เมื่อวานวันที่ 11 ธันวาคม อดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ไปช่วย“กานต์ กัลป์ตินันท์"ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี ของพรรคเพื่อไทยหาเสียง มีมวลชนคนเสื้อแดงแห่ต้อนรับทักษิณอย่างล้นหลาม
ตามกำหนดการเดิมนั้น “ทักษิณ ชินวัตร” จะเดินทางจากกรุงเทพฯในเวลา 11.15 น. โดยสายการบินแอร์เอเชีย ไฟลต์ FD 3374 และจะถึงอุบลราชานี เวลา 12.30 น. เมื่อถึงสนามบินอุบลราชธานี ก็จะเดินทางไปบ้านนายเกรียง กัลป์ตินันท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นพี่ชายของกานต์ กัลป์ตินันท์ เพื่อกินข้าวมื้อกลางวัน
อย่างไรก็ตาม จากที่กำหนดจะเดินทางทั้งขาไปขากลับโดยสายการบินแอร์เอเชีย เพื่อสร้างภาพด้วยการนั่งสายการบิน“โลว์คอสต์”เหมือนเมื่อครั้งไปช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ของพรรคเพื่อไทย หาเสียงเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนเดือนที่แล้วนั้น..“ทักษิณ ชินวัตร”ได้เปลี่ยนแผนมานั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว“Gulfstream G650”ราคากว่า 2 พันล้านบาทของตนเอง
เพราะเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวลำนี้..ภายในห้องโดยสารของเครื่องบินมีสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ต่างจากเครื่องบินราคาประหยัด ที่ต้องนั่งอุดอู้ในพื้นที่คับแคบ..และปะปนกับผู้โดยสารคนอื่นๆ
สำหรับบรรยากาศที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี คึกคักตั้งแต่เช้า มีมวลชนเสื้อแดงอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง นับพันคนทยอยเดินทางมารอต้อนรับ“ทักษิณ ชินวัตร”..โดยสวมเสื้อแดงสกรีนข้อความ“ครอบครัวเพื่อไทย" และในมือมีทั้งดอกกุหลาบแดง หมอน ผ้าขาวม้า ของฝาก รวมทั้งป้ายมีรูปภาพ“ทักษิณ” พร้อมป้ายข้อความ ระบุว่า "#เราไม่ทิ้งกัน TONY WOOSOME...FC"
ทันทีที่อดีตโทษชายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีทับซ้อน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี เมื่อเวลา 12.20 น. มวลชนเสื้อแดงที่ตั้งแถวต้อนรับทั้ง 2 ฝั่งนับพันคน ได้กรูกันเข้าไปหา“ทักษิณ”เพื่อขอถ่ายรูป ผูกผ้าขาวม้า มอบดอกกุหลาบ ขอลายเซ็น พร้อมตะโกน "เรารักทักษิณ" กึกก้องสนามบิน จนเกิดความชุลมุน ถึงขั้นมีแฟนคลับทำกำไลเพชรหล่นหาย..และการ์ดของ“ทักษิณ”ต้องชูถามหาเจ้าของ
ส่วนแกนนำพรรคเพื่อไทยที่มารอต้อนรับ“นายใหญ่”อดีตนักโทษโกงบ้านกินเมืองนั้น นอกจากนายเกรียง กัลป์ตินันท์ บ้านใหญ่เจ้าของพื้นที่แล้ว คนอื่นๆ ก็มีอาทิ นายสุทิน คลังแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี , นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.อุบลราชธานี , นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี สส.อุบลราชธานี มารอต้อนรับด้วย
“ทักษิณ ชินวัตร”ผู้เปรียบเหมือน“พญาเหยียบเมือง” ออกจากสนามบินโดยนั่งรถตู้เลกซัส สีดำ ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร ไปที่บ้าน นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เพื่อกินอาหารกลางวันตามกำหนดการ..พร้อมด้วยน้องสาวและน้องเขย ที่ร่วมคณะไปด้วย คือ นางเยาวภา และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก่อนที่จะไปขึ้นเวทีปราศรัยที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งผู้ฟังการปราศรัยก็กำหนดไว้แล้วเช่นกัน 4 พันคน..ตามจำนวนที่นั่งที่มีอยู่ในหอประชุม
การเหยียบจังหวัดอุบลราชธานีของ“ทักษิณ ชินวัตร”ครั้งนี้..เป็นไปตามคำเชิญของนายเกรียง กัลป์ตินันท์ ซึ่งมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับทักษิณ และไปมาหาสู่กับ“ทักษิณ”อย่างสม่ำเสมอ..ในช่วงที่ทักษิณมีสภาพเป็น“สัมภเวสี”หลบหนีโทษคดีทุจริตโกงบ้านกินเมืองอยู่ในต่างแดน..และทักษิณเองก็ยอมรับว่าผูกพันกันมานานจึงได้มาช่วยหาเสียงให้น้องชายนายเกรียง
นอกจากนี้ ยังถือว่าการเดินทางไปช่วยนายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชานี หาเสียงในนามพรรคเพื่อไทยครั้งนี้..เป็นครั้งที่สองของการขึ้นเวทีปราศรัยในรอบ 17 ปีของ“ทักษิณ ชินวัตร”ถัดจากจังหวัดอุดรธานี..และที่สนามจังหวัดอุบลราชธานี..ก็อาจจะไม่ง่ายเหมือนครั้งแรกที่สามารถมีส่วนช่วยทำให้นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี ชนะการเลือกตั้งมาแล้วเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ที่อาจจะไม่ง่ายเพราะคู่ต่อสู้ของนายกานต์ กัลป์ตินันท์ มิอาจประเมินต่ำได้ นั่นก็คือ นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล วัย 58 ปี ภรรยานายสมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต ส.ว.นครราชสีมา และเจ้าของโรงแป้งเอี่ยมอุบล น้องชายของ“กำนันป้อ-วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” บ้านใหญ่แห่งโคราชและเจ้าของโรงแป้งเอี่ยมเฮง อีกทั้งยังเป็นน้องสาวของนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ที่เป็นภรรยาของกำนันป้อ และเป็นทั้งอาสะใภ้และน้าสาวของ“สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในรัฐบาลชุดนี้
จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล หรือ“มาดามกบ” เคยได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลเสิงสาง อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และเคยเป็น สส.นครราชสีมาสมัยแรก ในนามพรรคเพื่อแผ่นดิน เมื่อปี 2550..โดยในปี 2564 ได้ก่อตั้งพรรค“เพื่อไทรวมพลัง” ที่เปลี่ยนมาเป็น“ไทรวมพลัง”ในปัจจุบัน..และจาการเลือกตั้ง สส.ครั้งล่าสุดในปี 2566..พรรคไทรวมพลังกลายเป็น“ม้ามืดนอกสายตา”สามารถคว้าที่นั่ง สส.อุบลราชานีได้ถึง 2 คน
ทั้งนี้ สส.อุบลราชธานี 11 คนจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2566 ประกอบด้วย..พรรคเพื่อไทย 4 คน-นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ เขต 1, นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี เขต 4, นางสาวธัญธารีย์ สันตพันธุ์ เขต 6 และนางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ เขต 7
พรรคภูมิใจไทย 3 คน-นายสุทธิชัย จรูญเนตร เขต 5, แนน-บุณย์ธิดา สมชัย เขต 8 และนางสาวตวงทิพย์ จินตะเวช เขต 11
พรรคไทรวมพลัง 2 คน-นางพิมพกาญจน์ พลสมัคร เขต 3 และนายสมศักดิ์ บุญประชม เขต 10
อีก 2 คน คือ พรรคไทยสร้างไทย-นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ เขต 9 และพรรคประชาธิปัตย์-นายวุฒิพงษ์ นามบุตร เขต 2
วันที่ 22 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ได้วัดใจคนอุบลราชธานีว่าจะเลือกใคร..ระหว่าง“กานต์ กัลป์ตินันท์” เจ้าของตำแหน่งเดิมที่ลาออกก่อนครบวาระเพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง..กับ“มาดามกบ-จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล”
สำคัญที่สุดยังเป็นการวัดบารมีอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ด้วยว่า ยังมีอยู่หรือไม่ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเทียบกับตระกูล“หวังศุภกิจโกศล”เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมแป้งมันส่งออกต่างประเทศผู้ยิ่งใหญ่ ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี