกำไรของบรรดาพวก “อุตสาหกรรมอาวุธ” นับว่ามากมายมหาศาล
พวก “Deep State” ทั้งหลายจึงหวังชัยชนะนาทีสุดท้าย ตามแผนการของนายเซเลนสกีที่เสนอไว้กับรัฐบาลไบเดนเมื่อไม่นานมานี้ Deep State พยายาม “จุดประกายความหวัง ให้กับบรรดาบริษัทธุรกิจอเมริกัน ในอันที่จะเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์จากทรัพยากรต่างๆ ในยูเครน โดยเฉพาะในแคว้น ดอนบาสส์ ที่ผู้คนลงประชามติให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียไปเรียบร้อยแล้ว
อีกไม่ถึงสองเดือนก่อน ประธานาธิบดี ทรัมป์สาบานตนเข้ารับตำแหน่งเป็นทางการ เป็นช่วงเวลาของซาตานจะล้างผลาญเงินภาษีคนอเมริกันและชาวยุโรปอีกกี่แสนล้านดอลลาร์เพื่อให้เป้าหมายสงครามโลกครั้งที่สามหรือไม่ ต้องรอด้วยใจระทึกอย่างไรก็ตามในฐานะพุทธมามกะ เชื่อว่าฝ่ายธรรมะย่อมชนะอธรรม
สุทิน วรรณบวร

เตือนวัยทำงาน! ปรับนิสัยหลังตื่นนอน 3 ขั้นตอนง่ายๆ ลดภาระหัวใจ ลดเสี่ยงเส้นเลือดตีบ ไม่ต้องพึ่งยา
โฆษกรัฐบาล ฟาด 'วันนอร์' ย้อนแย้ง ชี้ช่องฝ่ายค้านยื่นซักฟอก ปิดทางยุบสภาฯ
ลูกสาว'เจ๊ไฝ'เคลียร์ชัด! กฎเหล็กของร้านคือ 'ป้องกันคนรับจองคิว' ลั่น! ต้องเข้าใจตรงกัน
'ชนนพัฒฐ์'พร้อมสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ประกาศวางมือทางการเมือง ถ้าผิดจริง
ตะลึง! สิงคโปร์ยึด'นอแรด'คาสนามบินชางงี ลอบขนจากแอฟริกาจ่อส่งลาว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี